สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(30กรกฎาคม 2564)---------B ลั่นปีนี้ พลิกมีกำไร เหตุรับงานขนส่งสินค้าประเภทอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น พร้อมปรับแผนสอดคล้องกับคำสั่งของรัฐบาล ใช้กองรถ ขนวัตถุดิบประกอบอาหาร หรือชิ้นส่วนประกอบงานต่างๆ เพื่อส่งมอบงานให้กับลูกค้า แย้มมีแผนเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน เดอะ เมกะวัตต์ จากปัจจุบันถือ22% คาดB-W6 คาดเทรดปลายเดือน ส.ค.64

ดร.ปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท บีจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า ผลการดำเนินงานในปี2564 บริษัทฯตั้งเป้าที่จะรักษาระดับให้บริษัทสามารถมีผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง หลังจาก 4 ปีที่ผ่านมา(ปี2560-2563) ขาดทุนต่อเนื่อง โดยผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่1/2564 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างผลดำเนินงานพลิกกลับมามีกำไรได้ราว 78 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 6.14 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับงานขนส่งสินค้าประเภทอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเข้าพูดคุยเจรจากับลูกค้า เพื่อส่งมอบบริการที่ดีมีคุณภาพเมื่อลูกค้าได้ใช้บริการแล้วทำให้เกิดความประทับใจและใช้บริการกับบริษัทอย่างต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่2/2564 ประกอบกับบริษัทมีการขายพื้นที่บริเวณท่าเรือออกไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตปากน้ำ บางปะกง มีน้ำขึ้นเอ่อบริเวณท่าเรือตลอดทำให้ไม่สามารถใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้ไม่เต็มที่นัก จึงตัดสินใจขายออกไป ส่งผลให้บริษัทไม่มีภาระหรือต้องแบกรับผลขาดทุนต่อเนื่องหลายๆเดือนจากพื้นที่ดังกล่าวอีกต่อไป

โดยภายหลังจากนี้ บริษัทได้นำเงินที่ได้จากการขายพื้นที่ท่าเรือบริเวณ ปากน้ำ บางปะกง มาใช้ลงทุนสำหรับกองรถ และการสร้างลานที่เก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard) ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการวางแผนดำเนิน รวมทั้งเร่งขยายฐานลูกค้าอย่างเต็มที่โดยปัจจุบันบริษัทมี รถบรรทุกหัวลาก 37 คัน ซึ่งได้มีการใช้งานเต็ม 100% นอกจากนี้จะใช้บริการซับคอนแทรคอีกประมาณ 100 คัน

“ตอนนี้ บีจิสติกส์ ตัวเบาขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นและตั้งมั่นในการดำเนินงานด้านธุรกิจTransport ให้เป็นไปตามเทรนด์และทิศทางตลาดโลก รวมถึง S-Curve ซึ่งบริษัทเองก็มีความสนใจและเข้าลงทุนทางด้านธุรกิจพลังงานด้วย เช่นกลุ่มบริษัทที่ลงทุนด้านพลังงานโซลาร์เซลล์ จำนวน 29 เมกกะวัตต์ ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม และพึ่งCODไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน40% ทำให้บริษัทได้รับรายได้จากการลงทุนดังกล่าวทุกๆไตรมาส ขณะเดียวกันก็ยังมีความสนใจในการเข้าลงทุนพลังงานสะอาดประเภทขยะ รวมถึงการเข้าไปลงทุนในบริษัท เทพฤทธา จำกัด ที่ประกอบธุรกิจซัพพลายน้ำซึ่งจะนำน้ำมาบำบัดให้เป็นน้ำสะอาดเพื่อกระจายต่อไปให้กับบริษัทเอกชน ซึ่ง B เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน51% ” ดร.ปัญญา กล่าว

ขณะที่ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้บริษัทออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 6 ( B-W6) จำนวนไม่เกิน 320.327 ล้านหน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 6 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธินั้น นอกจากนี้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติให้บริษัทออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 192 ล้านหุ้น คิดเป็น 9.98% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.68 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ และเพื่อรองรับการขยายการลงทุนในโครงการใหม่ในอนาคต

"บริษัทฯคาดว่า B-W6 จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณปลายเดือนสิงหาคมนี้"ดร.ปัญญากล่าว

ดร.ปัญญากล่าวว่า บริษัทฯได้วางแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง2564 โดยมีการปรับแผนในหลายๆส่วนให้สอดคล้องกับคำสั่งของรัฐบาลที่ออกมาบังคับใช้ในช่วงการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น การเร่งหาวัตถุดิบประกอบอาหาร หรือชิ้นส่วนประกอบงานต่างๆ โดยใช้กองรถ ขน เพื่อส่งมอบงานให้กับลูกค้า จึงทำให้การรับรู้ยอดขายของบริษัทในช่วงเดือนก.ค.นี้ยังเป็นไปตามเป้า ซึ่งปัจจุบันเรามีแบ็คล็อคและลูกค้าอยู่ในมือ ที่สามารถส่งไปให้ซัพ-คอนแทร็คช่วยจัดการได้ หรือการดึงลูกค้ากลุ่มก่อสร้างมาใช้กองรถของบริษัทฯแทนการใช้รถจากซัพ-คอนแทร็ค เป็นผลดีต่อบริษัทที่สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการขนส่งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับการเข้าลงทุนใน บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด นั้นปัจจุบันบริษัทถือหุ้นอยู่จำนวน22% ซึ่งได้มองเห็นแนวโน้มการเติบโตของเดอะ เมกะวัตต์ในช่วง8-10ปีข้างหน้า จะสามารถสร้างผลกำไรต่อเนื่องอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันเดอะ เมกะวัตต์มีการดำเนินงานเกี่ยวกับพลังงานในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และในประเทศพม่า ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผลประกอบการค่อนข้างดี ทำให้ B มีแผนในการเข้าลงทุนซื้อหุ้นในกิจการดังกล่าวเพิ่มเติม

“เราตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นทุกท่าน เราอยากให้ B เป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดี สามารถสร้างผลกำไรต่อเนื่องให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้เรายังมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานให้สอดคล้องตามยุคสมัย และตามการเปลี่ยนแปลงของทิศทางของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยากให้ทุกคนรอติดตามการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเสริมกิจการขนส่งของบริษัทให้มีความก้าวหน้าและสร้างผลกำไรที่ดีให้กับB” ดร.ปัญญา กล่าว

---จบ---