Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: กูรูเคาะเป้าใหม่ GUNKUL 8.10 บ./หุ้น

5,066

 

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(7กุมภาพันธ์ 2565)--------กูรูฟินันเซีย ไซรัส เชียร์ “ซื้อ” GUNKUL อัพเป้าราคา 8.10 บ./หุ้น ชี้ธุรกิจกัญชง-กัญชา ดันกำไรสุทธิต่อปีโต 2 เท่า ด้านเทพหุ้นเคทีบีเอสที คาดกำไร Q4/21 GUNKUL ฟื้นตัวจาก EPC, 2022 มี upside จากกัญชงและร่วมธุรกิจกับ JMART-SINGER



บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ซึ่งเชื่อว่าจากการที่ GUNKUL ได้เริ่มปลูกกัญชง กัญชาโดยเริ่มจากโรงปลูกกัญชง 2 แห่งที่ดำเนินการไปแล้ว และจะเพิ่มเป็น 90-100 แห่งในปี 2565 นี้ ทำให้ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่ออัตราการเติบโตของผลกำไรที่จะเพิ่มขึ้นจากการลงทุนธุรกิจกัญชง กัญชา โดยคาดว่ากำไรสุทธิต่อปีของ GUNKUL จะเพิ่มขึ้น 2 เท่า ในปี 2565 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพิ่มอีก 6.7% ในปี 2566 โดยประมาณการจากโรงปลูกกัญชง 100 แห่งที่จะสร้างขึ้นในปี 2565-2566 และจะเพิ่มขึ้นอีก 200 แห่งในปี 2567 ตามเป้าหมายที่บริษัทได้กำหนดไว้

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่า GUNKUL จะมีกำไรจากธุรกิจกัญชาประมาณ 1.5-1.7 พันล้านบาทในปี 2565-2566 และ 4.1 พันล้านในปี 2567 จากการเพิ่มกำลังการผลิตจากโรงปลูก 100 แห่งในปี 2565-2566 และจะเพิ่มขึ้นอีก 200 แห่งในปี 2567 ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้นมองว่า หาก GUNKUL สามารถสร้างผลผลิตได้ 193,406 กิโลกรัมต่อปี โดยมียอดขายรวมจากทุกผลผลิต โดยมาจากสารสกัด CBD อยู่ที่ 35% จากการสกัดเข้มข้น 30% และอีก 30% มาจากการจำหน่ายใบกัญชาแห้ง จะทำให้ GUNKUL สร้างผลกำไรได้ประมาณ 1.5 พันล้านในปี 2565 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ 600 ล้านบาทและค่าเสื่อมราคาอยู่มี่ 220 ล้านบาท

จากการที่เพิ่งมีการจัดตั้งสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TiHTA) ขึ้นนั้น เราเห็นว่าจะทำให้ราคาขายของกัญชงและกัญชาในประเทศไทยเป็นเรื่องที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ และ GUNKUL เองก็มีความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่าเจ้าอื่น เนื่องจาก 1.) เป็นเจ้าแรก 2.) มีความครบวงจร 3.) มีต้นทุนค่าที่ดินและภาษีไฟฟ้าต่ำกว่าคู่แข่งในท้องถิ่น และ 4.) อยู่ในอุตสาหกรรมกัญชง กัญชาที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและรับรองในทางกฎหมายแล้วเมื่อปี 2564 ทำให้ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ามีโอกาสที่อัตราผลกำไรจากธุรกิจกัญชาของ GUNKUL จะเติบโตขึ้นไปได้อีกมาก

ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายจาก 5.40 บาท เป็น 8.10 บาท โดยรวมจาก 1.) อัตราผลกำไรต่อหุ้นที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่เราใช้ประเมินมูลค่า P/E ของหุ้น 2.) การปรับเพิ่มของ P/E ในธุรกิจกัญชงของ GUNKUL จาก 15 เท่า เป็น 22 เท่า เพื่อสะท้อนการคาดการณ์ผลตอบแทนและผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าศักยภาพในการสร้างรายได้จากธุรกิจกัญชงนั้นมีเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากGUNKUL ได้ดำเนินการทำฟาร์มปลูกกัญชาไปแล้ว และ 3.) ราคาที่จะถูกกำหนดโดยสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (TiHTA)

