Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TQM ปูพรหม 6 ปี (64-69) รายได้ทะยานสู่ 5 หมื่นลบ. ลุยจับมือพาร์ทเนอร์ เจาะตลาด CLMV

2,535

HotNews : TQM ปูพรหม 6 ปี (64-69) รายได้ทะยานสู่ 5 หมื่นลบ. ลุยจับมือพาร์ทเนอร์ เจาะตลาด CLMV

 

 

ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TQM เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายภายใน 6 ปี (2564 - 2569) แตะ 50,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะสามารถทำยอดขายปี 2563 ได้ที่ 15,000 ล้านบาท เติบโต 17.2% ซึ่งบริษัทฯจะมุ่งเน้นในการเป็นผู้นำเทรนด์ดิจิทัลอินชัวร์รันส์โบรกเกอร์ Digital Insurance Broker in Region โดยจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นการมอบประสบการณ์ที่ใหม่และแตกต่างให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล

 

 


อีกทั้ง บริษัทฯจะยังคงรักษาตลาดเดิมของTQM ไว้ทั้งในส่วนงาน Tele sale งานขาย Face to Face งานขายต่างจังหวัดและลูกค้าองค์กร รวมทั้งกลุ่มบริษัทในเครือ เช่น บริษัท ที เจ เอ็น อินชัวร์รันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ที่มุ่งเน้นตลาดดีลเลอร์และนายหน้าอิสระที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีช่วยสนับสนุนในงานขายและบริการของลูกค้า

 

 

ดร.นภัสนันท์ กล่าวว่า “ในปี 2563 นี้ แม้ปิดไตรมาส 1 ที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกหรือการเผชิญกับโรคระบาด ซึ่งทำให้หลายภาคส่วนเกิดความกังวลกับผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่สำหรับบริษัทฯตลาดหลัก 90% ยังคงเป็นประกันวินาศภัย เช่น ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยบ้าน ประกันกลุ่มองค์กร ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้ในทุกสภาวการณ์"

 

 

สำหรับภาวะโรคระบาดโคโรน่า หรือ COVID-19 ที่ทำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันบริษัทฯได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยไวรัสโคโรนา ร่วมกับพันธมิตรบริษัทประกัน เพื่อช่วยเหลือให้ลูกค่าได้รับความคุ้มครองในภาวะความเสี่ยงแบบนี้ได้ทันท่วงทีด้วยการซื้อผ่าน TQM Insurance Gifts ที่ TQM พัฒนาขึ้นเป็นเจ้าแรก ซึ่งเป็นช่องทางขายดิจิทัลที่ง่ายและสะดวก สร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคและสนับสนุนงานขายที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

 

 

 

 

ทั้งนี้ TQM ได้นำขีดความสามารถจากโครงการทรานส์ฟอร์เมชั่นต่างๆ ของปีก่อนมาปรับใช้เชิงรุก ภายใต้ การขับเคลื่อนด้วย 6 กลยุทธ์หลักคือ

 

1. การเติบโตจากทุกช่องทางในทุก Platform

 

2. การ Co-Parther Ship

 

3. การควบรวมและการซื้อกิจการ (Mergers and Acqistions. M&A)

 

4.การขยายตลาดไปต่างประเทศ

 

5.การเพิ่มยอดขายด้วย Cross-selling

 

6.ใช้ดิจิทัลเป็นปัจจัยสนับสนุนและขับเคลื่อนองค์กร

 

 

 

นอกจากนี้ยังขยายตลาดไปสู่ประเทศที่มีกำลังซื้อและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยได้เริ่มมีการสำรวจตลาดและความเป็นไปได้ในประเทศกลุ่มประเทศCLMV ไปบ้างแล้ว โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ ขณะเดียวกันบริษัทยังเจรจาซื้อธุรกิจโบรกเกอร์ประกัน ซึ่งมีโอกาสทั้งการเข้าไปลงทุนทั้งหมดและการซื้อหุ้นบางส่วน โดยบริษัทมีดีลซื้อกิจการธุรกิจโบรกเกอร์ 1 ราย เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าที่ต่างไปจากเดิม คาดว่าจะปิดดีลการได้ในปีนี้ โดยใช้เงินลงทุนจาก IPO ที่มีกว่า 2,000 ล้านบาท

 

 

 

 

 

“สำหรับปีนี้ประกันภัยและประกันชีวิตอาจจะไม่เติบโตมากนัก เพราะค่ายรถยนต์เองก็หดตัว ทำให้ประกันเติบโตไม่สูงนัก แต่บริษัทก็สามารถทำผลประกอบการได้เติบโตกว่าอุตสาหกรรม จากการขยายด้านดิจิดัลและการเข้ารวบควมกิจการ และปัจจุบันบริษัทยังมีมาร์เก็ตแชร์น้อยมาก เทียบกับมูลค่าตลาดประกันวินาศภัย ที่ 9 แสนล้านบาท ทำให้เชื่อว่ายอดขาย5 ปีจะเป็นไปตามเป้า ที่ 5 หมื่นล้านบาท“ ดร.นภัสนันท์ กล่าว

 

 

 

