สัมภาษณ์พิเศษ : เปิดใจ ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานกรรมการบริหาร-ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)SUN
"ยอดขายไม่น้อยกว่า10% ของเเต่ละปีที่จะโตขึ้น เเต่ถ้าถามส่วนลึกของผมเลย ผมไม่บอกเป็นตัวเลขนะ ผมหวังมากกว่านั้นเหตุ เพราะสิ่งที่เราลงทุนไป ลงไปเยอะ ความสามารถเรามีสูง เทคโนโลยีมันไม่ได้หยุดนิ่ง มันก้าวกระโดด เพราะฉะนั้นถ้าบริหารดีๆตัวการผลิต ต้นทุนเเละสินค้าเเละการขายจะเพิ่มขึ้น อาจจะไม่ใช้สัดส่วนตามที่ผมบอกก็ได้ เพราะมันยังไม่เกิด ยังไม่ได้เป็นจริง นับเป็นสิ่งท้าทายของเราเเละเราเชื่อว่าเทคโนโลยีช่วยเราได้" ดร.องอาจ กล่าว
เปิดใจ ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)SUN...ห้วงหุ้นต่ำจอง(ราคาจอง 5.85 บาท/หุ้น) บาทแข็ง เรียกว่า มรสุมโถมเข้ามา ดร.องอาจ วางหมากเกมอย่างใดสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ขอนำบทสัมภาษณ์ นำมารายงาน มีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้
*เรามีความกังวลไหม ที่เรามีความตั้งใจธุรกิจอย่างจริงจัง เเต่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาจอง
เรื่องราคา ก็อยากให้เกินราคาจอง ราคาสูงขึ้น เพื่อให้ลูกค้าหรือนักลงทุนได้ประโยชน์ เเต่เราก็เข้าใจถึงราคานี้เเล้วว่า ราคาหุ้นมันเป็นไปตามธรรมชาติ มันเป็นความพอใจของคนซื้อกับคนขาย ซึ่งไม่ใช้เราที่จะไปบงการเขาได้หรือขึ้นอยู่กับตัวบริษัทฯ เองผลประกอบการ จะเป็นอย่างไร ซึ่งจริงๆเเล้ว นั่นคือ ธุรกิจปกติบางส่วน อาจจะบอกว่าทำไมไม่ทำราคาให้ขึ้นสูงๆ ผมว่าอันนี้ไม่ถูก มันจะสะท้อนกับเรื่องของธรรมชาติที่เกิดขึ้น เรื่องความต้องการของตลาดหรือกลไกตลาด ผมทำธุรกิจ ผมจะเข้าใจเรื่องตรงนี้ว่า อยากได้มากราคาก็จะสูงขึ้น อยากได้น้อยราคาก็จะต่ำลง หรือบางทีโอกาสซื้อต่ำได้ ก็ยังต้องซื้อที่ต่ำ หรือทำนองเดียวกัน มีคนอยากจะมาซื้อเพิ่มมากขึ้น อยากจะได้มากขึ้น ก็ต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้นอันนี้ผมว่ามันเป็นธรรมดา ถ้าในเเง่ผมก็อยากให้มันสูง เพราะคนซื้อไปก็จะมีความรู้สึกที่ดีมีการตอบเเทนมีอะไรต่างๆได้ เพราะว่านักลงทุน นักเล่นหุ้น เขาอยากจะให้ซื้อต่ำขายสูง นักลงทุนรอปันผล คนฝากเงินเเบงก์ก็รอดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นเรื่องคนซื้อหุ้นความเข้าใจ ผมในวันนี้เขาได้ตัดสินใจได้ซื้อหรือขายในวันนั้นเเล้ว เราไม่สามารถที่จะไปบงการอะไรได้ หน้าที่ของผมทำยังไงให้บริษัทดีขึ้นโตขึ้นเรื่อยๆ ทำยังไงให้มีผลประกอบการที่ดีหรือมีกิจกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้นนี่คือ หน้าที่ของเรา
