Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : EPG ดึงพาร์ทเนอร์ตุรกีร่วมทุน ลุยผลิตอุปกรณ์แต่งรถในไทยต้นปี 65

3,265

HotNews : EPG ดึงพาร์ทเนอร์ตุรกีร่วมทุน ลุยผลิตอุปกรณ์แต่งรถในไทยต้นปี 65

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 พฤษภาคม 2563) บอร์ด EPG ไฟเขียวส่ง แอร์โรคลาส ร่วมทุนกับ Farplas Otomotiv A.S. ประเทศตุรกี รุกชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ รองรับความต้องการ เกิดขึ้นของลูกค้าผู้ประกอบยานยนต์ และเพิ่มเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่จากผู้ร่วมลงทุน คาดเปิดผลิตต้นปี65 -ปิดกิจการ TJM Products MEA DMCC สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ แอร์โรคลาส บริหารงานขาย อุปกรณ์ตกแต่งสําหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อและรถบรรทุกในภูมิภาคแทน  ขณะที่ประกาศผลประกอบการปี 62/63 รายได้จากการขาย 10,217 ลบ. กำไรสุทธิ 999ลบ. เพิ่มขึ้น 11%  พร้อมจ่ายปันผลอีก 0.12 บาท/หุ้น

 

 

 

 

นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) EPG เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2563 ซึ่งประชุมเมื่อ วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ได้มีมติ มีมติอนุมัติให้บริษัท TJM Products MEA DMCC สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ย่อย ซึ่งดําเนินธุรกิจจําหน่าย อุปกรณ์ตกแต่งสําหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อและรถบรรทุก เลิกกิจการเนื่องจากประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน แล้วเห็นว่าบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของ TJM ในตะวันออกกลาง โดยให้บริษัท แอร์โรคลาส จํากัด บริหารงานขายผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคนั้นแทน

 

 

นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติให้บริษัท แอร์โรคลาส จํากัด (Aeroklas) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เข้าร่วมทุนกับ Farplas Otomotiv A.S. ประเทศตุรกี เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศไทย เพื่อประกอบกิจการผลิตและจําหน่ายสินค้าประเภทชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ โดยบริษัท แอร์โรคลาส จํากัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียนบริษัทใหม่ ส่วน Farplas Otomotiv A.S. ประเทศตุรกี ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนบริษัทใหม่ คาดว่าจะเริ่มดําเนินการจัดตั้งบริษัทภายในเดือนมิถุนายน 2563 และ ดําเนินการเปิดดําเนินการผลิตในต้นปี 2565

 

 

สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะ เพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เพื่อรองรับความต้องการ เกิดขึ้นของลูกค้าผู้ประกอบยานยนต์ และเพิ่มเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่จากผู้ร่วมลงทุนด้านแหล่งที่มาของเงินทุน มาจาก กระแสเงินสดของบริษัท แอร์โรคลาส จํากัด และการกู้ยืมเงิน

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทฯมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติการจัดสรรเงินกําไรส่วนหนึ่งจํานวน 21,271,000 บาท ไว้เป็นทุนสํารองตามกฎหมาย และการจ่ายเงินปันผลสําหรับผลการดําเนินงาน สําหรับปีบัญชีสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2563 เพิ่มเติมจากเงินปั้นผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท (สิบสองสตางค์) สําหรับหุ้น จํานวน 2,800 ล้านหุ้น รวมเป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น 336 ล้านบาท (สามร้อยสามสิบหกล้านบาทถ้วน) โดยจ่ายจากกําไรสุทธิ สําหรับปีของงบการเงินเฉพาะกิจการ กําหนดจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการกําหนดให้เป็นวันกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปั้นผล (Record Date) และกําหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2553

 

 

กําหนดให้วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นวันกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิเข้าร่วมประชุม สามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2563 (Record Date),กําหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2563 ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2553 เวลา 9:00 น. ณ โรงแรม ดิ แอมบาสซาเดอร์ ถนนสุขุมวิท ซอย 11 กรุงเทพมหานคร

