
HotNews : NCL ไม่หวั่น New Normal มั่นใจโลจิสติกส์โตยาว
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (8 พฤษภาคม 2563) การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ หรือ COVID-19 ส่งผลให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกโยงใยสัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน และพฤติกรรมของคนในสังคมให้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดเป็นปรากฎการณ์ที่เรียกว่า New Normal หรือ ความปกติในรูปแบบใหม่ ที่นอกจากผู้คนต้องปรับตัวแล้ว ภาคธุรกิจเองก็เช่นกัน วันนี้ทีมข่าวหุ้นอินไซด์จะขอหยิบยกมุมมองของ "กิตติ พัวถาวรสกุล" ซีอีโอ บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) ว่ามองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างไร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NCL ให้ความเห็นกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ ถือว่าได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัส COVID-19 น้อยที่สุด โดยมองว่า COVID-19 จะเข้ามา Disturb โลจิสติกส์แค่ช่วงระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งอุตสาหกรรม และธุรกิจโลจิสติกส์ ก็ยังมีโอกาสในการฟื้นตัวเร็วมากเพราะเป็นธุรกิจพื้นฐาน ที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal
"สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์บอกได้เลยว่ารับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยสุดและมีโอกาสในการฟื้นตัวเร็วมาก เพราะว่าเป็นธุรกิจพื้นฐานที่ยังไงคนก็ต้องใช้ และโควิดก็มา Disturb โลจิสติกส์แค่ช่วงระยะสั้น แต่ในระยะยาวเรามองว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งอุตสาหกรรม เนื่องจากว่า New Normal ของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันน่าจะอาศัยธุรกิจโลจิสติกส์เป็นหลักแล้ว โอกาสที่ลูกค้าจะไปได้เองมันน้อยลง ซึ่งปัจจุบัน NCL เราให้บริการแบบครบวงจร ทั้งเรือ สายการบิน รถขนส่งในประเทศ เราก็มองว่าจุดนี้เราจะได้รับผลดีครับ" นายกิตติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เพราะผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้บริษัทฯ ปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2563 เหลือทรงตัวจากปีก่อนที่ทำได้ 1,309.96 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้ารายได้เติบโตมาที่ระดับ 1,500 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ โดยประเทศจีนได้มีการปิดประเทศตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมที่ผ่านมา ตามด้วยประเทศแถบยุโรป ,สหรัฐอเมริกาก็ได้มีการปิดประเทศไปด้วยตามลำดับ
ขณะที่คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะกระทบภาพรวมผลประกอบการไตรมาส1/2563 ด้วยโดยปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนการส่งออกไปยังประเทศจีน 30% ส่วนที่เหลืออีก 70% จะเป็นการส่งออกไปยังยุโรป ,สหรัฐอเมริกา, อินเดีย และตะวันออกกลาง
แต่บริษัทฯ ยังคาดหวังว่าครึ่งปีหลังผลการดำเนินงานจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะสามารถเข้ามาชดเชยผลประกอบการครึ่งปีแรกที่หายไปได้ หลังหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์แล้ว
ด้านแผนการขยายธุรกิจในปีนี้บริษัทฯ ชะลอการลงทุนออกไปก่อนจากเดิมที่บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาการทำธุรกิจเกี่ยวกับคลังสินค้า หลังจากสถานการณ์ในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย แต่ทั้งนี้หากสถานการณ์ดังกล่าวได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ บริษัทฯก็พร้อมที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจต่อไป
สำหรับธุรกิจผลิตน้ำยาล้างไตยังคงมีการขยายตัวได้ค่อนข้างดี หลังความต้องการยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องประกอบกับล่าสุดบริษัทฯได้มีการขยายโรงงานเพื่อรองรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในปีนี้บริษัทฯคาดว่ารายได้จากธุรกิจผลิตน้ำยาล้างไตจะเติบโต 10% จากปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 90-100 ล้านบาท
NCL