***กำไร 3Q66 สูงสุดเป็นประวัติการณ์***

3Q66 กำไร 10,011 ลบ. สูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากกำไรพิเศษจากการตีมูลค่าสินทรัพย์จาก ESSO นอกจากนี้กำไรยังหนุนจากทุกธุรกิจ โดยเฉพาะโรงกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นตามค่าการกลั่นและมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น โดย 4Q66 ทางฝ่ายมองว่า BCP ค่อนข้างน่าสนใจเมื่อเทียบกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากแม้ค่าการกลั่นที่อ่อนตัว แต่จะมีธุรกิจอื่นช่วยหนุน

มีกำไรพิเศษจำนวน 7,389 ลบ. จากการตีมูลค่าสินทรัพย์จำก ESSO โดยเฉพาะมูลค่าที่ดิน นอกจากนี้กไไรยังหนุน จาก 1) ธุรกิจโรงกลั่นซึ่งค่าการกลั่นพื้นฐานปรับตัวขึ้นเป็น 14.7 USD/bbl จาก 4.7 USD/bbl ใน 2Q66 จากอุปทานที่ตึงตัว และมี stock gain ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 2) ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามค่าการตลาดสุทธิซึ่งมีแรงหนุนจาก stock gain ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นเช่นกัน 3) ธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มได้ ตามช่วง high season และกำลังการผลิตที่เพิ่มเข้ามา 4) ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ปรับตัวดีขึ้นได้ตามปริมาณการขายเอทานอลและไบโอดีเซลที่เพิ่มขึ้น 5) ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ปรับตัวดีขึ้นได้ตามปริมาณขายน้ำมันที่เพิ่มจากแหล่ง Brage และ Nova นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากการรับรู้ผลการดำเนินการจาก ESSO ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.66 ทำให้โดยรวมกำไรสูงถึง 11,011 ลบ. ทั้งนี้ 4Q66 ทางฝ่ายมองว่า BCP ค่อนข้างน่าสนใจเมื่อเทียบกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากแม้ค่าการกลั่นที่อ่อนตัวเมื่อเทียบฐานสูงใน 3Q66 แต่จะมีธุรกิจอื่นหนุนทั้ง high season ของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะมีกำลังการผลิตใหม่ เข้ามา คงคำแนะนำ “ซื้อ” TP’67 ที่ 47.00 บาท

อดิสรณ์ มุ่งพาลชล, นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ #497 ณัฐนนท์ มนต์ขลัง, ผู้ช่วยนักวิเคราะห์