Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : VGI กำไรพุ่งพรวด 30% สูงกว่าโบรกฯคาด

3,016

HotNews : VGI กำไรพุ่งพรวด 30% สูงกว่าโบรกฯคาด

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (13 กุมภาพันธ์ 2563 ) VGI ประกาศไตรมาส 3 ประจำปี 2562/63 รายได้ทำสถิติใหม่เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันจากไตรมาสก่อนโดยมีรายได้พุ่งถึง 1,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% ส่งให้กำไรสุทธิทะยานขึ้นแตะ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นของธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน รวมถึงผลการดำเนินงานของ VGI Digital Lab หน่วยธุรกิจใหม่ที่ให้บริการงานด้านดิจิทัลและการตลาดออนไลน์ มีการตอบรับที่ดีมากในตลาดจึงสร้างการรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เซียนหุ้น มองกำไร VGI สูงกว่าคาด พร้อมส่องกล้องหุ้น VGI นำโดยบล.มย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท/หุ้น ,บล.ฟิลลิป แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท/หุ้น , บล.ดีบีเอสฯ แนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 9.31 บาท/หุ้น ,บล.ทรีนีตี้ แนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 9 บาท/หุ้น,บล.ทิสโก้ แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท/หุ้น ,บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท/หุ้น

 

 

 

นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในไตรมาสนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน มีพัฒนาการเติบโตขึ้นในทุกประเภทเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งทำรายได้รวม 1,212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% โดยได้รับประโยชน์จากการควบรวมงบการเงินของธุรกิจการให้บริการโฆษณาในต่างประเทศในกลุ่มของสื่อกลางแจ้งรวมถึงการพัฒนาการที่ดีอย่างมีนัยสำคัญของ สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนที่เพิ่มขึ้น 11% คิดเป็น 654 ล้านบาท และ จากสื่อโฆษณาในอาคาร สำนักงาน รวมถึงสื่ออื่นๆ เพิ่มขึ้น 12% คิดเป็น 108 ล้านบาท โดยรวมนั้นมาจากความต้องการใช้สื่อที่มากขึ้นในช่วงไฮซีซั่น (high season) หรือช่วงตุลาคม - ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งสื่อแบบ Static และ Digital จึงส่งผลให้เกิดอัตราการใช้งานเพิ่มสูงมากขึ้น

 

 

ในขณะที่รายได้จากธุรกิจสื่อกลางแจ้งเพิ่มถึง 52% คิดเป็น 450 ล้านบาท นับว่าสูงขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลมาจากการเติบโตของสื่อประเภทสตรีทเฟอร์นิเจอร์ และการรับรู้รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาในต่างประเทศที่ผ่านการควบรวมงบการเงินของ PBSB โดย MACO ซึ่งตอบรับกับทิศทางการดำเนินงานในอนาคตของ MACO ที่พร้อมมุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศอย่างเต็มตัว

 


สำหรับธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มีรายได้ 654 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 28% ซึ่งการเติบโตมาจากการรับรู้รายได้ของ VGI Digital Lab เอเจนซี่สื่อออนไลน์ครบวงจรที่มุ่งเน้นการสร้างแคมเปญการตลาดดิจิทัลออนไลน์ โดยใช้แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล (DMP) ของกลุ่ม ซึ่งบริการดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมาก และมีผลตอบรับที่ดีทั้งจากแบรนด์ชั้นนำในประเทศและระดับโลก

 

 

 


