วันที่ 30 เมษายน  2563 พบกับแม่มดน้อยได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์....... เพี้ยงแม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ  บรรยากาศตลาดหุ้นไทย ภาคเช้า ถือว่า มีความคึกคัก แคปใหญ่ ยกพลขึ้นบก ตะลุยกันแหลก  บนตัวแปร  บนปัจจัย เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น และเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%  งานนี้  เจอโรม พาวเวล เผยพร้อมใช้ทุกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สู่ระดับปกติ

          ขณะเดียวกันบริษัท Gilead Sciences เผยผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir เบื้องต้นผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวนอย่างน้อย 50% ที่ได้รับยา remdesivir เป็นเวลา 5 วัน มีอาการดีขึ้น และผู้ป่วยจำนวนมากกว่า 50% ที่ได้รับยา remdesivir สามารถออกจากโรงพยาบาลภายในเวลา 2 สัปดาห์ ถือว่า เป็นสัญญาฯที่ดี + แต่ละประเทศ เริ่มผ่อนปรนกิจการ ให้กับการประกอบกิจการ การค้าได้อีกครั้ง

          บ้านเรา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนปรน ตลาด ร้านจำหน่ายอาหาร กิจการค้าปลีก-ส่ง  กีฬา สันทนาการ ร้านตัดผมเสริมสวย เฉพาะ ตัด สระ ไดร์ อื่นๆ ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์  เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.นี้ ส่วนวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ตัวเลขหลักเดียวต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,954 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,687 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้นอีก 22 ราย และวันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงอยู่ที่ 54 ราย มุมมองของแม่มดน้อย  นับเป็นสัญญาณที่ดี

          ปิดตลาดเช้า  ดัชนีตลาดอยู่ที่ 1,295.47 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด  คิดเป็น1% มูลค่าการซื้อขาย 38,492 ล้านบาท

          รอบหุ้นใหญ่ ติดเครื่องวิ่ง  ดันดัชนีตลาดถึง 1,300 จุด จนได้  แต่ก็เจอแรงขายทำกำไร มุมมองของแม่มดน้อย ถือเป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ งานนี้ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ของบจ. คงไม่เละมากมาย ด้วยโควิด-19 อาละวาดหนัก ก็ขอให้นักลงทุน มองผ่าน มองข้าม  ไปมองไตรมาส2 มองครึ่งปีหลัง ที่น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก  หุ้นบิ๊กแคป เล่นนำ เล่นล่วงหน้าแล้ว  ตอนนี้ ต้องใจแข็ง กระโดดขึ้นรถ ที่มีโชเฟอร์เป็นกองทุนในประเทศดีสุด หุหุ

          เทรดหุ้นกองทุนที่นิยม ดีสุด  คิดไม่ออก ก็มองหุ้นที่คาดว่า จะได้เข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ (ประกาศ 12 พ.ค.) นั่นคือ  KTC, AWC, TOA ส่วนจะฮอต อมตะ ก็คือ BAM  วันนี้  พ่อมดน้อย  บล.โนมูระ พัฒนสิน  กระซิบ  BAM เริ่มต้นคำแนะนำ "ซื้อ" ที่มูลค่าพื้นฐาน 2020F ที่ 31.00 บาท อิง PBV20F 2.6 เท่า จาก i) เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบริหารหนี้ที่รับประโยชน์จากโครงสร้างของประเทศ ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 43.7% ii) มีข้อได้เปรียบคู่แข่งอย่างชัดเจน จากความพร้อมของฐานเงินทุน iii) ภาวะปัจจุบันเป็นโอกาสทางธุรกิจ ในการขยายพอร์ต NPL ขณะที่ความกังวลความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ ถูกหักล้างจากการที่สัดส่วนพอร์ต NPL มีหลักประกันถึง 95% และ มูลค่าหลักประกันสูงกว่าต้นทุนที่ซื้อพอร์ตถึง 2.5 เท่า iv) มี Hidden value จากหลักประกันคืออสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท หัก หนี้สินทั้งหมด 7.87 หมื่นลบ.  จะเหลือมูลค่า 1.68 แสนลบ.  สูงกว่า Market cap ปัจจุบันที่ 7.75 หมื่นลบ. กว่า 2.1 เท่า v) คาดกำไรกลับมาเติบโตในปี 2021F เป็นต้นไป และมี Upside Risk 5.87 พันลบ. จากผลประโยชน์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (Deferred Tax Asset: DTA) vi) เป็นหุ้นมั่นคง น่าสนใจเชิง Valuation  PBV20F 2.0 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มมาก และคาดจะให้ Div. Yield มั่นคงที่ระดับ 3%