ส่วนเรื่องอื่นที่ไปช่วยดูเเลหุ้น อาจจะเกินกำลังของเราเเละไม่ได้อยู่ในวิสัย อย่างที่บอร์ดบริษัทฯบอกว่าคุณทำบริษัทให้มันดีเเล้วราคามันจะสะท้อนขึ้นมาเอง ถ้าเกิดเราทำไม่ดีหรือไม่ตั้งใจ นั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควร ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเราจะทำตามนั้น เเละเชื่อว่าในอนาคต มันไม่ใช้การทำด้วยปัญญาอย่างเดียว มันทำด้วยเทคโนโลยี(ธุรกิจ)
*ผลประกอบการปี60ที่จะออกมาคิดว่า มีอะไรที่จะปลอบใจให้ผู้ถือหุ้นเราอยู่ไหม
ผลประกอบการอยู่ที่ในเเง่เราพอใจระดับหนึ่ง ถามว่าผู้ลงทุนคาดหวังไว้ขนาดไหน ผมไม่ทราบจริงๆ เเต่ในเเง่ประกอบการ ของเราทำธุรกิจประเภทนี้ค่าตอบเเทนที่ทำผมพอใจพอสมควรเเละผมยังเชื่อมั่นว่าโอกาสที่ผมได้เข้าตลาดทุนในครั้งนี้ ต้นทุนผม ลดลง ผมหวังว่าข้างหน้าจะมีโอกาสที่สูงกว่านี้ ส่วนอันเดิมมันจะมากหรือน้อยในเเง่ของคนทำงาน พวกผมพอใจเเล้ว ถึงเเม้มันจะไม่มาก เเต่ถึงเกณฑ์เราก็พอใจเเล้ว
*ในช่วงนี้บาทเเข็งค่ามาก การส่งออกเเย่ คิดว่าตัวเลขที่เราประมาณไว้ว่าจะโต10% คาดเคลื่อนหรือว่ากำไรจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายไหม
ทำส่งอออก เรื่องค่าเงินเป็นเรื่องที่สำคัญ เเต่ทางบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เวลาค้าขาย จะปรับเปลี่ยนตามค่าเงิน ถ้าค่าเงินเเข็งก็ขอราคาลูกค้าใหม่ ถ้าค่าเงินอ่อนก็ลดราคาให้กับลูกค้า ถ้าค่าเงินเเข็งไม่ดีเเน่สำหรับประเทศไทย ถ้าอ่อนไหมดีสำหรับ ซันสวีท เเน่นอนเพราะขายง่าย เเต่วันนี้ในเรื่องของค่าเงินเป็นที่เราต้องบริหารมันสิ่งที่ได้กับสิ่งที่มันเป็นให้มันสมดุลกันเป็นเเง่ของธุรกิจอยู่เเล้วที่ต้องปรับตัวตลอดเวลาในทุกๆด้านที่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่ปรับตัวบริษัทนี้ก็จะถดถอยไปเหมือนบริษัทก่อนๆ
*ในปีนี้บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)SUN หวังรายได้เติบโตกี่%
ไม่น้อยกว่า10% ไม่ใช่ ว่าจะเป็นเรื่องยอดขายอย่างเดียว เป็นเรื่องของวัตถุดิบ การผลิต การเงิน ทุกอย่างจะผสมผสานไป ซึ่งคิดว่าในส่วนนี้เป็นไปได้สูงที่เราจะทำ
*นอกจากข้าวโพดต้ม ข้าวโพดปิ้งในวันนี้ มันจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทำให้มูลค่าของสินค้าเพิ่มมากขึ้นหรือไม่
มีครับ เช่น น้ำข้าวโพด ซึ่งคงจะวางจำหน่ายในปีนี้ ลูกค้าบอกว่าจุดเเข็ง จุดเด่น จุดดีของSUN คือ คุณภาพสินค้าดี ราคาไม่เเพงจนเกินไป เอาไปค้าขายได้ ในตลาดโลกได้และการบริการดี เชื่อถือได้
