• SVI : FX ฉุดกำไร; ปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”

ราคาหุ้นที่ยังถูก ไม่เพียงพอที่จะดึงดูดแล้ว
SVI รายงานกำไรหลัก 1Q23 ที่อ่อนแอที่ 198 ล้านบาท (-7% YoY, -66% QoQ) เนื่องจาก GPM ที่ต่ำกว่าคาด โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 147 ล้านบาท (-44% YoY, 70% QoQ) ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ขาดทุน 49 ล้านบาท จากความผันผวนของ THB/USD (ต่อเนื่องจาก 4Q22) หลังจากที่อ่อนค่าลงใน 1Q23 เราได้ปรับลดกำไรปี 2023/24 ลง 23%/13% ตามลำดับ เพื่อรวมการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและสมมติฐาน GPM ที่ลดลง ดังนั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น ”ถือ” โดยยังรอการปรับปรุง GPM ที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ 2Q23F เป็นต้นไป

กำไรสุทธิลดลง 44% YoY ที่ 147 ล้านบาท
รายได้อยู่ที่ 182 ล้านดอลลาร์ (+5% YoY, -10% QoQ) หรือ 6,145 ล้านบาท โดยมีกลุ่มการสื่อสาร ตัวควบคุมอุตสาหกรรมและกลุ่มเสียงและวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม GPM ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 6.9% (เทียบกับ 7.1% ใน 1Q22 และ 11.0% ใน 4Q22) เนื่องจากการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาทที่มากกว่า 15% QoQ ซึ่งส่งผลให้ยอดขายและต้นทุนไม่สอดคล้องกันอย่างมาก ในขณะเดียวกัน OPEX ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมที่ดีที่ 3.0% ต่อยอดขาย หนุนกำไรจากการดำเนินงานที่ 241 ล้านบาท (+6% YoY, -59% QoQ)

ปรับคาดการณ์ EPS ลง 23%/13% สำหรับปี 2023/24F จาก FX ที่ไม่เอื้ออำนวย
หลังจาก GPM ที่แย่ใน 1Q23A เราปรับลดสมมติฐาน GPM ในปี 2023-24F ลงเหลือ 8.0%/8.7% (จาก 8.75%/9.0% ก่อนหน้านี้) โดยเราคาดว่า GPM จะเริ่มดีขึ้นใน 2Q23F หลังจากการปรับ ASP และต้นทุนวัตถุดิบให้เป็นปกติ นอกจากนี้ เรายังตั้งตารอผลิตภัณฑ์ใหม่ และกำลังการผลิตเพิ่มเติมที่จะเปิดตัวใน 2H ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำของบริษัทที่ว่าอุปสงค์ควรจะฟื้นตัวในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ดังนั้น ตอนนี้เราคาดว่ากำไรจะลดลง 20% YoY ในปี 2023F ไปที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการหดตัวของอัตรากำไร

ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.2 บาท
เราปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 9.2 บาท (จาก 12.0 บาทก่อนหน้านี้) เนื่องจากเราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ถูกนั้นยังไม่เพียงพอที่คงความน่าสนใจไปได้อีก โดยมีความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ 1) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ USD 2) การเข้าซื้อ Tohoku ได้สำเร็จ 3) การขาดแคลนวัตถุดิบที่ยาวนาน