ด้านทิศทางดำเนินงานและพัฒนาการสำคัญของกลุ่มบริษัท


ธุรกิจสื่อโฆษณา เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น MACO ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทร่วมของ VGI มีมติอนุมัติให้เข้าซื้อกิจการใน บริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี (Hello LED) และเสนอขายหุ้นใหม่ในรูปแบบ Private Placement ให้กับบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด มหาชน (PlanB) รวมถึงอนุมัติการเข้าทำสัญญาบริหารจัดการ สื่อโฆษณาของ MACO กับ PlanB โดยธุรกรรมเหล่านี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 30 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจบริการชำระเงิน มีพัฒนาการที่เติบโตของผู้ใช้อย่างแข็งแกร่งจากเดือนเมษายน 2562 ปัจจุบัน Rabbit card มีจำนวนถึง 12.6 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 12.9 % และ Rabbit LinePay มีผู้ใช้บริการมากกว่า 7 ล้านราย เพิ่มขึ้น 22.2 % ในส่วนของ ธุรกิจโลจิสติกส์ VGI และ Kerry ยังผสานการทำงานร่วมกันโดยการพัฒนาโซลูชั่นส์ใหม่ของการโฆษณา โดยในเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า "Parcel Sticker" คือการแนบโฆษณาของลูกค้าลงในกล่องพัสดุของ Kerry

 

 

ซึ่งปัจจุบันได้ส่งมอบไปแล้วกว่า 500,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังให้บริการโฆษณาบนรถบรรทุก 400 คันของ Kerry ที่เรียกว่า Truck Wrap ที่วิ่งรอบกรุงเทพฯและปริมณฑล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าวเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 387.5 ล้านบาท ในอัตรา 0.045 ต่อหุ้น ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อที่ปิดสมุดทะเบียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2563 (วันที่บันทึก) จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 6 มีนาคม 2563

 

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ"VGI ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท/หุ้น อิง SOTP (เทียบเท่า FY21E PER ที่ 63.4x) VGI รายงานกำไรสุทธิ 3QFY20 (ต.ค. - ธ.ค.) ที่ 401 ล้านบาท (+30% YoY, +13% QoQ) สูงสุดเป็นประวัติการณ์และสูงกว่าตลาดคาด 7% หนุนโดย 1) รายได้ที่ขยายตัวต่อเนื่อง +25% YoY, +12% QoQ, 2) gross profit margin ฟื้นตัว QoQ อยู่ที่ 49.9% จากสัดส่วนรายได้ของ Transit media ซึ่งมี margin ดีปรับตัวเพิ่มขึ้น และบริหาร cost ของ online business ได้ดีขึ้น และ 3) equity income ปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY, QoQ จาก high season ของ Kerry และ Rabbit Line Pay ขาดทุนน้อยลง ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 9MFY20 มีสัดส่วนอยู่ที่ 75% ของประมาณการ FY20E ดังนั้นเราคงประมาณกำไรสุทธิปี FY20E-21E ที่ 1,408 และ 1,698 ล้านบาท ขยายตัว +28% YoY และ +21% YoY ตามลำดับ

 

 

 



ราคาหุ้นปรับตัวลง และ underperform SET -5% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่าน จากความกังวลเรื่องการฟ้องร้องนายกสมาคมฯ FAT ที่เอื้อประโยชน์ให้ PLANB อีกทั้ง มีป้ายบางส่วนของ MACO, Hello Bangkok LED ที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งทางบริษัทฯได้อยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาต ซึ่งเราประเมินว่าผลลัพธ์ของทั้ง 2 กรณีจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้เริ่มเข้าไป "ซื้อ" สะสม จากกำไรสำหรับ 3QFY20 ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ สำหรับข่าวล่าสุดเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่าง ผู้ถือหุ้น VGI กับ Midas Global Media ที่อนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดให้ VGI ชำระค่าเสียหายให้แก่ Midas ที่ 579 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีนับตั้งแต่วันเสนอข้อพิพาท (25 มิ.ย. 2018) นั้น เราได้สอบถามไปยัง VGI ได้รับคำยืนยันว่า บริษัทฯจะยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลแพ่งภายใน 90 วัน และคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาอีกนาน ซึ่งหากทาง VGI ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อ Midas เราประเมินว่าจะกระทบต่อราคาเป้าหมายเราประมาณ 0.082 บาทต่อหุ้น

 

 

