News Feed

HotNews: MONO ปี61 ปั้นรายได้โต30-40% เล็งล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง

18 ม.ค. 2561 16:47:12 1,393

HotNews: MONO ปี61 ปั้นรายได้โต30-40%

เล็งล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 18 มกราคม 2561)--------MONO ตั้งเป้ารายได้ปี61 โต30-40% มาที่ 3.5 พันลบ. เตรียมปรับเพิ่มค่าโฆษณาเป็น 4 หมื่นบ./นาที-เพิ่มคอนเทนต์ใหม่ คาดอัตราการลงโฆษณาปี61 อยู่ที่ราว 65-70% จากปีก่อนที่65-66% เหตุไม่มีผลกระทบจากปัจจัยในภายในประเทศ วางงบลงทุนปี61 ราว 800-900 ลบ. เล็งซื้อลิขสิทธิ์หนังใหม่ วางเป้าปี61 ชิงเรทติ้งทีวีอันดับ 2 - เพิ่มคอนเทนต์ดึงเรตติ้งช่วงเสาร์-อาทิตย์ คาดปี61 อัตรากำไรสุทธิโตไม่ต่ำกว่า10% พร้อมเผยมีแผนล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดภายในสิ้นปี61 ปัจจุบันมีผลขาดทุนอยู่700-800ลบ.คาดงบปี 60 พลิกกำไร เหตุยอดโฆษณาพุ่ง แย้มภายในปีนี้มีลุ้นเห็นความร่วมมือกับพันธมิตร ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อย่างน้อย 1 ธุรกิจ

นายนวมินทร์ ประสพเนตร ผู้ช่วยประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโต30-40% มาอยู่ที่ราว 3.5 พันล้านบาท โดยบริษัทเตรียมปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นได้อีก 50% หรือเป็น 4 หมื่นบาท/นาทในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้จากกปัจจุบันอยู่ที่ 2.8 หมื่นบาท/นาที และในช่วงไพร์มไทม์เป็นอยู่ที่ 1 แสนบาท/นาที

พร้อมกันนี้บริษัทยังเตรียมเพิ่มคอนเทนต์ใหม่เข้ามาเสริม ส่วนธุรกิจภาพยนตร์ภายใต้แบรนด์ T moment บริษัทจะผลิตและส่งเข้าฉายในโรงภาพยนหนังเพิ่มขึ้นเป็น 3-4เรื่องในปีนี้ จากปี 2560 ที่มีเพียง 1 เรื่อง

ด้านรายการแข่งขันบาสเก็ตบอลเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนมากขึ้น 3-4 ราย จากปีก่อนที่มีอยู่เพียง 1 ราย และในปัจจุบันได้มีการเจรจราอยู่อีก 1 ราย เช่นเดียวกันกับการจัดแสดงคอนเสิร์ตที่บริษัทจะมีการจัดการเเสดงเพิ่มขึ้นเป็น 18-20 คอนเสิร์ต จากปีก่อน 7 คอนเสิร์ตซึ่งปัจจุบันคอนเสิร์ตที่จะจัดในปีนี้มีสปอนเซอร์ครบทุกรายการเเล้ว

สำหรับการจัดหาภาพยนตร์เข้าฉายในช่องทางทีวี หรือ Mono 29 บริษัทได้คอนเทนต์จากพาทเนอร์รายใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงต้นปีนี้เพิ่มขึ้น อาทิ ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์จากFOX,Draemwork,Liongateและลิขสิทธิ์รายการกีฬาบาสเก็ตบอล NBA ที่บริษัทหันมาโฟกัสกลุ่มลูกค้ากีฬามากขึ้น และMonofilm บริษัทจะมีการซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เข้ามาฉายราว 18 เรื่องต่อปี โดยตามสัญญาลิขสิทธิ์อยู่ที่ 3-7ปี

"เราคาดว่าอัตราการลงโฆษณาในปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นและดีขึ้นจากปีก่อน หรืออยู่ที่ 65-70%จากปี60ที่ 65-66% เนื่องจากเราไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศ ที่ในช่วงเดือนตุลาคมในปี60 อยู่ในช่วงงานพระราชพิธี อีกทั้งเราประเมินว่าทิศทางเศรษฐกิจภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากโครงเมกะโปรเจคของภาครัฐบาลที่ผลักดันออกค่อนข้างมากในปีนี้ และความชัดเจนของการเลือกตั้ง ซึ่งตลาดหุ้นก็ ได้สะท้อนให้เราได้เห็นไปบ้างแล้ว และคาดว่าก็จะส่งผลดีให้แก่เม็ดเงินลงทุนในธุรกิจสื่อและโฆษณามากขึ้น" นาย นวมินทร์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทได้วางงบลงทุนในปี2561ไว้ที่ 800 -900 ล้านบาท ในการจัดหาลิขสิทธิ์ คอนเทนท์ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและสนองความต้องการของผู้บริโภค