*กลยุทธ์การตลาดของSUN
ปีนี้เราจะปรับพอร์ตโปรดักส์จากเดิม เราเต็มพลังการผลิตปีนี้ ก็ลงทุนเครื่องเเช่เเข็งออกไปเลยอีก3เท่า ในส่วนเเง่ของกายภาพมันมีเเน่นอน จากนั้นก็จะเป็นเรื่องของการขาย การผลิต ให้มันเกิดขึ้นจริง อันนี้้้เราลงทุนเพิ่มเเน่นอนหลังจากIPOมาก็ลงทุนไปตามนั้นเลย เเละขยายตลาดให้มากขึ้น จาก300 ตู้เป็น600ตู้ ต่อปีดูว่าลูกค้าเจ้าไหนที่ให้คุณภาพสูงๆเป็นใครบ้างขายให้กับเขาเพิ่มมากขึ้น กลับกัน เจ้าที่ ขายเเล้วมันไม่ดีกำไรน้อยขาดทุนบ้าง ยอมขายเพื่อเอาต้นทุนมาหมุนเวียนในกิจการ ในวันนี้เราไม่ต้องอยู่ในเงื่อนไขนั้นเเล้ว เพราะหลังจากที่เราเข้า IPO ไป การเงินของเรายังมีสภาพคล่องที่มีพอ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุอะไรที่เราจะต้องสต๊อก ขายทิ้งเพื่อไปเเลกเงินมาหมุนในกิจการ เงินยิ่งใช้เยอะดอกเบี้ยยิ่งสูง ขายเเล้วไม่ค่อยได้กำไรดีให้มันลดน้อยลง
10อย่างของโลกนี้ ในอนาคตเรื่องอาหารคือ เรื่องของสุขภาพ เพราะว่าในเรื่องสินค้าใหม่ ไม่ใช่เเค่ทำมาให้เห็นเเล้วจบ มันต้องขายได้ ต้นทุนต้องได้ คุณภาพต้องได้ ตอนนี้เราส่งน้ำข้าวโพดขายเเล้วอยู่ที่ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ตเชียงใหม่เเละที่เวียงจันทร์ ขายมาเป็นปีเเล้วเพียงเเต่ปริมาณมันไม่เยอะ พวกนี้วันๆต้องทำเป็นหมื่นๆขวดถึงจะคุ้มค่า ....เราอยู่ในวิสัยงานผลิตเราทำได้ เเละต้องทำให้ตลาดรับด้วย
*ใน2-3 ปีนี้่คิดว่ายอดขายของ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน)SUN เติบโตประมาณเท่าไร
ยอดขายไม่น้อยกว่า10% ของเเต่ละปีที่จะโตขึ้น เเต่ถ้าถามส่วนลึกของผมเลย ผมไม่บอกเป็นตัวเลขนะ ผมหวังมากกว่านั้นเหตุ เพราะสิ่งที่เราลงทุนไป ลงไปเยอะ ความสามารถเรามีสูง เทคโนโลยีมันไม่ได้หยุดนิ่ง มันก้าวกระโดด เพราะฉะนั้นถ้าบริหารดีๆตัวการผลิต ต้นทุนเเละสินค้าเเละการขายจะเพิ่มขึ้น อาจจะไม่ใช้สัดส่วนตามที่ผมบอกก็ได้ เพราะมันยังไม่เกิด ยังไม่ได้เป็นจริง นับเป็นสิ่งท้าทายของเราเเละเราเชื่อว่าเทคโนโลยีช่วยเราได้
ในเเง่ของ ดร.องอาจ มีรุ่น 2 ที่จะเข้ามารับไม้ต่อของธุรกิจหรือไม่และวางเเผนอย่างไรบ้าง
เราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่ใช้ว่าลูกหลานทุกคน จะตามเรา เรื่องนี้เราคงต้องบริหารโดยใช้มืออาชีพเฉพาะทางมากขึ้น โดยเฉพาะทางด้านไอที การบริหารการจัดการสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นในวันนี้ ผมไม่ห่วงเลยข้างหน้าเพียงไม่เกินอีก3ปี ที่นี้ ก็จะมีคนที่เป็นเรื่องเฉพาะทางเข้ามาในวันที่เหมาะสมเติมเข้ามาทำในวันนั้น
----จบ----
By : ชนิภรณ์ ฝอยทอง