HotNews : ใส่เงินเพิ่มทุน MINT

 

 

สำนักข่าวหุ้นไซด์(24 มิถุนายน 2563) ตามที่ MINT ประกาศเพิ่มทุน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มทุนเพื่อฝ่าฟันเพราะโดนผลกระทบจาก COVID – 19 ก็คงไม่ผิดหนัก เพราะถือว่าเป็นบริษัทที่โดนกระทบอย่างหนักหน่วง ทำให้ธุรกิจสะดุดทั้งธุรกิจโรงแรม-อาหาร MINT จึงต้องการเสริมสภาพคล่องเพื่อต่อสายป่านธุรกิจให้ทอดยาวต่อไป

 

 

 

 

 

ล่าสุดนายเอ็มมานูเอล จู๊ด ดิลิปรัจ ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บริษัท ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MINT เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 27/2563 ของบริษัท ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่ไม่เกิน 716,124,785 หุ้น เพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (“การเสนอขายหุ้น Rights Offering”) โดยบริษัทได้กำหนดให้วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น Rights Offering (Record Date)คือวันที่ 29 มิถุนายน 2563 นั้น

 

 

บริษัทขอแจ้งว่า ในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 บริษัทโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนได้พิจารณากำหนดจำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ที่จัดสรรเพื่อการเสนอขายหุ้น Rights Offering รวมทั้งราคาเสนอขายของหุ้นสามัญในการเสนอขายหุ้น Rights Offering โดยคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทในช่วงเวลา 8 วันที่มีการซื้อขายติดต่อกันก่อนหน้าวันที่มีการกำหนดราคาเสนอขาย (ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2563) (“ราคาตลาด”) หักด้วยส่วนลดจำนวนร้อยละ 14.7 ของราคาตลาด และกำหนดรายละเอียดอื่น ๆ ของการเสนอขายหุ้น RightsOffering ดังต่อไปนี้

 

 

 

จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ที่จัดสรรเพื่อการเสนอขายหุ้น Rights Offering : 563,293,276 หุ้น

ราคาเสนอขายต่อหุ้น : 18.90 บาทต่อหุ้น

อัตราส่วนการจัดสรรหุ้น : หุ้นสามัญเดิม 8.2 หุ้นต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ (หากเกิดเศษของหุ้นจากการคำนวณตามอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น ให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง)

 

ผู้ถือหุ้นเดิม อาจแสดงความจำนงที่จะซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ตามสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือเกินกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือน้อยกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือสละสิทธิไม่จองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในครั้งนี้ก็ได้ โดยให้จัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่ที่ไม่ได้รับการจองซื้อในการจัดสรรครั้งแรกที่เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิและชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นครบถ้วนแล้วทุกราย

 

โดยการจัดสรรหุ้นที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายนั้นทุกรอบไป วันจองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ :ตั้งแต่เวลา 9.00 น. –16.00 น. ของวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่23 กรกฎาคม 2563(รวมทั้งสิ้น 5วันทำการ) ตัวแทนในการรับจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ : บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)เลขที่ 191อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 29 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรักกรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ 0-2231-3777 หรือ 0-2618-1000 ต่อ 1133, 1141, 1143 หรือ 1147และ www.bualuang.co.th

 

 

ทั้งนี้ งดรับการจองซื้อทางไปรษณีย์หรือผ่านสาขาของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศสำหรับผู้ถือหุ้นในต่างจังหวัด กรุณาติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ท่านมีบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ โดยทางบริษัทหลักทรัพย์ของท่านจะรวบรวมเอกสารการจองซื้อให้กับตัวแทนในการรับจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อไป

 

 

 

 

ด้านนายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า บริษัทฯได้กำหนดกรอบราคาหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหถ้นอยู่ที่ 17.10-18.90 บาทต่อหุ้น และคาดว่าจะได้รับเงินจากการระดมทุน 10,000 ล้านบาทอย่างไรก็ตามการกำหนดราคาจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะนั้นเพื่อเป็นกการลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของตลาดที่ยังคงผันผวน โดยบริษัทฯยังมีโอกาสปรับลดลงได้อีกไม่เกิน10% โดยบริษัทจะประกาศราคาเสนอขายก่อนหน้าวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น RO และบริษัทได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) เป็นวันที่ 26 มิถุนายน 2563 และกำหนดวันที่รายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น RO (Record Date) เป็นวันที่ 29 มิถุนายน 2563