 


บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่า คาดกำไร 4Q21E GUNKUL ฟื้นตัวจาก EPC, 2022E มี upside จากกัญชงและร่วมธุรกิจกับ JMART-SINGER คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นี้เป็น 6.45 บาท (เดิม 5.85 บาท) อิง SOTP โดยปรับPER valuation ในส่วนธุรกิจ EPC ขึ้นจาก 16x เป็น 30x (5 yrs avg. -0.5SD) จาก secured backlog ในระดับสูงทยอยรับรู้ ในอีก 3 ปี ข้างหน้า โดยรายได้ EPC ในปี หน้ามโอกาสเติบโตถึง 40% YoY (มีupside จากการประมูลโครงการใหม่เพิ่มเติม)

  ด้านกำไรปกติ 4Q21E เราประเมินที่ 514 ล้านบาท (-5% YoY, +4% QoQ) โดย YoY ลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่า 4Q20 ในขณะที่QoQ เติบโตจากการรับรู้ รายได้ EPC และTrading ที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาลและการไม่มี lockdown เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

  เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2021E ที่ 2.0 พันล้านบาท (+41% YoY) และปี 2022E ที่ 3.0 พันล้านบาท (+48% YoY) โดยมี key drivers คือ 1) ธุรกิจกัญชงจะเริ่ม COD ได้ใน 1Q22E ตามแผน 2)ธุรกิจผลิตไฟฟ้ามีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น (คาดแตะระดับ 700MW ได้ใน 1H22E จากปัจจุบันที่640MW) และ3) ธุรกิจ EPC มี backlog สูงถึง 8.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ ในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า(เฉลี่ยรับรู้ ราว 2.8 ล้านบาทต่อปี เทียบปี 2021E ที่ราว 2.0 พันล้านบาท)

  ราคาหุ้นกลับมา outperform SET ราว +15% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”จากกำไรที่จะเติบโตต่อเนื่องที่+49% YoY และราคาปัจจุบันเทรดที่forward PER เพียง 17x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมไฟฟ้าและกลุ่มทำธุรกิจกัญชงที่ 20-30x ในขณะที่กำไรใน 1-3 ปี ข้างหน้ายังมีupside จากธุรกิจกัญชง-กัญชา และธุรกิจร่วมลงทุนกับ JMART-SINGER รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ที่มโอกาสได้พัฒนาเพิ่มเติม

Event : 4Q21E earnings preview
  กำไร 4Q21E คาดฟื้นตัวได้ QoQ จากการรับรู้รายได้ EPC + Trading ที่มากขึ้น ประเมิน
กำไรปกติ 4Q21E ที่ 514 ล้านบาท (-5% YoY, +4% QoQ) YoY ลดลงสาเหตุหลักจากโรงไฟฟ้า
พลังงานลมใน 4Q20 ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าเนื่องจากลมที่มาช้ากว่าปกติ (ปกติเข้าไตรมาส 3) โดยเรา
ประเมินรายได้จากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าใน 4Q21E ที่ 1.2 พันล้านบาท (-2% ทั้ง YoY และ
QoQ) ในขณะที่กำไรปกติ QoQ เติบโตได้ จากธุรกิจ EPC รับรู้ รายได้ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
(seasonal effect) และธุรกิจ Trading ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการlockdown ในไตรมาสก่อน โดย

  เราประเมินรายได้ในส่วนนี้ (EPC + Trading) ราว 1.4 พันล้านบาท (-2% YoY, +143% QoQ) ส่วนblended gross margin ประเมินที่ 36% (flat YoY, -1300bps QoQ จากมาร์จิ้น EPC ที่ต่ำ)

Implication
  คงประมาณการกำไรปกติปี 2021E/22E เราประเมินกำไรปกติปี 2021E อยู่ที่ราว 2.0 พันล้านบาท (+41% YoY) และปี 2022E ที่ราว 3.0 พันล้านบาท (+48% YoY) key drivers มาจากธุรกิจกัญชงซึ่งจะเริ่ม COD ได้ตามกำหนดช่วงปลาย 1Q22E (ทยอยดำเนินการในเฟสแรกบนพื้นที่ 200 ไร่) โดยปัจจุบัน crop แรกได้เริ่มดำเนินการปลูกแล้ว

  อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจเดิม (ผลิตไฟฟ้า +EPC) คาดว่ายังได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ(ปัจจุบันราว 640MW คาดแตะระดับ 700MW ใน 1H22E) และbacklogงาน EPC กว่า 8.5 พันล้านบาท (ไม่รวมโครงการกรุงเทพธนาคมราว 4.0 พันล้านบาท) ทยอยรับรู้ ใน 2-3 ปี ข้างหน้า โดยกำไรปกติปี 2022E หากไม่รวมธุรกิจกัญชง-กัญชา คาดยังสามารถเติบโตได้ในระดับ 30% YoY ธุรกิจกัญชงและJV JMART-SINGER มโอกาสสร้าง upside ธุรกิจกัญชงหากสำเร็จจะเข้ามาช่วยต่อยอดการเติบโตของธุรกิจหหลักอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันบริษัทมีแผนดำเนินการในเฟสแรก 200 ไร่ โดยจะทยอยเปิดดำเนินการจนครบในปี 2022E ซึ่งเราประเมินกำไรของธุรกิจดังกล่าวในปี 2022E/23E ที่ราว 400 ล้านบาท และ1.0 พันล้านบาทตามลำดับ (Fig 2) ในขณะที่มี upside หากได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทมโอกาสขยายเพิ่มเติมได้บนพื้นที่ที่บริษัทระบุมีความพร้อมอกว่า 5,000 ไร่

  ในขณะที่การJV ร่วมกับ JMART และSINGER เพื่อเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้า/โซลูชั่นพลังงานทดแทน การร่วมลงทุนให้การติดตั้งระบบ Solar Rooftop/EV charging station ตลอดจนพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชง ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายของกลุ่มธุรกิจในเครือของบริษัท และศึกษาความเป็นไปได้ในการทำเรื่องศูนย์กัญชงกัญชาเพื่อสุขภาพ ซึ่งหากสำเร็จเป็นupside ต่อร่ายได้ในอนาคต ทั้งนี้คาดว่าจะได้เห็นรายละเอียดแผนงานในช่วง 1Q22E

Valuation/Catalyst/Risk
  ปรับราคาเป้าหมายขึ้นี้เป็น 6.45 บาท (เดิม 5.85 บาท) อิง SOTP สาเหตุจากการrelated PER ของธุรกิจ EPC ขึ้นจาก secured backlog ในระดับสูงทำให้ฐานการรับรู้ รายได้ maintained ในระดับสูงไปได้อีกอย่างน้อย 3 ปี (backlog 8.5 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ ราว 2.8 พันล้านบาทต่อปี ใน 3 ปีข้างหน้า ไม่รวม upside จากโครงการใหม่ที่เข้าประมูลเพิ่ม ในขณะที่ปี 2021E คาดรับรู้ ราว 2.0 พันล้านบาทเท่านั้น) โดยใช้ forward PERที่ 30X ( เดิม 16X) เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.5SD สร้างมูลค่าต่อหุ้น 1.20 บาท (เดิม 0.62 บาท) ในขณะที่ธุรกิจอื่นยังคงอิง valuation เท่าเดิม

  ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตไฟฟ้าอิง DCF (WACC 5.7%, No TG) มูลค่า 3.00 บาท และธุรกิจกัญชงกัญชา อิง PER40x มูลค่า 2.25 บาท โดย upside เพิ่มเติมคือการได้โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ซึ่งปัจจุบันรอผลเจรจาราว 200MW คาดเห็นความคืบหน้าในปี 2022E และแนวโน้มธุรกิจกัญชง-กัญชาที่มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าที่ประเมิน รวมถึงการJV กับ JMART-SINGER




---จบ---

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รอดเท่ากับไม่เทรด By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองไม่ค่อยเห็น ผู้ชนะในเกมหุ้น แต่นักลงทุนที่รอด ชัวร์ๆ นั่นคือ หยุดเทรด ไม่เทรด ไม่ซื้อขาย ...

มัลติมีเดีย

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้