สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (11กันยายน 2566)-----บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ประกาศความพร้อมนับถอยหลังไม่เกิน 2 สัปดาห์เดินเครื่อง COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม HL3 กำลังผลิต 30 MW หลังการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ไฟเขียวเชื่อมสายส่ง เข้ากับสถานีไฟฟ้า LaoBau 110KV และทดสอบระบบจ่ายไฟ งานนี้ผ่านฉลุย ด้านซีอีโอ “ยุทธ ชินสุภัคกุล” ยันรับรู้รายได้หลังจ่ายไฟทันที มั่นใจปีนี้โตเกิน 50% ตามเป้า
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยว่า ขณะนี้การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ได้อนุมัติให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม HL3 ในจังหวัด Quang Tri ประเทศเวียดนาม เชื่อมต่อสายส่งของโครงการเข้ากับสถานีไฟฟ้า LaoBau 110KV และทำการจ่ายไฟฟ้าให้กับโครงการ เพื่อทำการทดสอบระบบเดินเครื่องตัวกังหันลม Wind turbine และทดลองจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบสายส่ง เพื่อเตรียมที่จะเริ่มดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในกลางเดือนกันยายนนี้ ซึ่งบริษัทฯจะสามารถรับรู้รายได้ในทันที จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้รายได้รวมปี 2566 เติบโตกว่า 50%ตามเป้าหมายที่วางไว้
“เราเชื่อมั่นว่า ภายหลังจากที่โรงไฟฟ้าพลังงานลม ได้ทดสอบจ่ายไฟฟ้า และทดสอบเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าไปเรียบร้อย ซึ่งถือว่าการ Back Energize ประสบความสำเร็จ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการเตรียมเข้าสู่การจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ และถือเป็นข่าวที่ดีของบริษัทภายหลังจากที่ใช้ระยะเวลาในการรอความชัดเจนจากทางการประเทศเวียดนาม ซึ่งเมื่อ HL3 ดำเนินการ COD แล้ว ส่วนของโครงการอื่นๆ ที่เหลือก็จะใช้เวลาอีกไม่เกิน 30 วัน โดยคาดว่าภายในต้นไตรมาส 4/2566 จะสามารถ CODได้ครบทั้ง 160 MW อย่างแน่นอน” นายยุทธกล่าวในที่สุด
อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯมีผลกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 52.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2565 ซึ่งมีผลกำไร 31.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.62 ล้านบาท คิดเป็น 65.04% ขณะที่มีรายได้รวม 488.44 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 74.03 ล้านบาท คิดเป็น 17.86% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 124.17 ล้านบาท คิดเป็น 343.60% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการติดตั้ง Solar rooftop
SE เผยทิศทาง Q3/66 โตต่อ มุ่งเน้นสินค้านวัตกรรมและบริการใหม่ ตอบสนองเทรนด์ ESG
SE เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/66 เติบโตในเกณฑ์ดี มุ่งเน้นจัดหาสินค้านวัตกรรมและบริการใหม่ ตอบสนองเทรนด์ ESG ตุน Backlog ทำสถิติสูงสุดราว 250 ล้านบาท ภาพรวมอุตสาหกรรมแนวโน้มดีหนุนความต้องการสินค้าเพิ่ม ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 รายได้ทำนิวไฮ 290.22 ล้านบาท โต 6.94% กำไรสุทธิ 26.91 ล้านบาท
นายเกริก ลีเกษม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะเติบโตในเกณฑ์ดี และมีโอกาสรับงานใหม่เพิ่มเนื่องจากธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ส่งผลให้มีปริมาณคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นการจัดหาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม และบริการใหม่เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของของภาคอุตสาหกรรม สอดรับกับนโยบาย ESG ซึ่งในอนาคตภาคการผลิตมีความจำเป็นต้องปรับปรุงระบบเพื่อให้ทั้งกระบวนการปล่อยของเสียน้อยที่สุด ถือเป็นโอกาสของบริษัทในการนำเสนอสินค้าที่สามารถลดคาร์บอนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อสร้างใหม่ และโรงงานเดิม
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ทำสถิติสูงสุดที่ประมาณ 250 ล้านบาท อีกทั้ง เดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชนอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ภาพรวมอุตสาหกรรมแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการบริโภคภาคเอกชนส่งผลให้มีความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มทยอยการลงทุน โดยเฉพาะเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทั้งการซ่อมบำรุง การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใหม่ อีกทั้งกฎหมายบังคับเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด อาทิ การลดคาร์บอนไดออกไซด์ การบริหารจัดการระบบน้ำเสียให้นำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตได้ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจึงถือเป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัททั้งสิ้น
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 บริษัทมีรายได้รวมทำสถิติใหม่ (New High) 290.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 271.38 ล้านบาท จำนวน 18.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.94% และมีกำไรสุทธิ 26.91 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.53 ล้านบาท จำนวน 0.63 ล้านบาท หรือลดลง 2.28%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 155.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 134.74 ล้านบาท จำนวน 20.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.32% และมีกำไรสุทธิ 15.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.06 ล้านบาท จำนวน 1.06 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.54%