สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (6 สิงหาคม 2564)-------- GLOBAL คาดกำไรปี64 ทำนิวไฮ หลังครึ่งแรกโตสวย เตรียมเปิดอีก 2 สาขา ใช้งบลงทุน 500 ลบ. ฟากกูรูเมย์แบงก์ กิมเอ็ง โบกธงซื้อ GLOBAL ราคาเป้าหมาย 27 บาท

นางสาวชุติกาญจน์ ศรีแสงจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 จะสามารถเติบโตขึ้นมากกว่าปีก่อนและคาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะสามารถทำNew Highได้ จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูง โดยในครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,938.06 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนทั้งปีมีกำไรสุทธิ 1,955.96 ล้านบาท

ขณะที่ บริษัทฯ คาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในปี 2564 จะสามารถเติบโตได้มากกว่า 30% และพร้อมที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 25-26% ด้วยการปรับเพิ่มสัดส่วนในกลุ่ม House Brand ในทุกหมดหมู่ จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 21% โดยสินค้าในกลุ่มนี้มีมาร์จิ้นสูง อยู่ที่ระดับ 35-40% ขณะที่สินค้าอื่นๆ มีมาร์จิ้นที่ระดับ 15-20%

ทั้งนี้แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะยังคงน่าเป็นห่วง แต่บริษัทเชื่อว่าแนวโน้มยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง จะสามารถเติบโตได้แตะที่ระดับ 9,000 ล้านบาทต่อไตรมาส เนื่องจากพบว่ายังมีความต้องการใช้สินค้าที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการปิดให้บริการสาขา 9 แห่ง เป็นเวลาตั้งแต่ 3 วัน ถึง 2 สัปดาห์ ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งบริษัทเชื่อว่าหากทั้ง 9 สามา กลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ จะทำให้ยอดขายฟื้นตัวกลับ

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินงาสในช่วงครึ่งปีหลัง2564 โดยยังคงเดินหน้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2564 บริษัทมีแผนขยายสาขาใหม่ จำนวน 5 สาขา ซึ่ง ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการขายใหม่ไปแล้ว 3 สาขา ส่งผลให้มีจำนวนสาขาที่เปิดใหม้บริการรวม 74 แห่ง และในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเปิดให้บริการสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 แห่ง โดยจะใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท (ใช้งบลงทุน 250 ล้านบาทต่อสาขา) ได้แก่ ที่อ.พาน จังหวัดเชียงราย และที่อ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสาขาในต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 15 แห่ง ได้แก่ ในประเทศกัมพูชามี 1 สาขา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่ ในประเทศกัมพูชาคลี่คลายกว่าประเทศไทย โดยไม่จำเป็นต้องปิดสาขาเหมือนที่ไทย เพียงแต่ต้องจำกัดชั่วโมงการให้บริการของสาขาในกรุงพนมเปญเท่านั้น

ด้านสาขาในประเทศลาว จำนวน 6 สาขา นั้นเบื้องต้นในพื้นที่มีการควบคุมสถานการณ์ได้ดี ยังคงเห็นการเติยโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง และในประเทศพม่ามีจำนวน 8 สาขา ซึ่งในพม่านอกจากจะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องการเมืองเข้ามากดดันด้วย แต่สาขาก็ยังเปิดให้บริการได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็ยังให้ความสำคัญกับการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับไม่เกิน 2% จากปีก่อนที่มีสัดส่วนต่ำกว่า 1% จากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,938.05 ล้านบาท เติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,122.86 ล้านบาท และมีรายได้รวมที่ 17,896.18 ล้านบาท เติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13,755.35 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 972.28 ล้านบาท เติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 506.93 ล้านบาท และมีรายได้รวมที่ 9,067.83 ล้านบาท เติบโต จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,320.58 ล้านบาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : GLOBAL
แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 27 บาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า Siam Global House (GLOBAL)กำไรดีกว่าคาด ปรับเพิ่มประมาณการ ทั้งนี้กำไร 2Q64 สูงกว่าที่เราคาดและเป็น new high เนื่องจากการเติบโตของทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น แม้คาดว่ากำไรจะชะลอลงใน 2H64 ตามผลของฤดูกาลและผลกระทบส่วนหนึ่งจากการล็อกดาวน์ แต่เราคาดว่ากำไรจะเติบโตได้อย่างมีนัยยะ YoY จากยอดขายที่ยังแข็งแกร่ง การเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงขึ้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรซึ่งส่งผลให้ราคาเป้าหมาย (DCF) ปรับเพิ่มขึ้นจาก 26 บาท เป็น 27 บาท แนะนำ ซื้อ

--กำไร 2Q64 ดีกว่าคาด และสูงเป็นประวัติการณ์---
กำไรสุทธิ 2Q64 เพิ่มขึ้น 1% QoQ และ 92% YoY เป็น 972 ล้านบาท ดีกว่าที่เราคาด 8% จากอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาดโดยเพิ่ม 68 bps YoY เป็น 25.9% เนื่องจากเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง เพิ่มสินค้า House brand และราคาเหล็กเพิ่มขึ้น ยอดขายเติบโต 43% YoY เป็น 8,888 ล้านบาท ซึ่งเป็น new high จากการที่ SSSG สูงถึง +35% (เทียบกับ -20% ใน 2Q63 และ +13.7% ใน 1Q64) โดยสินค้าขายดีแทบทุกกลุ่ม และราคาเหล็กเพิ่มขึ้น อีกทั้งจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น 5 สาขา YoY

--กำไร 2H64 ยังมีแนวโน้มเติบโตสูง YoY--
เราคาดว่ากำไร 3Q64 ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่นและราคาเหล็กเริ่มปรับตัวลดลง แต่กำไรจะยังเติบโตแข็งแกร่ง YoY โดย SSSG เดือน ก.ค. เป็นบวกเกิน 10% ขณะที่การล็อกดาวน์ 13 จังหวัดในเดือน ก.ค. คาดว่ามีผลกระทบจำกัด โดย GLOBAL มีการปิดสาขาชั่วคราว 4 สาขา (จากสาขาทั้งหมด 73 สาขา) เนื่องจากไม่มีสาขาในกรุงเทพฯ ส่วนการล็อกดาวน์เพิ่มเติมในเดือน ส.ค. คาดว่าจะมีการปิดสาขาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี GLOBAL ยังสามารถขายหลังร้านและทางออนไลน์ได้ อีกทั้งสาขาส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน นอกจากนั้น อัตรากำไรจะถูกผลักดันจากการปรับราคาสินค้า House brand เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้ผลบวกจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น

--ปรับประมาณการกำไรขึ้น--
กำไรสุทธิ 1H64 คิดเป็น 71% ของกำไรที่เราคาดการณ์ในปีนี้ อีกทั้งกำไร 2H64 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในปี 2565 โดยยังมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นปีละ 5-6 สาขา เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2564-2565 ขึ้น 15% และ 13% ตามลำดับ แม้มีการขยายสาขาต่อเนื่อง แต่เราคาดว่า GLOBAL ยังคงมีฐานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.6-0.7 เท่า

ความเสี่ยง: การล็อกดาวน์ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ราคาเหล็กลดลงอย่างมีนัยยะ

--จบ--