• BAM : คาด 3Q23 อ่อนแอ

เศรษฐกิจอ่อนแอ อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นกระทบกำไรสุทธิใน 3Q
เราคาดว่า BAM จะรายงานกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 360 ล้านบาท (-50%yoy/-15%qoq) โดยได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลักที่อ่อนแอท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

การเก็บเงินสดพลาดจากเป้าหมายของบริษัท
เราคาดว่าการจัดเก็บเงินสดรวมจะอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท (-12%yoy/-6%qoq) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัท (4.5 พันล้านบาท) ประมาณ 13% การเติบโตทางเศรษฐกิจใน 3Q23 อ่อนแอกว่าคาด เนื่องจากขาดการใช้จ่ายของภาครัฐ การเติบโตทั่วโลกที่ไม่เอื้ออำนวย และอัตราเงินเฟ้อที่สูง นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้การซื้อบ้านบางส่วนลดลง ส่งผลให้ยอดขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ลดลง การเก็บเงินสดอาจส่งผลให้การเติบโตของรายได้หลักอ่อนแอ ทั้งรายได้จากดอกเบี้ย (ซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของ NPL) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (ซึ่งแสดงถึงการขาย NPA)

มองในแง่ดี, การซื้อ NPL น่าจะเพิ่มขึ้น
ดังที่เห็นในผลประกอบการ 3Q23 ของภาคธนาคาร ยอดขาย NPL เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระบวนการปรับพอร์ตของ KBANK และการหมดมาตรการผ่อนปรนของธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการซื้อ NPL จะยังคงแข็งแกร่งใน 3Q ที่ 5 พันล้านบาท เมื่อพิจารณาจากต้นทุนซึ่งดีขึ้นจาก 4.7 พันล้านบาทในไตรมาสก่อน

แม้จะมีความท้าทายในระยะสั้น แต่เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ในระยะยาว
หากประมาณการ 3Q23 ของเราถูกต้อง downside ของประมาณการกำไรปี 2023 จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2.8 พันล้านบาท เช่นเดียวกับ downside ของประมาณการเงินปันผลของเราในปีนี้ที่ 0.6 บาท แต่ด้วยยอดขาย NPL ที่เพิ่มขึ้น และความคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นในปีหน้า ดังนั้น กำไรก็ควรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BAM โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 16.00 บาท - ประกาศผลประกอบการในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566