Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: AMR โรดโชว์ออนไลน์กระแสแรง อวดBacklogกว่า 1.45 พันลบ. /"ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์" ยื่นไฟลิ่งก.ล.ต. ขายไอพีโอ 109.30 ล้านหุ้น

4,518

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (22 กรกฏาคม 2564)---- บมจ.เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) ปลื้ม! กระแสตอบรับโรดโชว์บนแพลตฟอร์มออนไลน์คึกคัก ชูจุดเด่นหุ้นเทคโนโลยีผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชั่น เบื้องหลังความสำเร็จในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่ ปัจจุบันมี Backlog ในมือ 1,451.2 ลบ. เตรียมเข้าจดทะเบียนภายในไตรมาส 3/64 พร้อมลุยพัฒนาระบบ Feeder Line และ EV Charging Station รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และเมืองอัจฉริยะ หนุนธุรกิจโตก้าวกระโดด

นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารของ AMR และที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ร่วมกันนำเสนอข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์แก่นักลงทุน (โรดโชว์) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้นักลงทุนได้เข้าใจถึงภาพรวมธุรกิจและแผนการดำเนินงานในอนาคต รวมทั้งได้เห็นถึงศักยภาพการเติบโต ภายหลังจากระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนได้ภายในไตรมาส 3/64

“การโรดโชว์ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจาก AMR เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อระบบไอทีโซลูชั่น มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 20 ปี อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการเป็นผู้ให้บริการงานออกแบบติดตั้งระบบวิศวกรรมไอทีโซลูชั่น ให้กับภาครัฐ และเอกชน ชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศ และ กทม. และวางระบบเดินรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และรถไฟรางคู่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานระดับเมกะโปรเจกต์ของประเทศ”

เขากล่าวต่อว่า AMR เป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต เนื่องจากดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านโทรคมนาคม ด้านพลังงาน ด้านระบบไอทีและโซลูชั่นต่าง ๆ โดยบริษัทฯ มีทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การทำงาน และมีฝีมือเทียบเท่าบริษัทข้ามชาติ ซึ่งจัดเป็นบริษัทที่มีความพร้อมอย่างมากสำหรับการรับงานใหม่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ AMR มีแผนระดมทุนโดยจะเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้

นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) กล่าวว่า วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำไปใช้ในการพัฒนาระบบขนส่งรอง (Feeder Line) และการพัฒนา EV Charging Station ใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนาด้านการให้บริการและต่อยอดเทคโนโลยี รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

“ที่ผ่านมา AMR ได้เข้าไปเป็นผู้ออกแบบติดตั้งที่ชาร์จแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งมีแผนขยายจากจุดเล็ก ๆ ไปสู่ระดับประเทศ คาดว่าภายใน 1-2 ปีข้างหน้า คนไทยจะได้มีโอกาสเห็น EV Charging Station มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ออกแบบโดย AMR”

นายมารุตกล่าวอีกว่าปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog แล้วมูลค่าราว 1,451.2 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า AMR จะเดินหน้าขยายการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่ง รวมถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขณะเดียวกันในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10% ขยับเพิ่มเป็น 20-30% ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า และเพิ่มเป็น 50% ในอนาคต เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

