Market Wrap-Up

• SET วันที่ 27 ธ.ค.66 ปิด -3.02 จุด อยู่ที่ 1,410.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,285 ลบ.ต่างชาติขาย 791 ลบ.สถาบันซื้อ 1,528 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 5 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 685 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,CPN,CPALL,OR,BDMS และมียอดขายสุทธิ DELTA,KTB,PTTEP,GULF,SCGP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,574 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ BJC-R,AP-R,CRC-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 4,557 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 257,137 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 3,125 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.30%, S&P500 +0.14%, Nasdaq +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหาฯ ขณะที่กลุ่พลังงานปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ และ Microsoft -0.15% หลังถูก นสพ.นิวยอร์คไทมส์ฟ้องบริษัท OpenAI ละเมิดลิขสิทธิ์สินทรัพย์ทางปัญญา ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx 600 +0.21% ได้แรงจากบริษัทไบเออร์ +2.3% ขณะที่บริษัทเดินเรือปรับลดลง  

 Market View

• ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้นตอบรับคาดการณ์เฟดมีโอกาส 73.9% จะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม 20 มี.ค. 67 หลังรายงาน US PCE พ.ย.ชะลอตัวอยู่ที่ 2.6% & ต.ค. 2.9% YoY สอดคล้องกับความเห็นของนายโรเบิร์ต แคปเลน อดีต ปธ.เฟดสาขาดัลลัส ชี้เฟดจะลดดอกเบี้ยในไม่ช้า เพื่อลดความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีหน้า 6 ครั้ง รวม 1.25% ซึ่งลดลงมากกว่า Fed Dot Plot คาดจะปรับลดลงเพียง 3 ครั้ง รวม 0.75% และคาดจะเริ่มปรับลดลงในช่วง Q3/67 จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับขึ้นติดต่อกัน 8 สัปดาห์ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีหน้า หลังเงินเฟ้อยูโรโซน พ.ย. ลดลงอยู่ที่ 2.4% YoY กอปรภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนในช่วง Q4/66 – Q1/67 มีโอกาสเกิดภาวะ Technical Recession ส่งผลให้ดัชนีหุ้นยุโรปปรับขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์ หลัง Euro Bond Yield ปรับลดลง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก และเทคโนโลยีของยุโรป ฝั่งเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.54% ตอบรับรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมจีน พ.ย. +29.5% YoY เป็นการปรับขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือน ส่งผลให้ GDP จีนปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5 % ขณะที่ดัชนนิเกอิ +1.13% หลังการเปิดเผยความเห็นของ BOJ บ่งชี้ยังหนุน ม.ผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษต่อไป ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่า ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออกญี่ปุ่น ประเด็นเศรษฐกิจในช่วงต้นปีหน้า ติดตาม PMI ภาคการผลิต & บริการ ธ.ค. ของภูมิภาคต่าง ๆ , CPI ยูโรโซน ธ.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ธ.ค. ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายการเงิน สำหรับดัชนี SET วานนี้ -0.21% ปริมาณการซื้อขาย 3.92 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1.5 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 791 ลบ. ดัชนีถูกกดดันจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ -2.9% และไฟแนนท์ -1.1% ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว, ขนส่ง, รพ. ปรับขึ้นรับข่าวจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ได้ตามเป้าหมาย 27 – 28 ล.คน โดยภาพรวมสถาบันเป็นผู้ซื้อสุทธิหลักจากเม็ดเงินกองทุน TESG, RMF ในช่วงปลายปี กอปรรอประเมินแนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติในช่วงต้นปีหน้า หลัง FED ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย วันนี้ติดตามการรีบาลานท์ SET50/100 โดยหุ้นเข้าใหม่ SET50 คือ KCE /SET 100 คือ AEONTS,ICHI,ITC,M,MOSHI,RBF,SAPPE,SISB,TKN,TOA

Daily Strategy

• ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,400 – 1,405 แนวต้าน 1,415 – 1,420 คาดทรงตัวรอประเมิน Fund Flow ของต่างชาติในปีหน้า แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPAXT,CRC,DOHOME,CPN/ อาหาร & เครื่องดื่ม CPF,BTG,ICHI / และกลุ่ม High Dividend Yield เช่น DMT,SAT,AH,AP
• ICHI* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 19.50 บาท) แนวโน้มกำไร 4Q66 ลดลง QoQ จากที่เป็นช่วง Low season แต่จะเติบโตได้ YoY ต่อเนื่องจากยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 67 ผู้บริหารคาดรายได้โต +10%YoY เป็น 8 พันล้านบาท โดยในช่วง 1Q67-2Q67 คาดเห็นกำไรโตได้ทั้ง QoQ, YoY หนุนจากการเข้าสู่ฤดูร้อน ประกอบแรงกดดันราคาน้ำตาลและ PET Resin ที่ปรับลดลง นอกจากนี้ผู้บริหารมองตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในประเทศไทยยังสามารถเติบโต พร้อมทำการตลาดสินค้ากลุ่มอื่นในกลุ่ม Healthy Trend กลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลม รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิต เพื่อเดินหน้าสู่ยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี (ปี 68) ปัจจุบันอัตราการใช้กำลังผลิตโดยเฉลี่ยยังอยู่ในระดับสูง และมีแผนเพิ่มไลน์การผลิต +13% เป็น 1,700 ล้านขวด ในช่วง 4Q67-1Q68 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 66-67 ที่ 1.07 พันล้านบาท +66%YoY และ 1.15 พันล้านบาท +8%YoY
• WHA (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย 80 บาท) ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q66 โดดเด่นจาก 1.การรับรู้รายได้จากการขายที่ดิน โดยเฉพาะในส่วนของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์EV (WHA วางเป้ายอดขายที่ดินปี66 ที่ 2,750 ไร่) 2.การรับรู้รายได้จากการขายทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHART ที่ราว 3,567 ลบ. ส่วนการดำเนินงานในช่วงถัดๆไปยังคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานผลิตจาก จีน/ญี่ปุ่น เข้ามาในใทยและเวียดนามมากขึ้น ขณะที่ภาพระยะสั้น WHA ยังจะมี Sentiment บวกจาก าร ได้SET ESG Ratings AAA เข้าข่ายการลงทุนของกองทุน TESG

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th