 

 

 

 

 


ด้านรศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 62/63 (1 เม.ย.62 – 31 มี.ค.63) บริษัทมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 10,217 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 3.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 10,579 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 999 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิที่ 903 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น AEROKLAS 46% AEROFLEX 30% และ EPP 24% สำหรับผลประกอบการปี 62/63 เป็นผลมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้

 

 


ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขายรวม 3,012 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่นซึ่งเลือกใช้สินค้าระดับพรีเมี่ยม อีกทั้ง ฉนวนกันความร้อน/เย็น Aeroflex เป็นสินค้าจำเป็น (Essential Product) ที่นำไปใช้ในระบบปรับอากาศ อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง อุตสาหกรรมยา และคลีนรูม เป็นต้น

 

 


ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มีรายได้จากการขายรวม 4,726 ล้านบาท หรือลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับตัวลดลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก และในช่วงปลายเดือนมีนาคม 63 เริ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) อีกทั้งธุรกิจในออสเตรเลียเติบโตช้ากว่าที่คาดไว้

 

 


ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีรายได้จากการขายรวม 2,480 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้ทำการขยายตลาดในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก ประเภทกล่องใส่อาหาร ถ้วยน้ำดื่ม และสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น แม้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะเริ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ซึ่งส่งผลให้การอุปโภคบริโภคของประชาชนลดลง แต่ยังคงได้รับประโยชน์จากบรรจุภัณฑ์พลาสติกใส่อาหารทดแทน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคด้วยการสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่ หรือซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้าน

 

 

 

 


บริษัทมีต้นทุนขายสินค้าลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับผลประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างต่อเนื่อง

 

 


นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง เนื่องจากผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)

 

 


รศ.ดร.เฉลียว กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 63 เพื่อขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท (สิบสองสตางค์) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 336 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 63 ในวันที่ 23 ก.ค. 63 และหากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date)ในวันที่ 7 ส.ค. 63 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 21 ส.ค. 63

 

 


"ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท แล้วหากรวมกับการปันผลในครั้งนี้อีก 0.12 บาทต่อหุ้น จะทำให้บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลรวม 0.22 บาทต่อหุ้น"รศ.ดร.เฉลียว กล่าว

 

 

 

 

 

 

เคทีบีฯ แนะถือ EPG ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท/หุ้น

 


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ยังคงแนะนำ "ถือ" EPG และราคาเป้าหมาย 5.50 บาท บาท อิง FY21E PER ที่ 15 เท่า (-1.5SD below 4-yr average PER) EPG รายงานกำไรสุทธิ 4QFY20 (Jan-Mar 2020) ที่ 243 ล้านบาท (+119% YoY, +15% QoQ) ดีกว่าที่ตลาดและเราคาด 15% แต่หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติที่ 194 ล้านบาท (+55% YoY, -8% QoQ) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดราว 8%

 

 

โดยกำไรที่เติบโต YoY เป็นผลจาก Aeroflex ที่เติบโตโดดเด่น ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ เป็นผลจาก EPP ที่ชะลอตัวมากกว่าคาด รวมกำไรสุทธิรวมทั้งปี FY20 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท +11% YoY สำหรับปี FY21E เรายังคงกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยคาดว่าจะได้ผลบวกจาก Aeroflex ที่ยังคงเติบโตโดดเด่น แต่ Aeroklas จะปรับตัวลดลงมากตามอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่มีทิศทางชะลอตัว ขณะที่ EPP จะยังคงทรงตัว ตามแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่ลดลง แต่ยังได้ผลบวกจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงมาชดเชย

 

 


ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและ outperform SET +29% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ส่งผลบวกต่อต้นทุนวัตถุดิบเม็ดพลาสติกที่จะลดลง อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำ "ถือ" จากแนวโน้มกำไรปี FY21E ที่จะยังทรงตัว ขณะที่กำไร 1QFY21E จะปรับตัวลดลงจาก Aeroklas ที่จะชะลอตัวลงมากตามอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่ชะลอตัว และคาดว่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

 

 


กำไรปกติ 4QFY20 ต่ำกว่าคาด EPG รายงานกำไรสุทธิ 4QFY20 (Jan-Mar 2020) ที่ 243 ล้านบาท (+119% YoY, +15% QoQ) ดีกว่าที่ตลาดและเราคาด 15% แต่หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 52 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ 194 ล้านบาท (+55% YoY, -8% QoQ) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดราว 8% โดยกำไรปกติที่เติบโต YoY เป็นผลจากธุรกิจ Aeroflex (ฉนวนกันความร้อน/เย็น) ที่เติบโตโดดเด่น จากตลาดสหรัฐที่เติบโตมาก เพราะคู่แข่งมีปัญหา supply chain ทำให้หันมาสั่งสินค้าจาก Aeroflex มากขึ้น ส่วนกำไรปกติที่ปรับตัวลดลง QoQ เป็นผลจากธุรกิจ EPP (บรรจุภัณฑ์) ที่ปรับตัวลดลงมากสุด จากการบริโภคในประเทศปรับตัวลดลง และธุรกิจ Aeroklas (ชิ้นส่วนรถยนต์) ที่ทรงตัว โดยยังมีปัจจัยลบจากชะลอตัวลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก และช่วงปลายเดือน มี.ค.เริ่มได้รับผลกระทบจาก COVID-19 สำหรับกำไรสุทธิรวมทั้งปี FY20 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท +11% YoY

 

 


คงกำไรปี FY21E ทรงตัว โดยงวด 1QFY21E มีแนวโน้มปรับตัวลงจากธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ที่ชะลอตัว เรายังคงกำไรสุทธิปี FY21E ที่ 1 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยคาดว่าจะได้ผลบวกจากธุรกิจ Aeroflex ที่ยังคงเติบโต จากตลาดสหรัฐและญี่ปุ่นที่ดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Aeroklas จะได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่ชะลอตัว ขณะที่ EPP แนวโน้มยังคงทรงตัวจากการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัว ความต้องการ drink packaging ลดลง แต่ยังได้ชดเชยจากสินค้า food packaging เพิ่มสูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกลง ทั้งนี้ เราประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิ 1QFY21F จะปรับตัวลดลงทั้ง YoY และ QOQ จากผลกระทบ COVID-19 ส่งผลให้ Aeroklas ที่จะปรับตัวลดลงมากตามอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่ชะลอตัวอย่างหนัก

 

 


ประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท บาท อิง FY21E PER ที่ 15 เท่า (-1.5SD below 4-yr average PER) โดยมี key catalyst จากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบเม็ดพลาสติกลดลง และประกาศจ่ายเงินปันผล 0.12 บาท (คิดเป็น div. yield 2.3%) จะขึ้น XD วันที่ 6 ส.ค. ขณะที่มี key risk จากอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่ชะลอตัว

 

 

 

 

 

 


หยวนต้า แนะ "TRADING" EPG เคาะเป้า 5.80 บาท/หุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า EPG รายงานกำไรสุทธิช่วง 4Q62 (สิ้นงวดวันที่ 31 มี.ค.) จำนวน 238 ลบ. โต 117.2%YoY แต่หากไม่รวมกำไรจาก FX ที่บันทึกในไตรมาสนี้ 52 ลบ. ยังมีกำไรปกติ 187 ลบ. โต 69.6%YoY โดยหลักมาจากฐานกำไรในปีก่อนที่ต่ำผิดปกติเพราะมีบันทึกการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานราว 50 ลบ. ทำให้ในไตรมาสนี้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับลงราว 12.7%YoY บวกกับแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมากจากเพียง 25.8% ในช่วง 4Q62 เป็น 28.4% หลังทยอยปรับเพิ่มราคาขายของฉนวนยางให้สูงขึ้นทันกับต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น อย่างไรก็ดีผลบวกดังกล่าวบางส่วนถูกชะลอลงจาก 1) รายได้จากการขายหดตัว 7%YoY หลังธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ของ ARK เริ่มได้รับผลจากภาวะ ศก. ที่อ่อนแอลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562