กำไรสุทธิ 3QFY20 ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ VGI รายงานกำไรสุทธิ 3QFY20 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 401 ล้านบาท (+29.5% YoY, +12.8% QoQ) สูงกว่าตลาดคาด 7% มากกว่าเราคาด 6% หนุนโดย 1) รายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น +25% YoY, +12% QoQ จากรายได้ที่เติบโตในสื่อ OOH (transit, outdoor, office & other) ขยายตัว +24% YoY, +16% QoQ โดยเฉพาะรายได้จาก Transit media (+11% YoY, +20% QoQ) จาก Utilization rate ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น, เริ่มรับรู้รายได้จากสื่อในรถไฟฟ้าที่เข้ามาใหม่จำนวน 20 ขบวน, รายได้จาก Outdoor media ปรับตัวเพิ่มขึ้น +52% YoY, +7% QoQ จากการควบรวม PBSB ของ MACO และรายได้จาก Street furniture ที่ขยายตัว, Office & other media +12% YoY, +30% QoQสำหรับรายได้จากธุรกิจ Digital services (+28% YoY, +5% QoQ) จากรายได้ของ VGI Digital Lab ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และ 2) Gross profit margin ฟื้นตัว QoQ อยู่ที่ 49.9% จากสัดส่วนรายได้ของ Transit media ซึ่งมี margin ดีปรับตัวเพิ่มขึ้น และบริหาร Cost ของ Online business ได้ดีขึ้น และ 3) Equity income ปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY, QoQ จาก High season ของ Kerry และ Rabbit Line Pay ขาดทุนน้อยลง ทั้งนี้ VGI ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.045 บาทต่อหุ้น และขึ้น XD วันที่ 25 ก.พ. 2020

 



คาดคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการกรณี Midas ไม่กระทบต่อผลประกอบการในระยะอันใกล้ VGI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดให้ VGI ชำระค่าเสียหายแก่ Midas Global Media จำนวน 579 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับตั้งแต่วันที่เสนอข้อพิพาท (25 มิ.ย. 2018) แต่ VGI จะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเพิกถอนคำชี้ขาด เนื่องจากคำชี้ขาดยังไม่เป็นที่สิ้นสุด จึงไม่มีผลกระทบต่อผลประกอบการ (ที่มา: SET) เรามีมุมมองเป็นกลางกับประเด็นข้างต้น เราได้สอบถามไปยัง VGI ได้รับคำยืนยันว่า บริษัทฯจะยื่นเรื่องต่อศาลแพ่งภายใน 90 วัน และคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน ซึ่งเรามองว่าจะไม่กระทบต่อผลประกอบการของ VGI ในระยะอันใกล้ ซึ่งหากทาง VGI ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อ Midas เราประเมินว่าจะกระทบอยู่ที่ 0.082 บาทต่อหุ้น (อิงค่าเสียหายที่ 579 ล้านบาท และดอกเบี้ย 3 ปี)

 

 

 

 

 

คงประมาณการกำไรสุทธิ FY 2020E กำไรสุทธิ 9M20 มีสัดส่วนอยู่ที่ 75% ของประมาณการ FY20E ดังนั้น เราคงประมาณกำไรสุทธิปี FY20E - 21E ที่ 1,408 และ 1,698 ล้านบาท ขยายตัว 28% YoY และ 21% YoY ตามลำดับ จากสมมติฐาน 1) เม็ดเงินโฆษณากลุ่ม OOH ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ,2) GPM อยู่ที่ 53.5% และ 52.9% ตามลำดับปรับตัวลงเล็กน้อยจากการควบรวม Trans.Ad และ PBSB ของ MACO และ 3) เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Kerry เต็มปีตั้งแต่ปี FY20E เราคาดว่าจะเห็น Synergy ที่เพิ่มขึ้นในปี FY21E ทั้งนี้ เราประเมินส่วนแบ่งกำไรจาก Kerry อยู่ที่ 22.5% ของกำไร VGI ปี FY20E

 

 


คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย FY21E ที่ 12.50 บาท อิง SOTP (เทียบเท่า FY21E PER ที่ 63.4x) แบ่งเป็นมูลค่าจากธุรกิจ VGI 9.60 บาท (อิง DCF WACC 7% TG 3%), มูลค่าจากการลงทุนใน PLANB 0.90 บาท (อิง ราคาเป้าหมาย PLANB 11.00 บาท) และมูลค่าเงินลงทุนใน KERRY 2.00 บาท (อิง PER35x) ปัจจุบัน VGI เทรดอยู่ที่ FY21E PER 43.9x (ต่ำกว่า -1SD Avg. PER 62.1x) เราเชื่อว่า VGI ควรเทรดที่ premium กว่า peer จากโมเมนตัมของผลประกอบการที่เติบโตแข็งแกร่ง ในปี FY19 -22E EPS CAGR 23%

 


บล. ทิสโก้ แนะนำ "ซื้อ" VGI ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท/หุ้นจาก 1) กำไรสุทธิ 3Q19/20 เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุด มากกว่าที่เราและตลาดคาด 2)ภาพรวมสื่อโฆษณานอกบ้านยังมีโอกาสเติบโตจากสัดส่วนที่ยังต่ำเทียบกับอุตสาหกรรมโฆษณารวม 3) แนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาวจากการขยายแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านร่วมกับ PLANB, การเข้าร่วมทุนกับธุรกิจโลจิสติกส์ (Kerry TH) เพิ่มโอกาสทางธุรกิจจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และใช้ฐานข้อมูลที่บริษัทมีอยู่เชื่อมโยงแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกันให้บริการ O2O Solutions 4) คาดกำไรสุทธิเฉลี่ย 3 ปีนี้เติบโต 17% (CAGR3y) ราคาเป้าหมายปี 2020/21F อยู่ที่ 10.70 บาท

 



VGI รายงานกำไรสุทธิ 3Q19/20 ที่ 401 ล้านบาท (+30% YoY, +13% QoQ) มากกว่าที่เราและตลาดคาด 8% จากมาร์จิ้นที่ดีกว่าที่คาดไว้ โดยหากไม่รวมการรับเงินปันผลจาก PLANB ใน 2Q19/20 จำนวน 66 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น +39% QoQ โดยรายได้ทุกกลุ่มเพิ่มขึ้นจาก 1) รายได้ในส่วนของ Transit เพิ่มขึ้น จากการเริ่มรับรู้รายได้สื่อจากการขยายเส้นทางของ BTS สายสีเขียวเหนือและสายสีเขียวใต้ 2) รายได้สื่อนอกบ้านเพิ่มขึ้นจากการควบรวมของบริษัท PBSB ที่ประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MACO และสื่อนอกบ้านในส่วน street furniture เพิ่มจากช่วง high season 3) รายได้จากสื่ออาคารและอื่นๆ เพิ่มขึ้นในส่วน office building เป็นหลัก 4) รายได้จากสื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้นในกลุ่มแรบบิทและการขายสื่อโฆษณา VGI Digital Lab โฆษณาผ่านสื่อ online

 

 

 

 



อยู่ระหว่างปรับประมาณการใหม่ หลังบริษัทปรับโครงสร้างการถือหุ้น MACO


จากประมาณการเดิมกำไรสุทธิ 9M19/20 คิดเป็น 79% ของกำไรทั้งปี คาดกำไรสุทธิเติบโต 17% (CAGR 3y) อย่างไรก็ตาม เราอยู่ระหว่างปรับประมาณการใหม่หลังบริษัทได้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น MACO หลังจากที่ MACO ได้ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ PLANB ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของ VGI ใน MACO ลดลงจาก 33.17% เป็น 26.55% ทำให้ MACO เปลี่ยนสถานะจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมของ VGI ซึ่งจะทำให้บริษัทบันทึกเป็นกำไรหรือขาดทุนจากบริษัทร่วมทุนแทนการควบรวมงบการเงินของ MACO ตั้งแต่ 4Q19/20 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ในปี 2019/20 จาก 6,000-6,200 ล้านบาท เป็น 3,800-4,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตของรายได้ประมาณ 15-20% และอัตรากำไรขั้นต้นจาก 20-25% เป็น 30-35%

