TMT (ราคาปิด 7.45 บาท) : รอการเติบโต yoy ใน 2H23F
• กำไรสุทธิ 2Q23F มีแนวโน้มลดลง QoQ หลังจาก 1Q23 ทำกำไรสุทธิได้ 205 ล้านบาท (+61% yoy, +470% qoq)โดยหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงขึ้นเป็น 8.6% (จาก 5.2% ใน 1Q22 และ 5.0% ใน 4Q22) และยอดขายเพิ่ม +13% qoq อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการ 1Q23 อาจจะเป็นไตรมาสสูงสุดของปีนี้ และกำไรสุทธิ 2Q23F คาดว่าจะอ่อนลง qoq
• คาดยอดขาย 2Q23F ลดลง qoq เพราะดีลเลอร์ซื้อสะสมสต็อกไปมากในไตรมาส 1 ปีนี้เมื่อจีนเปิดประเทศ ขณะที่อุปสงค์เหล็กฟื้นตัวช้ากว่าคาด รวมถึงมีวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ด้วย ทำให้ระดับสต็อกยังคงสูง จึงสั่งซื้อน้อยลงใน2Q23F ประเมินปริมาณขายเหล็กใน 2Q23F ไว้ราว 1.7-1.75แสนตัน ลดลงจาก 1.94 แสนตันใน 1Q23
• ประเมินว่า GPM งวด 2Q23F อ่อนลง qoq เป็นผลจากราคาเหล็กที่อ่อนตัวลงตามตลาดโลก ในเบื้องต้นคาด GPM2Q23F ไว้ที่ 6.5-7.0% ลดลงจาก 1Q23 ที่ 8.65
• รอรัฐบาลใหม่....แรงซื้อเหล็กในตลาดซบเซา โครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ ชะลอตัว ส่วนหนึ่งมาจากการรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง และการเดินหน้านโยบายของรัฐบาลใหม่
• แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 8.70 บาท ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิปี 23F จะดีขึ้นเป็น 522 ล้านบาท (จากปี 22 ที่มีกำไรสุทธิต่ำเพียง 242 ล้านบาท) โดยจะเห็นการฟื้นตัว yoy ที่ชัดเจนใน 2H23Fและคาด DY ไว้ที่ 6.0% (คิดจากราคาหุ้น 7.45บาท)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel. 02 857 7829