News Feed

HotNews: SPRC ปี61 ตั้งเป้ากำไรโตต่อเนื่อง ค่าการกลั่น 6-8 เหรียญ/บาร์เรล

14 ก.พ. 2561 16:02:47 1,150

HotNews: SPRC ปี61 ตั้งเป้ากำไรโตต่อเนื่อง

ค่าการกลั่น 6-8 เหรียญ/บาร์เรล

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 14 กุมภาพันธ์ 2561)--------SPRC คาดกำไรสุทธิปี 61 โตต่อเนื่อง ประเมินค่าการกลั่นปี 61 อยู่ที่ 6-8 เหรียญ/บาร์เรล เหตุดีมานด์พุ่ง คาดยอดขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปีนี้อยู่ที่ราว 60 ล้านบาร์เรล จากปีก่อนที่ 55.66 ล้านบาร์เรล เหตุไม่มีปิดปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันมองราคาน้ำมันปีนี้ค่อนข้างผันผวนในกรอบ55-65 เหรียญ/บาร์เรล คาดจับปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐ วางงบปี61-62 ราว 70 ล้านเหรียญ เตรียมเพิ่มกำลังการกลั่นแตะ 1.75 แสนบาร์เรลต่อวัน คาดแล้วเสร็จปี 62

นายวิชัย ชุณหสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิในปี 2561 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปีก่อนที่ทำได้ 267 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 8.89 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทประเมินว่าค่าการกลั่นในปี 61 จะอยู่ที่ราว 6-8 เหรียญต่อบาร์เรล โดยบริษัทสามารถบริหารจัดการซัพพลายให้มีความสมดุลต่อความต้องการที่มีมากขึ้น จึงคาดว่าระดับค่าการกลั่นปีนี้จะดีกว่าปี 60 ที่เคยประเมินไว้ที่ 5-7 เหรียญต่อบาร์เรล โดยเฉลี่ยทั้งปีก่อนอยู่ที่ 7.34 เหรียญต่อบาร์เรล

ส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปีนี้บริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ราว 60 ล้านบาร์เรลเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 55.66 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการซ่อมบำรุงของหน่วยแตกโมเลกุลซึ่งส่งผลให้มีการลดปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากระบวนการผลิตและเสียโอกาสในการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ได้ซ่อมบำรุงเสร็จสิ้นไปแล้วในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกันกับการซ่อมบำรุงสำหรับหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ จึงทำให้บริษัทมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับการปิดปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันยังไม่มีในปีนี้ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีปีดซ่อมบำรุงภายในไตรมาส 4/62 ราว 30 - 33 วัน

นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนราคาน้ำมันในปีนี้มองว่าค่อนข้างมีความผันผวน โดยต้องจับตามองถึงปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศสหรัฐฯว่าจะผลิตได้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหากผลิตได้มากกว่าที่ตลาดคาดว่าไว้ก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในปีนี้บริษัทประเมินราคาน้ำมันอยู่ในกรอบ 55-65 เหรียญ/บาร์เรล จากปีก่อนที่เราประเมินราคาน้ำมันไว้ในกรอบ 45-55 เหรียญ/บาร์เรล จากการลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐอเมริกาที่ลดลงเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และการขยายเวลาการลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันกลุ่มโอเปคและรัสเซียไปจนถึงสิ้นปี2561 การลดลงของน้ำมันดิบจากลิเบียเนื่องจากการหยุดผลิตของแหล่งEl Sharara ใน Q3/60และสถานการณ์ความไม่สงบซึ่งส่งผลกระทบกับปริมาณน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา

พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนอยู่ที่ 70 ล้านเหรียญ เพื่อเพิ่มกำลังการกลั่นมาอยู่ที่แตะ 1.75 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการกลั่นอยู่ที่ 1.65 แสนบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มดำเนินการภายในช่วง พ.ย. 62 ซึ่งบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน โดยในปัจจุบันบริาทมีหนี้สินต่อทุน(D/E)อยู่ที่ 0.004 เท่า