"พร้อมกันนี้เราได้วางเป้าจะชิงเรทติ้งทีวีเป็นอันดับ2ให้ได้ภายในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 3 โดยเราเห็นช่องทางในการดึงเรทติ้งในวันเสา-อาทิตย์ ช่วงเช้า บ่ายและเย็น ที่มีโอกาสอีกค่อนข้างมาก และการเพิ่มคอนเทรนต์ใหม่ๆของเราจะช่วยดึงความสนใจของบริษัทได้มากพอสมควร" นาย นวนินท์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทประเมินว่าอัตรากำไรสุทธิในปี2561 จะไม่ต่ำกว่า10% จากการถึงจุดคุ้มทุนของการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี2560ที่ผ่านมา ประกอบกับบริษัทมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่คงที่

นายนวมินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 700-800ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ หรืออย่างช้าที่สุดคาเว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมหมดได้ภายในปี2562

ส่วนผลการดำเนินงานในปี2560 คาดว่าจะเริ่มมีกำไรสุทธิ จากที่บริษัทมีการปรับเพิ่มค่าโฆษณาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามด้านรายได้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ราว 3 พันล้านบาท เนื่องจากรับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศ ในช่วงเดือนตุลาคมในปี2560 ซึ่งเป็นช่วงของงานพระราชพิธีฯ

นาย นวนินทร์ กล่าวทิ้งท้ายปีนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นการร่วมมือกับพันธมิตร ที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสื่อซึ่งบริษัทมองหาการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคุลมมากขึ้นและต่อยอดธุรกิจของบริษัท คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในปีนี้อย่างน้อย 1 ธุรกิจ

บล.หยวนต้า ออกบทวิเคราะห์ 4 เหตุผลที่เราแนะนำให้ "ซื้อ" MONO 1) แม้คาดกำไร 4Q60 จะชะลอตัว QoQ จากเหตุการณ์พระราชพิธี แต่ยังขาดทุนน้อยกว่าปีก่อน และทั้งปีพลิกกลับเป็นกำไรครั้งแรกในรอบ 3 ปี 2) เราคาดกำไร 3 ปีข้างหน้าเติบโตต่อเนื่อง จากการปรับขึ้นค่าโฆษณา ณ ปัจจุบันยังต่ำกว่าคู่แข่งอยู่มากเมื่อเทียบกับเรทติ้งที่ดีขึ้น 3) ประมาณการเรายังมี Upside Risk หาก MONO ทำได้ตามเป้าของบริษัท ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเรา และ 4) ราคาหุ้นยังไม่แพง PEG ปี 2561 - 2562 เฉลี่ยต่ำเพียง 0.34 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มโทรทัศน์อยู่ที่ 1.9 เท่า

เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2561 ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ภาพเม็ดเงินโฆษณาคาดจะกลับมาเติบโตราว 5% ปีก่อนที่ติดลบ 6% สอดคล้องกับเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการเพิ่มงบโฆษณามากขึ้น 2) แนวโน้มเรทติ้งของ MONO ดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดครึ่งเดือนแรกของ ม.ค. เรทติ้งเฉลี่ยขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 ที่ 1.142 แซงช่องคู่แข่ง Workpoint TV นอกจากนี้บริษัทได้พันธมิตรค่ายหนังฮอลลิวูดเพิ่มอีก 3 รายในปีนี้ เพื่อเพิ่มหนังและเรียกเรทติ้ง บริษัทตั้งเป้าค่าโฆษณาจะปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ย 28,000 บาทต่อนาที เป็น 40,000 บาท ต่อนาที สูงกว่าประมาณการของเราที่ 35,000 บาทต่อนาที ซึ่งถือเป็น Upside risk ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และ 3) รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ คาดเติบโตก้าวกระโดดถึง 231%YoY เป็น 226 ล้านบาท หลังซื้อลิขสิทธ์ภาพยนตร์ต่างประเทศมาเข้าฉายมากขึ้น รวมถึงการสร้างภาพยนตร์เองผ่านบริษัทย่อย T-Moment อีกราว 3- 4 เรื่อง โดยรวม MONO ตั้งเป้ารายได้เติบโตถึง 45% YoY เป็น 3,665 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการของเราที่ 3,223 ล้านบาท ด้วยสมมติฐานที่สำคัญคือค่าโฆษณาเฉลี่ยต่อนาที

แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท แม้ผลประกอบการ 4Q60 จะกลับมาขาดทุน แต่เป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ไปก่อนหน้าแล้ว หากมองไปข้างหน้า เราคาดกำไรของ MONO เติบโตเฉลี่ยกว่า 126% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากการฟื้นตัวของภาพรวมอุตฯ และเรตติ้งที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ MONO มีโอกาสปรับขึ้นค่าโฆษณาเฉลี่ยต่อเนื่องอย่างน้อยเฉลี่ย 20% ต่อปีตลอด 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันซื้อขาย PEG61 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม เราประเมินมูลค่าเหมาะสม ณ สิ้นปี 2561 ที่ 5.60 บาท ด้วยวิธี DCF

----จบ---

https://www.hooninside.com/cache/author/1548402004_200x200_4.jpeg