Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: III พร้อมลุยขนส่งวัคซีนในภูมิภาคเอเชีย

2,496

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14มิถุนายน 2564)------IIIตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัคซีนระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยใช้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางในการขนส่ง-เตรียมศึกษาขยายพื้นที่การจัดเก็บแบบ ห้องควบคุมอุณหภูมิ รองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าสุขภาพและความงามโดยเฉพาะ พร้อมคาดไตรมาส2ปีนี้ ผลงานยังดี+โตเทียบปี63 ชี้เริ่มรับรู้ผลตอบแทนจากลงทุนในShipsmile/สิ้นปีนี้ Shipsmile จะมีสาขาเพิ่มเป็น 3 พันสาขาทั่วประเทศ พร้อมประเมินรายได้จากการพัฒนาธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Business Development ยังผงาด ระบุQ2เตรียมตั้งเป้าเพิ่มการให้บริการโดยปรับเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินอีก20-30% ในเส้นทาง จีน-เกาหลีใต้-ฮ่องกง-เพิ่ม Service ใหม่อีก 2 Service เริ่มบริการQ2/64 หลังสายการเดินเรือ CK Line ได้มีการศึกษา Service ใหม่


นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จํากัด (มหาชน) III เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ คาดว่าจะยังสามารถสร้างผลการดําเนินงานที่ดีและมีการเติบโตได้เมื่อเทียบกับปี 2563 และเตรียมปรับเพิ่มเป้าการเติบโตในปี 2564 เทียบกับปี 2563 จากเดิมตั้งเป้าเติบโตร้อยละ 15-20 เป็นไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 30 โดยรายได้จะมาจากทั้งกลุ่มธุรกิจหลักเดิม 4 กลุ่มที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งได้รับผลดีจาก สถานการณ์การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ทําให้อัตราค่าระวางมีการปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้า ระหว่างประเทศทางอากาศ และการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนทางบกจะเพิ่มมากขึ้นเพื่อมาทดแทนการขนส่งสินค้าทาง ทะเล โดยคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี

นอกจากนี้บริษัทฯ คาดว่ารายได้จากการพัฒนาธุรกิจ ใหม่ในกลุ่ม Business Development จะยังมีการเติบโตอยู่ แม้ว่ามูลค่าการส่งออกไทยในไตรมาส 1/2564 ขยายตัว เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.27 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 ในขณะที่สถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศ ไทยกลับมารุนแรงอีกครั้งและยังส่งผลกระทบต่อเนื่องในไตรมาส 2/2564 แต่จากการที่บริษัทฯ ได้มีการประเมิน สถานการณ์เพื่อปรับกลยุทธ์การดําเนินธุรกิจมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ทั้งการบริหารจัดการต้นทุนต่าง ๆ ให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้จากอัตราการทํากําไรของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงครึ่งหลัง ของปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1/2564 รวมทั้งแผนเชิงรุกในการเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและ หาแหล่งรายได้ใหม่ ผ่านการเข้าซื้อและควบรวมกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น


แผนการดําเนินธุรกิจของกลุ่มธุรกิจหลัก

1) ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ

จากสถานการณ์การระบาดของ CoVID-19 ที่ยังมีอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก ทําให้สายการบินต่าง ๆ ยังไม่ สามารถกลับมาทําการบินได้ตามปกติ จึงเป็นผลดีต่อการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศของบริษัทฯ ในรูปแบบของ Cargo Flight ซึ่งได้เริ่มให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1/2564 และได้รับผลตอบรับที่ดี โดย บริการ Cargo Flight ของทางบริษัทฯ ได้มีการร่วมมือกับเครือข่ายสายการบินพันธมิตรที่มีอยู่เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทาง การบินที่สําคัญในระดับภูมิภาคได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ เดลี มาดราส บอมเบย์ มัลดีฟ โคลอมโบ ซึ่งในไตรมาส 2/2564 ทางบริษัทฯ เตรียมตั้งเป้าเพิ่มการให้บริการโดยปรับเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินอีกร้อยละ 20-30 ในเส้นทาง ที่มีศักยภาพ อาทิ จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง


2) ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก

ตามที่สายการเดินเรือ CK Line ได้มีการศึกษา Service ใหม่เพื่อขยายการให้บริการใน North Asia โดยมีแผนขยายเส้นทางผ่าน ฮ่องกง ปูซาน จีน และส่งสินค้าต่อไปที่ญี่ปุ่นและจีนตอนเหนือ เพื่อเป็นการรองรับความ ต้องการในการขนส่งสินค้าทางทะเล บริษัทฯ จึงได้เพิ่ม Service ใหม่อีก 2 Service โดยจะให้บริการครอบคลุมประเทศ เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง เวียดนาม และประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 2/2564

สําหรับ Service เดิมที่สายการเดินเรือ CK Line ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน จะมีการปรับเพิ่มพื้นที่ระวางให้ สามารถรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมอีกกว่าร้อยละ 40

3) ธุรกิจการบริหารจัดการโลจิสติกส์

ธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางทะเล ทางอากาศและการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนทางบกจะมี เพิ่มมากขึ้นในไตรมาส 2/2564 โดยเห็นได้จากจากแนวโน้มการนําเข้าและส่งออกสินค้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้จะยังมีโอกาสที่จะให้บริการลูกค้า Key Account ในการนําเข้าสินค้าทางอากาศในลักษณะ Big Lot ทดแทน การขนส่งสินค้าทางทะเลเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในไตรมาส 1/2564

ในส่วนของธุรกิจการให้บริการคลังสินค้าและการกระจายสินค้าภายในประเทศ บริษัทฯ ยังคงโฟกัสลูกค้าหลัก ในกลุ่มอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ สุขภาพและความงาม และกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดย บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาบริการ Fulfilment รองรับลูกค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม ซึ่งลูกค้ามีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีการจัดทําโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่ม Food and Food Supplement ที่ผ่านช่องทางการขาย Online เพื่อรองรับการใช้ Fulfilment Station อย่างเต็มที่ และบริษัทยังเตรียมศึกษาการขยายพื้นที่การจัดเก็บแบบ ห้องควบคุมอุณหภูมิ (Air-conditioned Storage) เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าสุขภาพและความงามโดยเฉพาะ


4) ธุรกิจโลจิสติกส์สําหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์

ธุรกิจคลังสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์มีอัตราความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าเพิ่มมากขึ้นและคาดว่าจะ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ กําลังพิจารณาการเข้าเสนอโครงการและรองรับการเติบโตของการใช้พื้นที่คลังหลาย โครงการในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป
ในส่วนของบรรจุภัณฑ์สําหรับสินค้าอันตรายมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากยังคงมีปริมาณความต้องการ สูงอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาด บริษัทฯ กําลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์สินค้าอันตรายให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเตรียมเพิ่มช่องทางการขายผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์อีกด้วย แผนการดําเนินธุรกิจของกลุ่ม Business Development

จากแผนยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งประสบความสําเร็จอย่างต่อเนื่อง และจากปัจจัยที่สถานการณ์ Demand การขนส่งสินค้าทางอากาศมากกว่า Supply ด้านเที่ยวบิน รวมถึงภาวะการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ บริษัทฯ คาดว่าผลการดําเนินงานด้านการเป็นตัวแทนการขนส่งสินค้าให้แก่สายการบินในระดับภูมิภาคของกลุ่มบริษัท Around Logistics Management และบริษัทร่วมค้าที่ให้บริการด้านขนส่งสินค้าทางทะเลได้แก่ บริษัท ซีเค ไลน์ (ประเทศไทย) จํากัด และ บริษัท เอ็กคู่ เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จํากัด จะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี อีกทั้งสถานการณ์ แพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทําให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์สินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ยังโตต่อเนื่อง
จะส่งผลให้ ผลตอบแทนการลงทุนที่จะได้รับจากบริษัท DG Packaging Pte., Ltd จะยังคงดีต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้ผลตอบแทนจากการที่บริษัทฯ เข้าลงทุนในบริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส จํากัด (“Shipsmile”) คิดเป็นร้อยละ 30 ของจํานวนหุ้นทั้งหมด และบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ ใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการต่อยอดทางยุทธศาสตร์กับพันธมิตรทางธุรกิจ ดังนี้

1. การพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ภายในประเทศสําหรับกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ภายในประเทศ ที่มีอัตราการเติบโต สูงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงที่ coVID-19 แพร่ระบาด โดยตั้งเป้าในการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจด้วย การผสานศักยภาพธุรกิจเดิมที่มีร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส จํากัด (“Shipsmile” ซึ่งเป็นผู้นําอันดับหนึ่งในธุรกิจในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ให้ ผู้ประกอบการในการขนส่งพัสดุและเป็นจุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศจากบริษัทขนส่งชั้นนํา เช่น แฟลช เอ็กซ์เพรส ไปรษณีย์ไทย DHL และ LEX Express เป็นต้น ซึ่งในไตรมาส 1/2564 Shipsmile มีจํานวนสาขารวม 1,945 สาขา เพิ่มขึ้นกว่า 200 สาขาในช่วงไตรมาส 1/2564 และคาดว่า ภายในสิ้นปี 2564 จะมีสาขาเพิ่มเป็น 3,000 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ โดยในไตรมาส 2/2564 จะเป็น ไตรมาสแรกที่บริษัทฯ เริ่มรับรู้ผลตอบแทนจากการลงทุน


2. ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าภายในประเทศแบบวันเดียว (Same-day Delivery) จากแผนธุรกิจที่บริษัทฯ ตั้งเป้าควบรวมกิจการกับบริษัทขนส่งสินค้าภายในประเทศ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์การขนส่ง สินค้าภายในประเทศในวันเดียว ในไตรมาส 1/2554 ที่ผ่านมาบริษัทฯ จึงได้เข้าร่วมทุนใน บริษัท เมค เซนด์ เอ็กซ์เพรส จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการขนส่งให้มีราคา ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยจะร่วมมือกันต่อยอดพัฒนาโมเดลการขนส่งแบบ Same-day ด้วย การผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัท โดยในขั้นต้นจะเริ่มจากการให้บริการในพื้นที่ของกรุงเทพและ ปริมณฑล จากนั้นจะขยายศักยภาพให้สามารถขนส่งสินค้าในเมืองหลักทั่วประเทศภายในวันเดียว ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า

3. การพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าทางบกผ่านระบบรางภายในประเทศ บริษัทฯ อยู่ในระหว่างพัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตร โดยคาดว่าจะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

4. การให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ โดยภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท Cool ChainLogistics Pte., Ltd. ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อรองรับธุรกิจการขนส่งสินค้าประเภทยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง บริษัทฯ ได้ศึกษาความเป็นไปได้และตั้งเป้าหมาย ในการเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัคซีนระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยใช้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางในการ ขนส่ง ซึ่งมองว่าเป็นแผนธุรกิจระยะยาวจากความต้องการในการใช้วัคซีนที่จะมีอย่างต่อเนื่องทุกปีภาย หลังจากการแพร่ระบาดแพทย์ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง บริษัทฯ ได้ศึกษาความเป็นไปได้และตั้งเป้าหมาย ในการเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัคซีนระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยใช้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางในการ ขนส่ง ซึ่งมองว่าเป็นแผนธุรกิจระยะยาวจากความต้องการในการใช้วัคซีนที่จะมีอย่างต่อเนื่องทุกปีภาย หลังจากการแพร่ระบาด

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อธุรกิจ

แนวโน้มอัตราค่าระวางสถานการณ์การขาดแคลน ตู้คอนเทนเนอร์ (Container Shortage) ส่งผลให้ปริมาณ Demand มีมากกว่า Supply ทําให้ค่าระวางขนส่งสินค้าทั้งทางอากาศและทางทะเลมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะยังคงอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 2564


-----จบ-----

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

พลังแบงก์ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นแรงซื้อ แรงเก็งกำไรเข้ามาหุ้นแบงก์หลายตัวหนาแน่น ทำให้ ดัชนีตลาด ยืน1,400 จุด ได้...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้