อนึ่ง SPRC รายงานกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตร้อยละ 2.38 จากปีก่อน หลังมีค่าการกลั่นสูงขึ้น แม้จะได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่น ทำให้กลั่นน้ำมันลดลง

ไตรมาส 4/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,573 ล้านบาท โดยเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/60 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,819 ล้านบาท) และไตรมาสที่ 4/59 มีกำไรสุทธิ 79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,810 ล้านบาท

ในปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 261 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8,895 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2559 จำนวน 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8,688 ล้านบาท เนื่องจากค่าการกลั่น (GRM) ทางการตลาด ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน ในปี 2560 จำนวน 7.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2559 จำนวน 6.68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

บล.บัวหลวง ออกบทวิเคราะห์ แนวโน้มค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์นับจากต้นไตรมาส 1/61 จนถึงปัจจุบันขยายตัว 1% YoY มาอยู่ที่ 6.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หนุนโดยกลไกอุปสงค์-อุปทานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ middle distillates อย่างไรก็ตามส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนปรับตัวลดลง 7% YoY มาอยู่ที่ 13.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากการที่ SPRC มีสัดส่วนการผลิตก๊าซโซลีนค่อนข้างมาก ดังนั้นคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 1/61 คาดว่าจะลดลง YoY อย่างไรก็ตามกำไรหลักคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ หนุนโดยปริมาณน้ำมันดิบเข้ากลั่นที่เพิ่มขึ้น (ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น) และค่าการกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นกลับมาดำเนินงานตามปกติตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงกลับมาดีเช่นเดิม

คำแนะนำ เนื่องจากค่าการกลั่นยังคงแข็งแกร่งอยู่ในระดับเหนือ 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มพักฐานในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นราคาหุ้น SPRC น่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น นอกจากนั้นความคาดหวังต่าการเติบโตของกำไรปี 2561 หนุนโดยค่าการกลั่นที่สูงขึ้น (จากการเติบโตของอุปสงค์ ในขณะที่กำลังการกลั่นใหม่เข้ามาน้อยลง) กอปรกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ที่สูงถึง 4.1% คาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนราคาหุ้น ปัจจุบันหุ้น SPRC ซื้อขายที่ PER ณ สิ้นปี 2560 ที่ 9.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของกลุ่มโรงกลั่นที่เราให้คำแนะนำที่ 11.5 เท่า อยู่ค่อนข้างมาก

บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลจำนวน 0.68 บาทต่อหุ้น สำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งหลังของปี 2560 คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 55% และ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.1% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 เม.ย. และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พ.ค.)

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ แนวโน้มผลประกอบการ 1Q61 แนวโน้มผลประกอบการปกติ (ไม่รวมผลจากสต๊อกและรายการพิเศษ) คาดปรับตัวขึ้น QoQ แม้ค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์ 1QTD จะลดลง 10% QoQ เป็น 6.5 เหรียญต่อบาร์เรล แต่จะได้ชดเชยจากการกลับมาผลิตเต็มที่ของ RFCCU หลังหยุดนอกแผนเป็นเวลา 20 วัน ใน 4Q60

ราคาอ่อนตัวต่ำสุดกว่า 10% หลังเราแนะนำให้ Take Profit ในเดือน พ.ย. 2560 ปัจจุบันราคาเริ่มกลับมี Upside กลับเป็นบวก จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ถือ (จาก Take Profit) สำหรับผู้ที่มีหุ้นอยู่แล้วเพื่อรับเงินปันผล ด้วยผลตอบแทนจากเงินปันผล 2H60 ที่ 4.1% (0.6804 บาทต่อหุ้น) ราคาเป้าหมายปี 2561 เท่ากับ 17.10 บาท อ้างอิง PBV 1.6 เท่า สำหรับผู้ที่ไม่มีหุ้นเรามองว่า IRPC เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนที่น่าสนใจมากกว่า

ความเสี่ยง ราคาน้ำมันและราคาผลิตภัณฑ์ที่ผันผวนการหยุดเดินเครื่องนอกแผน

-----จบ----