Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

414

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม

Market wrap & Outlook


สรุปภาพตลาดวานนี้ วานนี้ SET บวกแรงรับการเมืองมีพัฒนาการเพิ่ม นำกลุ่มอิงการบริโภค CPAXT CPALL CRC CPN CBG ชิ้นส่วนฯ DELTA HANA และหุ้นบวกแรง SIRI XPG CBG MTW NEX BAM BEC TIDLOR SYNEX ขณะที่หุ้น Swing แรงวานนี้ นำโดน XPG CHO CBG WPH BEC MTW

แนวโน้มตลาดวันนี้ โหวตนายกผ่านเมื่อวาน พาหุ้นไทยบวกฉลุย (วันนี้บวกต่อ แต่ไม่แรง)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ วิ่งขึ้นแตะแนวต้าน 1,540 จุด ได้ตามที่เราประเมิน แถมวิ่งเกินคาดดูทรงแล้วเหมือนจะได้สติเลือกข้างได้เสียที สำหรับแนวโน้มการขึ้นทดสอบกรอบบนที่เราวางไว้ คือ 1,550-1,570 จุด จะเกิดขึ้นภายในต้นเดือน กย.นี้
กลยุทธ์ คงคำแนะนำ เลือกหุ้นที่เราเล็งไว้ผ่านงบการเงินที่ผ่านจุดต่ำสุด มีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่อง Q-Q พ่วงด้วยหุ้นเชื่อมโยงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จในเดือน กย. เช่น มาตรการกระตุ้นการบริโภค ทำให้เงินสะพัดและมีการหมุนเวียน (ค้าปลีก CBG OSP CPAXT CPALL PLANB ฯลฯ, สินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ SFLEX CBG PLANB, สินเชื่อรายย่อย), มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ หนุนธุรกิจการเงิน และอสังหาฯโดยตรง เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน Buy on Dip

วิเคราะห์ทางเทคนิค SET Index 120 นาที เคลื่อนที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยมนานกว่า 3 สัปดาห์ ล่าสุด break out ทะลุต้าน “Bullish triangle” ขณะที่ MACD > 0 บ่งชี้ภาวะกระทิง....กำลังมา! ขณะที่โครงสร้างในอดีตชี้ว่าหากเข้าเงื่อนไขกลับตัว (Breakout & Bullish MACD) ดัชนีจะขึ้นได้ไกล...วิ่งฉิว! สรุป: แนวโน้มตลาดส่งสัญญาณเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้นรอบใหม่ เป้าหมายถัดไป 1,560 (ไม่ยาก) ต้านระยะกลางรายเดือน 1,580 ขณะที่โซนรับขยับขึ้นมาที่ 1,530


What to watch งานสัมมนา เฟด Jackson Hole ระหว่างวันที่ 25-26 ส.ค.นี้
การเมืองในประเทศ: โหวตได้นายกฯ คนที่ 30 ของไทยเมื่อวาน ขั้นต่อไป รอจัดตั้งรัฐบาล
ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (China Evergrande Group) บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ได้ยื่นคำร้องขอพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายล้มละลาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของโลก
สภาพัฒน์ หั่น GDP ปี 66 ขยายตัว 2.5-3% จากเดิมคาด 2.7-3.7% โดย ไตรมาส 2/66 ขยายตัว 1.8% น้อยกว่าที่ตลาดคาด 3% และลดลงจาก ไตรมาสแรกที่ 2.6% (y-y)
S&P ตามรอยมูดี้ส์ หั่นเครดิตแบงก์สหรัฐหลายแห่ง เตือนผลกระทบดอกเบี้ยสูง
S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารคีย์คอร์ป, โคเมริกา อิงค์, วัลเลย์ เนชันแนล แบงคอร์ป, ยูเอ็มบี ไฟแนนเชียล คอร์ป และแอสโซซิเอทเต็ด แบงก์-คอร์ป ลง 1 ขั้น นอกจากนี้ S&P ยังได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของธนาคารริเวอร์ ซิตี้ แบงก์ และเอสแอนด์ที แบงก์ ลงสู่ "เชิงลบ" และยังคงให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของธนาคารไซออนส์ แบงคอร์ป เป็น "เชิงลบ"
MSCI rebalancing (ใช้ราคาปิด 31 ส.ค., มีผล 1 ก.ย.)
MSCI Thailand: เข้า = TTB ออก = CBG, SAWAD
MSCI Thailand Small Cap: เข้า = CBG, COM7, ITC, PSG, SAWAD ออก = PTL, SINGER, S