สำหรับภาพรวมผลประกอบการปี 2562 บริษัท บริษัทมีรายได้รวมที่ 2,783.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% โดยเป็นรายได้จากการให้บริการเป็นจำนวน 2,7115.5 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากเงินลงทุนราว 72.3 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 507.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103 ล้านบาท

 

 

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 มีมติจ่ายเงินปันผล 1.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ (XD) วันที่ 6มีนาคม 2563 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 1พฤษภาคม 2563

 

 

 

 


*** TQM แจงปี 62 ทั้งกลุ่ม กำไรโต ตามยอดขายและรายได้พุ่ง***

 

นางสาวสมพร อําไพสุทธิพงษ์ ประธานบริหารสายงานบัญชีการเงิน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) TQMและบริษัทย่อย ("กลุ่มบริษัท")เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอชี้แจงผลการดําเนินงานสําหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562

 

 

ซึ่งได้รับการสอบทานจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแล้ว ดังมีสาระสําคัญดังต่อไปนี้ ภาพรวมธุรกิจ จากสถิติของสํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ) เบี้ยประกัน วินาศภัยรวมสําหรับเดือน มกราคม - กันยายน 2562 จํานวน 177,498 ล้านบาท หรือเติบโตเท่ากับ 4.7% แบ่งเป็น เบี้ยประกันวินาศภัยประเภทรถ 105,196 ล้านบาท , เบี้ยประกันวินาศภัยประเภทเบ็ดเตล็ด 60,415 ล้านบาท , เบี้ยประกันวินาศภัยประเภทอัคคีภัย 7,752 ล้านบาท , เบี้ยประกันวินาศภัยประเภททะเลและขนส่ง 4,135 ล้านบาทและเบี้ยประกันชีวิตปีแรก ปีต่อไป และจ่ายครั้งเดียว สําหรับเดือน มกราคม - กันยายน 2562 จํานวน 443,764 บาท จากกรมธรรม์ปีแรกจํานวน 75,912 ล้านบาท กรมธรรม์ปีต่อจํานวน 313,486 ล้านบาท และจากสัญญาจ่ายครั้งเดียวจํานวน 54,366 ล้านบาท

 

 

 

สําหรับรายได้กลุ่มบริษัทฯ ในช่วงปี 2562 บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการขายโดยการเข้าซื้อกิจการ TJN การขยายตลาดธุรกิจประกันชีวิต รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเข้าส่งเสริมการประกอบธุรกิจ จึงสนับสนุน ให้ผลประกอบการของบริษัทบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจประกันภัยจากสถิติ ของคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ) ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

 

 

 

 

 

นางสาวสมพรกล่าวว่า รายได้ค่าบริการ 2,711.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนจํานวน 2,501.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 210.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.4 สาเหตุจากยอดขายและบริการที่เพิ่มมากขึ้น - ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการ 1,413.9 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 50.8 ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับปีก่อน 1,2874 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 51.0 เพิ่มขึ้นจํานวน 126.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.8 เพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น - จากเหตุผลข้างต้นทําให้กําไรขั้นต้นเท่ากับ 1,297.7 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 47.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 1,213.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 48.5 เพิ่มขึ้นจํานวน 83.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.9 สาเหตุจากการเพิ่มช่องทางการจําหน่ายและการเพิ่มขึ้นของจํานวนพนักงานขาย

 

 

ค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 745.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน 736.4 ล้าน บาท คิดเป็นร้อยละ 29.2 เพิ่มขึ้นจํานวน 9.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.3 สาเหตุหลักจากการบันทึก เพิ่มเติมตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 ซึ่งให้บันทึกสํารองผลประโยชน์พนักงานจาก 300 วัน เป็น 400 วันทั้งจํานวนในคราวเดียว ทําให้กลุ่มบริษัทฯต้องตั้งสํารองผลประโยชน์พนักงานนี้เพิ่ม จํานวน 13.2 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบอัตราร้อยละปีต่อปีจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอัตราส่วนร้อยละ ของค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมยังคงลดลง สืบเนื่องจากการดําเนินนโยบายเพิ่ม ประสิทธิภาพในการทํางานและการควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี

 

 

 

 

กลุ่มบริษัทฯมีกําไรสุทธิรวมจากผลการดําเนินงานประจําปี 2562 เท่ากับ 507.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.2 เปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีกําไรสุทธิเท่ากับ 404.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.0 เพิ่มขึ้น จากของปีก่อน 103.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.5 จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและรายได้อื่นจาก ดอกเบี้ยรับและผลตอบแทนจากเงินลงทุน พร้อมทั้งการบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมี ประสิทธิภาพ

 

 

กําไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.69 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับปีก่อนเท่ากับ 1.77 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.08 บาทต่อหุ้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯได้เพิ่มทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อเดือน ธันวาคม 2561 โดยคํานวณจํานวนหุ้นถัวเฉลี่ยในปี 2561 ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการ วันที่ 1 มกราคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็นเงินสดจํานวนหุ้นละ 1.10 บาท จํานวน 300 ล้านหุ้น รวมเป็น เงินสดปันผลจ่ายทั้งสิ้นจํานวน 330 ล้านบาท หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 10 โดยจะนําเสนอ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป

 

 

TQM

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด

IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

มัลติมีเดีย

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้