• SVI : สถานะรอดู ; ปรับคาดการณ์
ปรับลดการคาดกาณ์เพื่อสะท้อนการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรม
ฝ่ายบริหารปรับลดการคาดการณ์รายได้ปี 2023F เป็น 750 ล้านดอลลาร์ ทรงตัว YoY (จาก 850 ล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้) สาเหตุหลักมาจากการลดลงของสินค้าคงคลังของลูกค้ารายใหญ่ของ SVI ในกลุ่มอุตสาหกรรม (การขุด bitcoin) อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเหล่านี้ก็สร้างรายได้เฉลี่ย 40 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ SVI ยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ทั้งปี 2027 ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทที่ย้ายออกจากประเทศจีน อย่างไรก็ตาม เรายังคงระมัดระวังในการฟื้นตัวของยอดขายใน 2H23F เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีเครื่องจักรที่ไม่ได้ใช้งานเพิ่มขึ้น โดยบริษัทเพิ่งเสร็จสิ้นการขยายธุรกิจในกัมพูชา และสโลวาเกีย

การเติบโตตามลำดับน่าจะกลับมาดำเนินต่อจาก 2H23F ; โดยได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าใหม่
ยอดขายน่าจะเติบโต QoQ ใน 3Q-4Q23F โดยได้รับแรงหนุนจากพอร์ตรายได้ที่หลากหลายของ SVI และลูกค้าใหม่ที่มีแผนจะเพิ่มการผลิตภายใน 4Q23 โดยลูกค้าเหล่านี้รวมถึง i) ระบบเสียง 100-150 ล้านดอลลาร์ และ ii) คลังสินค้าอัตโนมัติป้ายชั้นวางอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องเสียงรถยนต์ (รวมกัน 100 ล้านดอลลาร์) แม้ว่ายอดคำสั่งซื้อปัจจุบันจะดูคงที่โดยมี backlog อยู่ที่ 600 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารยืนยันว่าการปรับลดสินค้าคงคลังควรสิ้นสุดใน 4Q23F ตามการหารือกับลูกค้ารายสำคัญ

ผลประกอบการลดลง 19%/16% ในปี 2023/2024F จากยอดขายที่อ่อนแอกว่าคาด
หลังจากยอดขายที่อ่อนแอใน 2Q23 เราได้ปรับลดกำไรลง 19% เป็น 979 ล้านบาทในปี 2023 และ 16% เป็น 1.24 พันล้านบาทในปี 2024 การปรับลดของเรารวมถึง i) การลดยอดขาย 12-2% เป็น 744-871 ล้านดอลลาร์สำหรับปี 2023-2024 (จาก 846-889 ล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้) เทียบกับเป้าหมายของบริษัทที่ 750-1,000 ล้านดอลลาร์ ii) ลดการคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เป็น 7.9-8.1% (จาก 8.0 - 8.7% ก่อนหน้านี้) อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระบุว่าการเติบโตส่วนใหญ่น่าจะมาจากการย้ายฐานลูกค้าจากประเทศจีน และลูกค้าปัจจุบัน ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารยังระบุด้วยว่าการขยายตัวใหม่ในสโลวาเกีย และกัมพูชา(+27% เป็น 135,740 ตร.ม.) เสร็จสมบูรณ์แล้ว

คงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ SVI โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 8.40 บาท
เราคงคำแนะนำ “ถือ” โดยปรับมูลค่าที่เหมาะสมเป็น 8.40 บาท (จาก 9.20 บาท ก่อนหน้านี้) ขณะที่เราได้ทำการปรับมูลค่าที่เหมาะสมไปยังกลางปี 2024F ในมุมมองของเรา หุ้นตอนนี้มี Visibility ต่ำลง และเรารอสัญญาณว่ามาร์จิ้นจะทรงตัวได้ใน 2H23F ซึ่งความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ i) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ USD และ ii) ความสำเร็จของการซื้อ Tohoku