 

 

สำหรับการเพิ่มทุนและการออกใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 4,849,860,006 บาท เป็น 5,887,815,947 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 1,037,955,941 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งจัดสรรสำหรับ 1.เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering หรือ RO) จำนวน 716,124,785 หุ้น, 2.รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 7 (MINT-W7) จํานวนไม่เกิน 313,831,156 หุ้น และ 3.รองรับการปรับอัตราการใช้สิทธิของใบสําคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 6 (MINT-W6) จํานวนไม่เกิน 8,000,000 หุ้น

 

 

ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดรวมถึงใบสำคัญแสดงสิทธิ MINT-W7 ที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งจะมีราคาการใช้สิทธิที่ไม่สูงกว่าร้อยละ 10ของราคาตลาดถือเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ MINT ที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯมาโดยตลอด

 

 

 

 

 

นอกจากนี้บริษัทฯมั่นใจว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2563 จะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจาก ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายมากขึ้น หลายประเทศทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ โดยปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โรงแรมของบริษัทฯได้เปิดให้บริการแล้วเกือบ 60% จาก 530 กว่าโรงแรมทั่วโลก และมีอัตราการเข้าพักที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ จากปัจจุบันอยู่ที่ 20-30%

 

 

บริษัทฯยังได้ใช้กลยุทธ์ลดต้นทุนการดำเนินงานแบบเฉียบพลัน พร้อมจัดฐานทัพและวิธีการทำงานรูปแบบใหม่เพื่อรักษากระแสเงินสดในมือให้มีความแข็งแกร่งรองรับกับสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในอนาคต โดยปัจจุบันสามารถทำได้แล้ว 30,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25-30%ของต้นทุนดำเนินงานของปีก่อน

 

 

พร้อมกันนี้บริษัทฯยังชะลอการเข้าซื้อกิจการ(M&A)ต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนชั่วคราวหลังสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย พร้อมทั้งตั้งเป้าควบคุมอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest Bearing Debt to Equity Ratio : IBD/E) ให้อยู่ไม่เกินในระดับ 1.3 เท่า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.6 เท่า

 

 

 

 

 

ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุว่า

1) การที่ MINT ปรับอัตราส่วนการรับสิทธิจากเดิมที่ 6.45 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ เป็น 8.2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ส่งผลให้มีจำนวนหุ้นใหม่อยู่ที่ 593.29 ล้านหุ้น จากเดิมที่ 716.12 ล้านหุ้น หมายความว่าการ Dilute ของหุ้น จะลดลงจากเดิมที่ Dilute 13.4% เป็น 10.87%

2) คาดว่า MINT จะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ที่ 9.63 พันล้านบาท - 1.06 หมื่นล้านบาท ขึ้นอยู่กับ Final Price และเราเชื่อว่า MINT จะสามาถขายหุ้นเพิ่มทุนหมด เนื่องจากผู้ถือหุ้นสามารถซื้อเกินสิทธิได้ถ้าหากมีหุ้นเพิ่มทุนเหลืออยู่

3) MINT จะได้รับเงินเพิ่มจากการขาย Perpetual Bond อีกราว 1.0 หมื่นล้านบาท ให้กับนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเราคาดว่าจากที่ MINT เคยออก Perpetual Bond มาแล้วเพื่อการเข้าลงทุนใน NH Hotel MINT จะสามารถขาย Perpetual Bond ได้หมด

4) ระดับ D/E ของ MINT จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.3X ต่ำกว่า Covenant ที่ 1.75X

5) เนื่องจากราคาหุ้น MINT ได้ปรับตัวสูงขึ้นมา 45% จากจุดต่ำสุดในช่วงกลางเดือนมี.ค. 2563 แต่เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลต่อ Second Wave ของ COVID-19 เราจึงยังแนะนำเพียง "ถือ" ที่ราคาเป้าหมายที่ 16.85 บาท

 