หุ้นแนะนำวันนี้ PLANB Domestic Consumption theme play
(S 9.2 R 10 SL 9)
ADVANC 23 ส.ค. ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ลุ้นยอมปรับสัญญาเพื่อความอยู่รอด หนุนกำไร ADVANC
(S 220 R 225 SL 216)

Tactical port เพิ่ม PLANB

รายงานพื้นฐานวันนี้

Thai Market Strategy
กลยุทธ์การลงทุนเชิงปัจจัยพื้นฐาน หุ้นใหญ่อิงเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมผงาดรับการตั้งรัฐบาล
การโหวตนายกผ่านเมื่อวานนี้ เป็นการปลดล็อค Overhang ตลาดที่ค้างมานาน และเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic play ทั้งส่วน Consumption (อิงการบริโภคในประเทศ) และท่องเที่ยว โดยเฉพาะหุ้นใหญ่จากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นต่างๆ บวกกับเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติกลับมา
ในแง่ Timeline โดยคร่าวๆ ต่อจากนี้ คาดโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ภายใน 2-3 วันนี้ จากนั้นคาดแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีได้ ปลาย ส.ค – ต้น ก.ย. และแถลงนโยบายต่างๆ ภายใน ก.ย. และสุดท้าย คาดเริ่มเห็นนโยบายกระตุ้นต่างๆ อย่างเร็วที่สุดในปลาย ก.ย.-ต.ค.
เราคัดเลือกหุ้นกลุ่มผู้นำที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นแรลลี่ในรอบนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม จาก 14 บริษัท
กลุ่ม 1: ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นแจกเงิน, พักหนี้เกษตรกร, ลดค่าไฟ ได้แก่ กลุ่ม Consumer (CPN, CPALL, CPAXT, COM7), กลุ่มการเงิน (TIDLOR), กลุ่มท่องเที่ยว,อาหารและเครื่องดื่ม (ERW, MINT, CBG), กลุ่มขนส่ง (BEM)
กลุ่ม 2: กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการที่ศึกษาแล้ว ค้างท่ออยู่ เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูงต่างๆ ได้แก่ กลุ่มรับเหมา (STEC, CK) และโครงการน่าตื่นเต้นใหม่ๆ เช่น กลุ่มนิคม (WHA, AMATA)
กลุ่ม 3: กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตร EV และ Digitalization เช่น NEX
อย่างไรก็ตาม ในแง่ดัชนีที่บวกขึ้นมาวันก่อน ระยะสั้นจึงมองว่า Upside รอบนี้ อาจจะค่อนข้างจำกัดบนกรอบบนแถว 1580-1600 จากงบประมาณที่ล่าช้า ทำให้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ช่วงแรก ซึ่งการออกมาตรการใหญ่ๆ อาจจะต้องบวกไปอีก 5-6 เดือน คือ ประมาณปลาย ม.ค.-ก.พ. 2024
Fundamental view: ดังนั้นกลยุทธ์หลัก คงเน้น Consumer Staple (สินค้าจำเป็น) และ Tourism play ส่วนกลุ่มที่เหลือที่กล่าวมา เป็นลักษณะเก็งกำไรตาม Sentiment ตลาด

Retail Finance Sector
กลุ่มการเงินบุคคล แนวโน้ม 2H23 เติบโตแบบชะลอความแรงลง
ภาพรวมกำไรสุทธิ 2Q23 ของกลุ่มการเงินรายย่อยที่เราให้คำแนะนำ (Retail Finance) อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท ลดลง 4% YoY (Credit cost สูงขึ้น) และทรงตัว QoQ สอดคล้องกับคาดการณ์ของเราและตลาด ทั้งนี้ เราได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนกลุ่มฯ ลงเป็น “น้อยกว่าตลาด” จากเดิม “เท่ากับตลาด” จาก 1) ทิศทาง NPLs/loans ratio ของกลุ่มฯ จะปรับสูงขึ้นใน 3Q23 2) แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q23 ของกลุ่มฯ จะเพียงทยอยฟื้นตัว YoY และ QoQ (ไม่ได้เติบโตสูงมากเหมือนในอดีต) และ 3) Valuations หุ้นในกลุ่มฯ ค่อนข้างตึงตัว
Fundamental view: เราแนะนำซื้อ เพียง TIDLOR (ราคาเป้าหมาย 25 บาท) จากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง และ Valuations ไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้