 
'บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์' หรือ TFM ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจและผู้นำในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของคนไทย ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อ สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 109.30 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มุ่งนำความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ เดินหน้าเข้าลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำในต่างประเทศ เพื่อสร้างรากฐานการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในภูมิภาคเอเชียผ่านบริษัทย่อยในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน และสนับสนุนการเติบโตในอนาคต โดยแต่งตั้งบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ TFM เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจและผู้นำในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของคนไทย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและเป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำของกลุ่มบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก ซึ่งได้เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจอาหารสัตว์น้ำที่เติบโตตามความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และเป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจรวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนไทย โดย TFM มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานกว่า 20 ปี สั่งสมองค์ความรู้รวมถึงมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตสินค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ของ TFM คือ การเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ที่ผ่านมา TFM จึงมุ่งเน้นผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีความหลากหลาย ครอบคลุมการเพาะเลี้ยงตลอดวงจรชีวิตของสัตว์น้ำในราคาที่สามารถแข่งขันได้เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในวงกว้าง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเติบโตของลูกค้าเกษตรกรในประเทศไทยและการยกระดับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทย ภายใต้ระบบการผลิตที่ทันสมัยในโรงงานผลิตที่จังหวัดสมุทรสาครและสงขลา ด้วยกำลังการผลิตรวมในปัจจุบันทั้งหมดที่ 280,000 ตันต่อปี โดยผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าของ TFM ได้รับความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพในระดับสากลงนี้ TFM มีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักของบริษัทฯ ได้แก่ โปรฟีด (PROFEED) นานามิ (NANAMI) อีโก้ฟีด (EGOFEED) แอคควาฟีด (AQUAFEED) และดี-โกรว์ (D-GROW) เป็นต้น ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่

ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารกุ้ง โดย TFM เป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มตลาดอาหารกุ้ง มีส่วนแบ่งการตลาดอาหารกุ้ง ประมาณร้อยละ 17 ของปริมาณอาหารกุ้งไทย (ปี 2563)ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารปลา (รวมอาหารกบและอาหารปู) แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ (1) อาหารปลาทะเล เช่น อาหารปลากะพง และปลาเก๋า เป็นต้น (2) อาหารปลาน้ำจืด เช่น อาหารปลานิล และปลาดุก (3) อาหารสัตว์น้ำวัยอ่อน สำหรับการอนุบาลลูกปลา และ (4) อาหารกบ โดย TFM เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดอาหารปลากระพง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารปลาที่มีราคาจำหน่ายและอัตรากำไรค่อนข้างสูงกว่าอาหารปลาประเภทอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดอาหารปลากะพง ประมาณร้อยละ 24 ของปริมาณอาหารปลากระพงไทย (ปี 2563)


ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสัตว์บก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ (1) อาหารสุกร (2) อาหารสัตว์ปีก ได้แก่ อาหารไก่ อาหารเป็ด และอาหารนกกระทา โดยบริษัทฯ ได้เริ่มขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์บกในช่วงปลายปี 2561 และปริมาณการขายอาหารสัตว์บกของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีผลเป็นที่น่าพ่อใจ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นนำความเชี่ยวชาญ เทคนิคการผลิต และนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำใหม่ๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง เช่น เป็นผู้บุกเบิกการใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูปในการเพาะเลี้ยงปลากะพง รวมถึงคิดค้นสูตรการผลิตใหม่ๆ เช่น สูตรการผลิตอาหารสัตว์น้ำที่ลดปริมาณการใช้ปลาป่นและน้ำมันปลา และสูตรการผลิตอาหารปลาสลิด อาหารปู เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ TFM ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะตลาดในประเทศไทยเท่านั้น บริษัทฯ ได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศที่อุตสาหกรรมสัตว์น้ำมีศักยภาพในการเติบโต ในขณะที่บริษัทฯ จะสามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและความพร้อมทางด้านบุคลากรและแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ และยังเป็นตัวแทนของประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารสัตว์เศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคเอเชีย โดยเริ่มจากประเทศอินเดีย และขยายไปยังปากีสถานและอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจและรับรู้รายได้ได้ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ และภายในสิ้นปีนี้ ตามลำดับ ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไป TFM พร้อมก้าวไปอีกขั้นด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)

ปัจจุบัน TFM มีทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้วทั้งสิ้นจำนวน 820,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 410.0 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 109.3 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90.0 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) จำนวน 19.3 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 21.9 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

-----จบ----

 

 

 


 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น หวยออก By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ลุ้น หวยออก ระหว่างรอ ครม. ระหว่างรอผลประชุม เฟด เงินบาทแข็งค่า.....

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้