HotNews : SMART คืนชีพ กำไรโผล่ในรอบ 4 ปี 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (4 ธันวาคม 2562) SMART ส่งซิกรายได้ปี 62 โตทะลุเป้า 10% พร้อมพลิกมีกำไรในรอบ 4 ปี หลัง ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าไปยังโมเดิร์นเทรด พร้อม ตั้งธงปี 63 รายได้โต 10% ตามโครงการในพื้นที่ EEC ขยายตัวต่อเนื่อง

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจรายได้ปี 2562 จะเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะทำได้ 400 ล้านบาท หรือโต 10% พร้อมพลิกกลับมามีกำไรสุทธิในรอบ4ปี(2558-2561) เนื่องจาก บริษัทฯได้ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น ด้วยการขยายไปยังโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ไทยวัสดุ และ Global House ซึ่งปัจจุบันสินค้าของบริษัทฯมีวางจำหน่ายในช่องทางดังกล่าวทั้งสิ้น 120 สาขา ประกอบกับปัจจุบันกระแสความต้องการใช้อิฐมวลเบาเริ่มมีความนิยมด้วยเช่นกัน

สำหรับปี 2563 บริษัทฯมองภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างปีหน้าจะทรงตัวจากปีนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังสามารถสร้างการเติบโตได้อยู่ หลังบริษัทฯจำหน่ายสินค้าอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีโครงการทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทฯยังเข้าถึงลูกค้าด้วยการให้คำแนะนำสินค้าเพื่อให้ลูกค้ามีความเข้าใจมากขึ้น โดยบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2563 เติบโต 10% จากปีนี้

สำหรับแผนการขยายกำลังการผลิตมองว่าต้องดูภาพรวมความต้องการสินค้าในตลาดเป็นอันดับแรก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตอิฐมวลเบาอยู่ที่ 70% ของจำนวน 4.5 ล้านก้อนต่อปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังมีความสามารถรองรับการเพิ่มไลน์ผลิตได้อีก หากมีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น โดยยังมีที่ดินเปล่าภายในโรงงานอีก 20 ไร่

"เรามั่นใจว่าจะยังคงเติบโตเพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC ทำให้เกิดการลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน โครงการเมกะโปรเจคขนาดใหญ่ของภาครัฐ ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และโครงการก่อสร้างภาคเอกชน ก็ทยอยลงทุนในโครงการใหม่ และยังมีปัจจัยจากความเชื่อมั่นของกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญ ในการใช้วัสดุอิฐมวลเบาที่ได้มาตรฐาน และประหยัดพลังงาน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณการใช้งานและความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบา ปรับตัวดีขึ้น และราคาจำหน่ายอิฐมวลเบาปรับตัวเพิ่มขึ้น " นายรังสี กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมุ่งเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ อิฐมวลเบาประเภทตกแต่ง มากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline ) กระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโต และสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีและมีคำสั่งซื้อจากโครงการในภาคตะวันออก กลุ่มลูกค้าสถาปนิก และผู้รับเหมารายย่อยมากขึ้น โดยสัดส่วนรายได้งานภาครัฐอยู่ที่ 30 % ภาคเอกชน อยู่ที่ 70%

ส่งผลให้บริษัทฯเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าดังกล่าวเป็น 23,000 ก้อนต่อเดือน จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 10,000 ก้อนต่อเดือน และมีอัตราการใช้เครื่องในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 60% โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าปีหน้าจะมีสัดส่วนรายได้จากอิฐมวลเบาประเภทตกแต่งเพิ่มเป็น 3% จากปัจจุบัน 2%

สำหรับ การขยายตลาดกลุ่มประเทศกลุ่ม CLMV บริษัทมีการส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยมีกระแสตอบรับที่ดีและมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าต่อเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศดังกล่าว อีกทั้งบริษัทรักษาสัดส่วนรายได้จากยอดขายต่างประเทศในปี 2562 อยู่ที่ 2% ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาหาพันธมิตรเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง

SMART