          สำหรับหุ้นเด่นเดือนพ.ค.63 ก็คือ ADVANC, BAM, BEM, CPALL, CPF

          แม่มดน้อย เชื่อว่า หากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนหลักเดียว ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) คงให้ศูนย์การค้า ห้าง โรงแรม เปิดดำเนินอีกครั้ง โดยมีมาตรการรองรับ (อาจไม่นาน...เร็วๆนี้)....แม่มดน้อย เสนอให้ลุงตู่  สนับสนุนให้ไทยเที่ยวไทย เหมือนกับที่จีน ให้คนในประเทศท่องเที่ยวภายในประเทศ ตอนนี้  ต้องใช้เม็ดเงินในประเทศ หมุนเวียน โดยมีภาครัฐ สนับสนุน   สำหรับคนเล่นหุ้น ก็ต้อง เล็งหุ้นโรงแรม ร้านอาหาร หรือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เหอะๆ

          บอร์ด บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ไฟเขียว ดึง “ธนิน ศรีเศรษฐี” จาก GP Group of Companies (Holding Company) นั่งแท่น CEO คนใหม่ ดีเดย์ 4 พ.ค.63 นี้ เล็งสานต่อนโยบาย One Stop Service Solution สู่การเป็นผู้นำ “Health & Beauty” แบบครบวงจร สู่ระดับสากล พร้อมปักธงสร้าง New S-Curve เพื่อพัฒนาและต่อยอดรายได้ธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

          ACE ยันไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เหตุรายได้หลักจากการจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทฯ กว่า 99% เป็นการจำหน่ายไฟฟ้าให้ภาครัฐ พร้อมย้ำฐานะการเงินแกร่ง มีหนี้สินต่อทุน 0.28 เท่ามีศักยภาพในการลงทุนโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น-เตรียมเข้าประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ -ขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวมแล้ว 1,100 เมกะวัตต์

          หมอหุ้น บล.เอเซีย พลัส  ส่อง ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังมีความเสี่ยงจากกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q63 หดตัวแรง อาจเปิดความเสี่ยงให้ฝ่ายวิจัยมีโอกาสปรับลดกำไรต่อหุ้นปี 2563 ลง เป็นรอบที่ 4 ส่วนความคาดหวังการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ถูกสะท้อนในตลาดหุ้นไปในระดับหนึ่งแล้ว บวกกับ Valuation ทางพื้นฐาน เริ่มตึงตัว ซึ่งกำหนดบนคาดการณ์ EPS ของตลาดปี 2563 ที 72.62 บาท/หุ้น (ต่ำกว่า Consensus ที่ 75 บาท/หุ้น) และให้ Market Earning Yield Gap ที่ 5% จะให้ค่า PER เป้าหมายที่ 17.4 เท่า คิดเป็น SET Index เป้าหมายที่ 1264 จุด เท่ากับว่าที่ระดับ SET Index ปัจจุบันไม่เหลือ Upside ทางพื้นฐานแล้ว

          ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในเดือน พ.ค. 2563 แนะจัดพอร์ตเตรียมรับความผันผวนของตลาด โดยเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่ผันผวนต่ำ ปันผลสูง อย่าง RATCH KBANK และ DCC หุ้นที่ผลประกอบการโดดเด่นต่อจากนี้ STA, IVL, COM7 ขณะเดียวกับแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้น Over Value อย่าง ERW และ DELTA

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***