 

 

และเริ่มเห็นผลกระทบทาง ศก. จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กดดันยอดขายยานยนต์ทั้งในประเทศและในออสเตรเลีย (TJM+Flexigrass) รวมถึงทำให้ยอดขายบรรจุภัณฑ์ของ EPP อ่อนแอลง ตามการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ลดลง และ 2) รายได้อื่นๆ ลดลง 43.6%YoY หลังส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเกี่ยวข้องกับอะไหล่ยานยนต์ปรับตัวลงใกล้เคียงกับ ARK ทำให้ทั้งปี 2562 EPG มีกำไรปกติ 1,000 ลบ. โต 10.1%YoY ใกล้เคียงคาด

 

 

ปรับลดประมาณการสะท้อนแนวโน้มธุรกิจ ARK และ EPP ที่แย่ลง ค่อนข้างกังวลต่อผลดำเนินงานในปี 2563 โดยเฉพาะในช่วง 1Q63 (สิ้นงวดวันที่ 30 มิ.ย.) ที่จะเห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เต็มไตรมาส ส่งผลให้ 1) ยอดขายอะไหล่ยานยนต์ของ ARK คาดปรับตัวลงแรง สอดคล้องกับยอดขายยานยนต์ในประเทศที่หดตัวสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี (เดือน เม.ย. ยอดขายยานยนต์หดตัว 65%YoY) อีกทั้งช่วง 2H63 คาดฟื้นตัวได้เพียงเล็กน้อยเนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอ และ 2) ยอดขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกของ EPP ได้รับแรงกดดันจากการปิดเมืองปิดห้างในเดือน เม.ย.-พ.ค. ทำให้ยอดขายสินค้าของลูกค้ากลุ่ม Branded Wholesale และ Retail ปรับตัวลงมาก และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นคาดอ่อนตัวลง จากผลของการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scales) ที่แย่ลงในช่วงที่ยอดขายหดตัว ดังนั้นเพื่อยึดหลักอนุรักษ์นิยม เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปกติของ EPG ในปี 2563 ลง 21.7% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาด EPG จะมีกำไรปกติราว 876 ลบ. หดตัว 12.4%YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากเพียงยอดขายฉนวนยางของ AFC ที่เติบโตได้ดีเนื่องจากภาคการก่อสร้างในต่างประเทศมีการหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยและคู่แข่งมีปัญหาในการจัดหาวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิต

 

 

ลดคำแนะนำเป็น "Trading" จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของผลดำเนินงาน คาดราคาหุ้น EPG จะถูกกดดันด้วยทิศทางผลดำเนินงานที่ไม่สดใสไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้แม้ปัจจุบันราคาหุ้นยังมี Upside 11.5% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2563 ที่ 5.80 บาท (ปรับไปใช้ PER ที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี - 1 S.D. ที่ 18.4x) แต่เราปรับลดคำแนะนำลงจาก "ซื้อ" เป็น "Trading" จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้ธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ของ ARK และยอดขายบรรจุภัณฑ์ของ EPP รวมถึงแผนธุรกิจที่ชัดเจนขึ้นของธุรกิจหน้ากากอนามัยในปีนี้ (ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบตลาด)



 

EPG

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

แนวรบเก็งกำไร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ แม้สภาพตลาดหุ้นไทย นักลงทุน ยังไม่กลับมา แต่สำหรับแนวรบ หุ้นเก็งกำไร ......

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2024

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing..

มัลติมีเดีย

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้