Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : มาตรการใหม่เพื่อยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย

352

 

Market Strategy : มาตรการใหม่เพื่อยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย

เมื่อวันอังคาร กระทรวงการคลังเสนอ 5 มาตรการ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อมุ่งเป้าส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และการใช้จ่าย โดย 5 มาตรการมีดังนี้

1. มาตรการจูงใจด้านภาษีและการเงินเพื่อให้สินค้าไทยน่าสนใจแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น
2. มาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว มาตรการดังกล่าวควรเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าและบริการ เช่น การลดภาษีสินค้าแบรนด์เนม
3. พิจารณาความเหมาะสมในการยกเลิกการเสนอสินค้าปลอดภาษีสำหรับขาเข้าเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศ
4. การผ่อนคลายเวลาเปิดปิดสถานบริการเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายรายวันของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
5. การยกเว้นวีซ่า (ฟรีวีซ่า) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อส่งเสริมการเดินทางมาประเทศไทย ขณะนี้มาตรการดังกล่าวได้รับมอบหมายให้กระทรวงต่างๆ ศึกษาต่อไป ก่อนที่จะเปิดเผยรายละเอียดขั้นสุดท้ายของแต่ละกระทรวง

มาตรการที่ 1 และ 2 : การสนับสนุนสินค้าไทยและการช้อปปิ้ง
รายละเอียดยังคงคลุมเครือ ดังนั้นการระบุผู้รับผลประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจงจึงเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยทั่วไปควรเป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีก

มาตรการที่ 3 : การยกเลิกข้อเสนอผลิตภัณฑ์ปลอดภาษีสำหรับผู้โดยสารขาเข้า
มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อ AOT เป็นหลัก เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อรายได้สัมปทานของ คิง เพาเวอร์ ที่มีต่อ AOT ปัจจุบัน คิง เพาเวอร์ จ่ายเงินให้ AOT ตามยอดใช้จ่ายต่อหัวที่สนามบินของ AOT จำนวน 5 แห่ง (ทุกสนามบินยกเว้น DMK) สำหรับการขายสินค้าปลอดภาษี อย่างไรก็ตาม การคำนวณการใช้จ่ายต่อหัวจะขึ้นอยู่กับพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่กำหนดให้กับ คิง เพาเวอร์ ตามมาตรการดังกล่าว การลดพื้นที่เชิงพาณิชย์ของ คิง เพาเวอร์ อาจส่งผลให้ คิง เพาเวอร์ ขอแก้ไขสัญญาเพื่อสะท้อนถึงการลดลงของยอดขายที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการดังกล่าว AOT จึงอาจได้รับผลกระทบต่อรายได้สัมปทาน ทั้งนี้ สำหรับขนาดของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เราสังเกตว่าการใช้จ่ายปลอดภาษีของนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่การเดินทางออกมากกว่าการมาถึง ดังนั้นจึงจำกัดข้อเสียบางประการของ AOT

เราคาดหวังว่าผู้ค้าปลีกที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับที่ คิง เพาเวอร์ นำเสนอจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์หลัก โดยเฉพาะผู้ค้าปลีกที่มีไวน์และวิสกี้หลากหลายประเภท (CPALL, CPAXT, BJC และ CRC) เครื่องสำอาง (CPN – ร้านเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า ) และของว่างที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว (CPALL, CPAXT, BJC และ CRC)

มาตรการที่ 4 : ขยายเวลาปิดและเปิด
CPALL คือ ผู้รับผลประโยชน์หลัก เนื่องจากเราเชื่อว่าระยะเวลาการให้บริการที่ยาวนานขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อ CPALL ร้าน 7-11 ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เราคาดว่าการเติบโตจากยอดขายต่อสาขาเดิม (Sssg) จะดีกว่า เนื่องจากจำนวนลูกค้าในช่วงเวลากลางคืนโดยทั่วไปจะช้า

มาตรการที่ 5 : การยกเว้นวีซ่า (หรือปลอดวีซ่า)
โดยทั่วไปแล้วทุกกลุ่มที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์ ภาคส่วนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด ได้แก่ การขนส่งทางอากาศ (AOT, AAV, BA), โรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (ERW, AWC, SPA,CENTEL, MINT) และผู้ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC และ CRC)

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ดีดกลับ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้หุ้นไทย รีบาวน์ ดีดกลับ ใกล้ 1300 จุด ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้