วันที่ 16 กรกฎาคม2563 พบกับแม่มดน้อยได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์....... เพี้ยงแม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ  เห็นแววตา สายตาของนักลงทุน ยังมีความกังวล  รบกวนจิตใจ ทำให้ความมั่นใจลดลง แม้ วัคซีน ก็คืบหน้า  GDPของ จีน ไตรมาส 2/2563 ขยายตัว 3.2% ซึ่งฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่หดตัวลง 6.8% ในไตรมาส 1 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 2.5% +รัฐบาลจีน  ประกาศว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้องค์กรและบุคลากรของสหรัฐ   หลัง ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายคว่ำบาตรจีน

          และลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารเพื่อยุติการให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกง  แถม  รัฐบาลสหรัฐ  เตรียมจำกัดการออกวีซ่าให้กับพนักงานของบริษัทด้านเทคโนโลยีของจีน ซึ่งรวมถึงพนักงานของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่  บนเหตุผล บริษัทเหล่านั้นมีส่วนสนับสนุนรัฐบาลจีนในการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรียกว่า ข้อพิพาทระหว่างจีนกับสหรัฐ  ยังไม่จบ ส่งผลให้ตลาดเอเชีย ดาวโจนส์ล่วงหน้า ปรับตัวลง

          แม่มดน้อย ขอกระแสการเมืองในประเทศ สักนิด  อัพเดท กลุ่ม4กุมารและ ทั่นสมคิด ลาออกจากรัฐมนตรีแล้ว งานนี้  จากกันด้วยดี  คร้า

          ปิดตลาดเช้า ดัชนีตลาดอยู่ที่ 1,349.64 จุด ลดลง 4.67 จุด  คิดเป็น 0.34%  มูลค่าการซื้อขาย 24,986.03 ล้านบาท

          มาแล้ว  รถไฟฟ้า ไร้คนขับ  ..หลังจาก ILINK ชนะการประกวดราคางานจัดซื้อพร้อมติดตั้งงาน ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 - 2560) ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) มีมูลค่าของสัญญาจ้าง 2,099.90 ลบ. ก็ได้สั่งจ้างบริษัท ซีเมนส์ โมบิลิตี้ จํากัด จากประเทศออสเตรีย ในการจัดหารถไฟฟ้า ไร้คนขับ Automatic People Mover (APM) สําหรับใช้เชื่อมต่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลัก กับอาคารเทียบ เครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) จํานวน 6 ขบวน (12 โบกี้)

          ปัจจุบัน รถไฟฟ้า ไร้คนขับ Automatic People Mover (APM) ขบวนแรก (2 โบกี้) ถูกจัดส่ง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 โดยบริษัทจะทยอยส่งมอบให้ครบทั้ง 6 ขบวนและ Consortium ไออาร์ทีวี (IRTV) จะทําการติดตั้งรถไฟฟ้า APM นี้ ซึ่งมีมูลค่างาน 900 ลบ.  โดยคาดว่าจะสามารถ ทดสอบ และพร้อมเปิดใช้งานในปี 2564 เป็นต้นไป

          นันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ เผย บริษัทฯ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการคลาย lock down ภายหลังที่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ ซึ่งคาดว่าจะหนุนให้การบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่าการลงทุนภาคเอกชนจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นแรงช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันภายหลังจากปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินเริ่มคลี่คลายซึ่งจะหนุนกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งโดยรวมคาดว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยคาดว่าจะเริ่มเห็นการปรับประมาณการขึ้นในระยะถัดไป ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะช่วยหนุนให้มีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุน

          ปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังได้แก่ การระบาดของ COVID-19 ระลอกที่สอง ที่เกิดในหลายๆ ประเทศ จะส่งผลให้ความเข้มงวดของนโยบายภาครัฐในการควบคุมโรคยังมีอยู่สูง ซึ่งหากการค้นพบวัคซีนมีความล่าช้าจะส่งผลให้การฟื้นตัวของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีความล่าช้ากว่าคาด และตลาดหุ้นมีโอกาสกลับมาผันผวนอีกครั้ง

          วาว แฟคเตอร์หรือW ยันซื้อธุรกิจ “Domino’s Pizza”คุ้มค่า แม้IFAแนะผถห.ไม่อนุมัติ โดยIFA มองการเติบโต อิงตามการเติบโตของยอดขายของแต่ละสาขาที่ 5.5% ต่อปี แต่เรามองการเติบโตที่ 15% ต่อปี ในปี 2565 – 2566 และเติบโตประมาณ 4.6% ต่อปี ในปีที่เหลือ ซึ่งเราต้องบอกว่าที่เรามองแบบนี้เพราะเรามองเห็นจุดแข็งของแบรนด์ และจุดที่สามารถปรับปรุงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งได้อีก และมั่นใจว่าเราทำได้ทันทีในปีแรกที่เข้าลงทุน

          NDR ประเมินแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง คาดว่าน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ถ้า COVID-19 ไม่กลับมาระบาด และไม่มีการปิดประเทศอีก  พร้อมยังคงใช้มาตรการที่รัดกุมในเรื่องของการลงทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับปีนี้รายได้น่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน หากสถานการณ์ COVID-19 ไม่มีการระบาดเพิ่มเติม  ตอนนี้ยังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่า COVID-19 จะจบลงจนกว่าจะมียารักษาหรือวัคซีน

          ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว  ของบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เป็น "แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ" จาก "แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ" พร้อมกันนี้ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ BAM ที่ 'BBB+(tha)' และ 'F2(tha)' และยกเลิกอันดับเครดิตภายในประเทศของบริษัท

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***