 



มีมุมมองในเชิงบวกต่อ VGI จากการปรับโครงสร้างธุรกิจเพิ่มแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืนจากการขยายเส้นทางของ BTS รวมถึงการร่วมทุนกับ Kerry TH ที่จะสร้างผลประกอบการเพิ่มขึ้น เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" จากราคาปัจจุบันมี upside 19% ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 10.70 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 7%, Terminal growth 2%) โดยฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งคาด Net D/E ปี 2019/20F อยู่ที่ 0.4X บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.045 บาท XD 25/2/20 ความเสี่ยง : เศรษฐกิจ, การขยายเส้นทาง BTS ไม่ตามคาด

 

 

 

 

 

 


บล.ทรีนีตี้ แนะนำ "ถือ" VGI ราคาเป้าหมาย 9 บาท/หุ้น 3QFY20 เป็นไตรมาสที่ VGI มีกำไรสุทธิที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 401 ล้านบาท (+29% YoY, +13% QoQ) โดยมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในหลายด้าน ดังนี้


1. การเปลี่ยนสื่อโฆษณารถไฟฟ้า BTS มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 654 ล้านบาท (+11% YoY, +20% QoQ) จากการขยายสื่อโฆษณาเป็นระบบดิจิตอล
2. เริ่มรับรู้รายได้จากบริษัท VGI Digital Lab บริการการตลาดออนไลน์ ในขณะที่ธุรกิจด้านดิจิตอลยังคงเติบโตได้ดีเป็น 654 ล้านบาท (+28% YoY, +6% QoQ)
3. การควบรวมงบการเงินของบริษัท PBSB ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 2QFY20 ผ่าน MACO ทำให้รายได้เติบโตเป็น 450 ล้านบาท (+52% YoY, +12% QoQ)
4. การเติบโตในทุกหน่วยธุรกิจ ทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตเป็น 1.87 พันล้านบาท (+25% YoY, +12% QoQ) ตามที่เราคาดไว้
5. บริษัท PBSB และสื่อบน BTS เริ่มทำรายได้ได้ดีขึ้นและมีต้นทุนที่ค่อนข้างคงที่ ทำให้บริษัทมี GPM ที่ดีขึ้นเป็น 49.9% จาก 47.5% ในไตรมาสก่อน
6. ธุรกิจ Rabbit Line Pay เริ่มขาดทุนน้อยลง ในขณะที่ Kerry Express เข้าสู่ช่วง High season ทำให้มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 33 ล้านบาท


ทั้งนี้ กำไรปกติของบริษัทในงวด 9MFY20 คิดเป็น 72% บนประมาณการของเรา

มีข้อพิพาทมูลค่าราว 580 ล้านบาท
บริษัทไมดาส โกลบอล มีเดีย ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการในกรณีที่ VGI ปฏิบัติผิดสัญญา โดยคณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดด้วยคะแนน 2 ต่อ 1 เสียง ว่า VGI ปฏิบัติผิดสัญญาจริง โดยให้บริษัทชำระค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 579 ล้านบาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ทั้งนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

คงคำแนะนำ "ถือ" ที่ราคาเป้าหมาย 9 บาท
ยังคงเร็วเกินไปที่จะเชื่อว่า VGI จะมีผลการดำเนินงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากเรายังคงมุมมองลบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโฆษณาของประเทศไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัว และยังคงเร็วเกินไปที่จะตัดสินข้อพิพาทของ VGI กับไมดาสเช่นกัน เราจึงยังไม่ให้น้ำหนักในข้อพิพาทดังกล่าวจนกว่าข้อพิพาทจะสิ้นสุด ยังคงแนะนำเพียง "ถือ" ที่ราคาเป้าหมายเดิม 9 บาท กำไรที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทยังถือว่าอยู่ในการคาดการณ์กำไรทั้งปีของเรา ดังนั้นเราจึงไม่มีการปรับประมาณการเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ความเสี่ยงธุรกิจ Rabbit Line Pay ไม่ประสบความสำเร็จ, เม็ดเงินโฆษณาเติบโตน้อยกว่าคาด