ขณะที่ บล.หยวนต้า เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า MINT

แจ้งตลาดเช้านี้ประกาศราคาเพิ่มทุนที่ 18.90 บาทต่อหุ้น สัดส่วนหุ้นสามัญเดิม 8.2 หุ้นต่อ 1 หุ้นสามัญออกใหม่ (หากเกิดเศษของหุ้นจากการคำนวณให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง) ขึ้น XR วันที่ 26 มิ.ย. 63
ผู้ถือหุ้นเดิมอาจแสดงความความจำนงที่จะซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ตามสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือเกินกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือน้อยกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรร หรือ สละสิทธิไม่จองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในครั้งนี้ก็ได้ โดย MINT จะจัดสรรหุ้นที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ

 

วันจองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญออกใหม่ คือ วันที่ 17-23 ก.ค.63 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 16.00 น.

 

บริษัทฯมีสิทธิที่จะปรับเปลี่ยน หรือแก้ไขราคาเสนอขายที่ได้ประกาศ ไม่ว่าโดยการเพิ่มหรือลดราคาดังกล่าว หากพิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสมเพื่อความสำเร็จของการเสนอขายหุ้น RO ขึ้นกับภาวะตลาด โดยการปรับราคาจะต้องไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของราคาเสนอขายที่ประกาศไว้ หรือหากมีการปรับราคาเสนอขายลงจะอยู่ระหว่างช่วง 17.10-18.90 บาทต่อหุ้น ยังไม่ได้ประกาศวัน XW MINT W7 การออก Perpetual bond 300 ล้านเหรียญ ประสบความสำเร็จ โดยมีความต้องการ subscribe สูงถึง 11x และได้ดอกเบี้ยต่ำที่ 3.1% 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้มีความเห็นว่าสัดส่วนการเพิ่มทุนที่ 8.2:1 ดีกว่าที่เราและตลาดคาดก่อนหน้าที่ 6.45:1 ทำให้เกิด EPS Dilution ราว 11% Price Dilution 1% ดีกว่าคาดก่อนหน้าจะมี EPS Dilution ที่ 13.4% การเพิ่มทุนหากสำเร็จ MINT จะได้เงินจาก RO ราว 1 หมื่นล้านบาท เมื่อบวกกับ Perpetual bond อีกราว 1 หมื่นล้านบาท ทำให้ฐานทุนของ MINT กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และมากเพียงพอผ่าน COVID-19 ไปได้ไม่ต้องเพิ่มทุนอีกรอบ แม้เกิด 2nd wave หรือ 3rd wave  หากเพิ่มทุนสำเร็จ เราคาดเป็นปัจจัยสำคัญปลดล็อคแรงกดดันต่อราคาหุ้น ที่ทำให้หุ้นซื้อขายต่ำที่ -2SD และอ่อนแอกว่ากลุ่ม คงมุมมองเชิงบวกต่อ MINT แม้ระยะสั้นกำไรยังถูกกดดันหนักจาก COVID-19 แต่เป็นเหตุการณ์ไม่ปกติในปี 2563 และผลประกอบการทยอยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q63

 

 

ขณะที่ภาพระยะกลางถึงยาวอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังแข็งแกร่ง รอเพียง COVID-19 ผ่านพ้น เพื่อกลับไปสะท้อนศักยภาพการทำกำไรที่แท้จริงที่ราว 7 พันล้านบาทต่อปี คงประมาณการและคำแนะนำ "ซื้อ" อิงราคาเหมาะสมที่ 28.75 บาทต่อหุ้น Dilution ที่น้อยกว่าคาด มีผลให้ราคาเหมาะสมของเราอาจถูกปรับเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีนัยสำคัญ

 

เชิงกลยุทธ์แนะนำให้นักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้วเพิ่มทุน ขณะที่นักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้นทยอยสะสมบางส่วน โดยต้องเผื่อเงินไว้สำหรับเพิ่มทุนและเผื่อไว้สำหรับการสะสมอีกรอบ หากมีการระบาดรอบสองที่รุนแรงกดดันหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว อิงสมมติฐานสำคัญคือการระบาดรอบสามไม่น่ากังวลเพราะจะมีพัฒนาการวัคซีนที่สำคัญ

 

MINT