•    SCC : 3Q23F – ยังขาดความน่าสนใจ
คาด 3Q23F ออกมาไม่ดีนัก
ผลประกอบการของ SCC ใน 3Q23F น่าจะยังขาดความน่าสนใจ ภาคส่วนปฏิบัติการทั้งหมดยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผันผวนในตลาดเคมีภัณฑ์ เราคาดการณ์ผลประกอบการ 3Q23F ที่ 4.9 พันล้านบาท (-40% QoQ แต่ +99% YoY) จากรายได้หลักที่ 4.1 พันล้านบาท (-42% QoQ แต่ +27% YoY) ทั้งนี้ SCC บันทึกกำไรครั้งเดียวจำนวน 2.9 พันล้านบาท จากการปรับมูลค่ายุติธรรมของ NocNoc (ภายใต้กลุ่มซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง)

เคมีภัณฑ์ – สภาพของตลาดที่ท้าทาย
เราคาดว่า ส่วนแบ่ง EBITDA (รวมรายได้จากตราสารทุน) จากการดำเนินงานด้านเคมีภัณฑ์จะลดลง 18% QoQ (แต่กลับจากขาดทุน YoY) แม้ว่าคาดว่าจะมีกำไรจากสินค้าคงคลังอยู่ที่ 801 ล้านบาท (เทียบกับขาดทุน 1.8 พันล้านบาทใน 2Q23 และ 1.1 พันล้านบาทใน 3Q22 ) อย่างไรก็ตาม PVC อาจเป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่แสดงประสิทธิภาพเชิงบวก ในขณะที่สารเคมีอื่นๆ โดยเฉพาะโอเลฟินส์น่าจะบันทึกอัตรากำไรที่ลดลง QoQ อีกครั้ง นอกจากนี้ เรายังคาดว่าจะมีส่วนขาดทุนจาก Longson Petrochemical (LSP) ในเวียดนาม เนื่องจากการดำเนินงานขั้น downstream ของบริษัทได้เริ่มขึ้นใน 3Q23F

CBM – ชะลอตัวลง
ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง (CBM) มีแนวโน้มลดลงใน 3Q23F เราคาดการณ์ส่วนแบ่ง EBITDA จากกลุ่มนี้จะอยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท ลดลง 24% QoQ และลดลง 12% YoY นอกเหนือจากการไม่มีการเพิ่มขึ้นเพียงครั้งเดียว QoQ แล้ว อุปสงค์ในประเทศยังดูอ่อนแอลงอย่างมากทั้ง QoQ และ YoY ในขณะเดียวกัน โครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล (ประมาณ 40% ของความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศ) ประสบปัญหาการชะลอตัวในช่วงไตรมาสดังกล่าว ในขณะที่อุปสงค์ที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมภาคเอกชนยังคงซบเซา

คงคำแนะนำ “ถือ”
เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ SCC โดยมูลค่าที่เหมาะสมตาม SOTP อยู่ที่ 310.00 บาท ซึ่งความเสี่ยงเชิงลบที่สำคัญ : ลดการแพร่กระจายของสารเคมี และการปิดระบบโดยไม่ได้วางแผน ปัจจัยเชิงบวกที่สำคัญ : ส่วนต่างของราคาที่มากขึ้น

Market Insight
     E- mail :tiscoresearch@tisco.co.th