 

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ "ถือ" VGI ราคาเป้าหมาย 9.31 บาท/หุ้น กำไร 3Q62-63 ดีกว่าคาดถึง 13% เป็น 401 ล้านบาท (+29% y-o-y/+13% q-o-q) สูงสุดทำสถิติใหม่ แรงหนุนนำมาจาก 1) รายได้จากการโฆษณาทำได้สูงกว่าคาด โดยเฉพาะรายได้จากสื่อโฆษณานอกบ้านและดิจิทัล 2) กำไรตามส่วนได้เสียจาก Kerry Express, PLANB และ Rabbit Line Play มีผลการดำเนินงานดีขึ้น และรายได้อื่นๆ และ 3) ส่วนหักผู้ถือหุ้นส่วนน้อยพลิกกลับเป็นบวก



ปรับประมาณการดีขึ้น กำไรรอบ 9M62-63 เป็น 1.0 พันล้านบาท +28% y-o-y และมากเป็นสัดส่วน 84% เทียบกับประมาณการกำไรทั้งปี 62-63 จึงได้มีการปรับประมาณการปี 62-63 และ 63-64 ดีขึ้นในอัตรา +6%/+5% ตามลำดับ ด้วยสมมุติฐานที่กล่าวถึงข้างต้นให้ดีขึ้น และคิดเป็นอัตราการเติบโต +22%/+32% เทียบ y-o-y ตามลำดับ ถือว่ามีการเติบโตสูง พร้อมกันนี้ได้ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.045 บาท คิดเป็น yield ที่ไม่สูงนักเป็น 0.5% XD 25 ก.พ.63 และจ่ายปันผล 6 มี.ค.63 สื่อโฆษณานอกบ้านกลับมาเติบโตดี รายละเอียดด้านการเติบโตรายได้โฆษณา 3Q62-63 คือ เพิ่มขึ้น 25% y-o-y เป็น 1.9 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นั่นคือ สื่อโฆษณานอกบ้านเพิ่ม 24% และบริการด้านดิจิทัลเพิ่ม 28%

 

 

ซึ่งหนุนนำจาก Digital Lab มีสัดส่วนรายได้เป็น 65%:35% สำหรับสื่อโฆษณานอกบ้านในส่วน BTS และอาคาร สำนักงาน และอื่นๆกลับมาฟื้นตัวดี หลังปรับเปลี่ยนจอจาก static เป็นดิจิทัลมากขึ้น เช่นเดียวกับสื่อกลางแจ้งที่โตจากการทำงบรวมกับ Puncake Berlian Sdn.Bhd.(PBSB) ยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ MACO แต่แพ้คดีไมดาส บริษัทจะอุทธรณ์ต่อไป อนุญาโตตุลาการได้ตัดสินคดีข้อพิพาทระหว่าง VGI กับบริษัทไมดาส โกลบอล มีเดีย เรื่องผิดสัญญาโฆษณาให้ VGI ชดใช้ความเสียหายถึง 579 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยซึ่งเราคำนวณได้ราว 65 ล้านบาท รวมเป็นเงินราว 644 ล้านบาท ถือว่ามาก 50% หากเทียบกับกำไรสุทธิต่อปีที่ราว 1.3 พันล้านบาท แต่หากคิดความเสียหายต่อหุ้นอยู่ที่ราว 0.075 บาท กลับถือว่าน้อยเทียบกับราคาหุ้นหรือ 0.8% อย่างไรก็ตามทาง VGI จะอุทธรณ์ทางศาลแพ่ง คาดว่าจะใช้เวลาเป็นปีๆ และทาง VGI ยังมั่นใจว่าจะชนะคดี

 

 

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจำกัด ทางบริษัทคาดว่าจะเล็กน้อย เพราะยังมีสัญญาโฆษณาระยะยาวอยู่บางส่วน และคาดว่าในที่สุดก็จะผ่านพ้นไป เหมือนกับกรณีโรคระบาดครั้งก่อนๆที่ผ่านมา คงคำแนะนำ ถือ ปรับราคาพื้นฐานใหม่ขึ้นเป็น 9.31 บาท หลังปรับประมาณการ ราคาปิดมีส่วนเพิ่มไม่มากนักราว 3% คาดว่าระยะสั้นตลาดอาจจะตอบรับในเชิงลบเกี่ยวกับการแพ้คดี และอาจยังไม่วางใจผลกระทบทางลบต่ออุตสาหกรรมโฆษณา คือ โรคระบาดไวรัส งบประมาณปี 63 ล่าช้า และปัญหาภัยแล้งเป็นต้น แต่ถือว่าบริษัทมีความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินดี อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 3Q62-63 เป็นเพียง 0.05 เท่า ราคาหุ้นถือว่าไม่ถูก P/E ปี 63-64 สูงเป็น 44.2 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 38 เท่า

 

 

  

บล.ฟิลลิป แนะนำ "ซื้อ" VGI ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท/หุ้น 3Q63 กำไร +29.5% ที่ 401 ลบ. ดีกว่าคาดจากการบวกกลับขาดทุนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย: รายได้ +25% ที่ 1,867 ลบ. โดย 1) สื่อนอกบ้าน +23.7% จากสื่อกลางแจ้ง +52.1% เพราะรวมงบจากต่างประเทศ บน BTS +11.2% จากเปลี่ยนสื่อเป็นดิจิทัลและการใช้ป้ายนิ่งมากขึ้น และสื่อในอาคาร +12.4% และ 2) บริการสื่อดิจิทัล +27.6% รับรู้รายได้ VGI Digital Lab ที่ให้บริการออนไลน์เอเจนซี่ ต้นทุนและ SG&A +33.5% และ +36.3%

 

 

จากรวมงบและธุรกิจใหม่มีมาร์จิ้นต่ำกว่าธุรกิจเดิม ส่วนแบ่งกำไร +83.7% จากเคอรี่ฯกำไรดีขึ้นและแรบบิทไลน์เพย์ขาดทุนลดลง กำไรก่อนผู้ถือหุ้นส่วนน้อยใกล้คาด แต่มีบวกลับขาดทุนจากผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 12 ลบ. จากคาดว่าหักเพราะมีกำไรที่ 21 ลบ. กำไรสุทธิจึงดีกว่าคาด มีประเด็นใหม่ถูกฟ้องแพ้ในชั้นอนุญาโตตุลาการ: VGI ได้แจ้งข้อพิพาทกับไมดาส ซึ่งเคยเป็นบริษัทร่วมให้ชำระค่าเสียหาย 1,004 ลบ. จากการผิดสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น โดยอนุญาโตฯให้ VGI แพ้และชำระค่าเสียหาย ซึ่งจากการสอบถาม เป็นการตัดสินแค่เพียงชั้นต้น โดยขั้นต่อไปจะนำไปสู่ศาลแพ่งและมีโอกาสจะอุทธรณ์ต่อได้ ซึ่งบริษัทยังมีความมั่นใจว่ามีโอกาสชนะในชั้นศาล อีกทั้งยังใช้เวลาอีกหลายปี ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 10.30 บาท: ยังคาดการณ์กำไรในปี 2563 ที่ 1,323 ลบ. ไม่กระทบจากการถูกฟ้องร้อง ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" 

 

VGI

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

TERA เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 122.86 %

TERA เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 122.86 %

คุมเชิง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองเกมหุ้นภาพรวม น่าจะเป็นรูปแบบการเทรด การเล่นคุมเชิง เน้นเล่นรอบ เล่นสั้น บนปัจจัยบวกใหม่...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้