วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 พบกับแม่มดน้อยได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์..... เพี้ยงแม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นตลาดหุ้นสหรัฐนิวไฮ  เขาไฮ แล้ว ตลาดบ้านเรา หุ้นไทยล่ะ ยังคงพายเรือในอ่าง 1,600 จุดบวกลบ ชนต้าน 1,620 จุด ก็ย่อตัว  ใช้หุ้นหน้าเดิม สลับสับเปลี่ยน กันดันSET ประคองเนื้อ ประคองตัวกันสุดฤทธิ์   แม่มดน้อย เห็นหลายบจ. ยอมลดเป้าโตในปีหน้า ใครโตต่อเนื่อง ก็ถือว่า ไร้เทียมทาน

          ปีหนู หากกำไรบจ.รวมๆถ้าโตต่อเนื่อง จากปีก่อน อาจน้อยลง ก็ถือว่า เก่งมาก เหมือนกับเศรษฐกิจไทย คริๆ  ยังไงๆ ก็สู้ๆ น่ะคร้า .....

          พ่อมดน้อย ดินแดน เอเซีย พลัส  กระซิบ วันนี้อาจเห็นแรงปรับพอร์ตของกองทุนประเภท Passive Fund ที่อิงตามดัชนี MSCI เนื่องจากเป็นวันกำหนดให้ Rebalance ดัชนีในราคาปิดวันนี้ โดยปกติแล้วช่วงท้ายก่อนตลาดปิดจะมีมูลค่าซื้อขายเข้ามาอย่างรุนแรง สะท้อนได้จากมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ในวันที่ MSCI มีการปรับหุ้นไทยเข้าออกจากดัชนี พบว่ามูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นมากว่าวันก่อนหน้าสูงถึง 19.6% (ไม่นับรอบ พ.ค. 62 เนื่องจากมีการเปลี่ยนกฎเพิ่มสัดส่วน NVDR ทำให้มีมูลค่าซื้อขายสูงขึ้นอย่างผิดปกติ) แต่ช่วยหนุน SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 0.09% เท่านั้น

          ที่สำคัญต้องอย่าลืมว่าในรอบนี้ทาง MSCI มีการปรับเพิ่มน้ำหนัก 5% ของ China A-Share (204 บริษัท) ลงในดัชนี MSCI Emerging Market (ล่าสุดมีสัดส่วน 4.1% ของดัชนี MSCI Emerging Market หรือ 20% ของหุ้น China A Share ทั้งหมด) ซึ่งจากสถิติในทุกวันที่ทาง MSCI มีการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้น China A-Share ลงในดัชนี MSCI Emerging Market ต่างชาติมักจะขายสุทธิหุ้นไทยเฉลี่ย 3.4 พันล้านบาท และเป็นการขายสุทธิทุกครั้ง (ยกเว้นรอบพ.ค. 62 เนื่องจากมีการเปลี่ยนกฎเพิ่มสัดส่วน NVDR ในหุ้นไทย)

          ดังนั้นแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติอาจถูกกดดันจากการปรับน้ำหนักตามดัชนี MSCI อยู่บ้าง หลังจากมีผลบังคับใช้ แต่แรงผลักดัน SET Index ยังให้ความหวังไว้กับแรงซื้อ LTF ที่มักจะกระจุกตัวในช่วงท้ายของปี ซึ่งสอดคล้องกับสถิติในอดีตย้อนหลัง 14 ปีที่แรงซื้อ LTF กว่า 45.1% มักจะกระจุกตัวในเดือนสุดท้ายของทุกปี

          ตอกย้ำด้วยสถิติการซื้อขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนสถาบันฯ ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า ในเดือน ธ.ค. สถาบันฯมักซื้อสุทธิเฉลี่ยหุ้นไทย สูงสุดของปีถึง 1.31 หมื่นล้านบาท ซื้อสุทธิ 9 ใน 10 ปี นอกจากนี้ในช่วงปี 2563 และ 2564 จะไม่มีเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดการถือครองใหม่ (7 ปีปฎิทิน) ออกมา ทำให้ผู้จัดการกองทุนไม่จำเป็นต้องสำรองเม็ดเงินไว้รองรับการไถ่ถอน ดังเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเชื่อว่าในช่วงปลายปีนี้ จึงน่าจะเห็นแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเข้ามาขับเคลื่อนตลาดหุ้นได้

          ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index แม้คาดว่าได้แรงพยุงจาก LTF แต่คาดว่าเคลื่อนไหวได้ในกรอบจำกัดที่ 1600 - 1625 จุด เนื่องจากมีแนวต้านสำคัญจาก Valuation ของตลาดที่เริ่มแพง โดยล่าสุดซื้อขายกันบน P/E ที่ 17.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่สูง สำหรับปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน หลังจากฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการกำไรปีนี้ลงเหลือ 92.11 บาทต่อหุ้น และหากพิจาณาจาก Market Earning Yield Cap พบว่า ลดลงมาอย่างรวดเร็วเหลือ 4.49% ทำให้การปรับตัวขึ้นของดัชนีน่าจะขึ้นได้จำกัด

          ปิดตลาดเช้า ดัชนีตลาดอยู่ที่ 1,616.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.54 จุด  คิดเป็น 0.10%  มูลค่าการซื้อขาย 28,148.33 ล้านบาท

          ใครกันน่ะ ปลุก ขุดหุ้น FLOYD ขึ้นมาเล่น มาเทรด ปิดเช้า  ราคาหุ้นFLOYD อยู่ที่ 1.50 บาท บวก 0.17 บาท คิดเป็น 12.78%  แม่มดน้อย เห็นงบกำไรไตรมาส3ปีนี้ 9 เดือนแรกปีนี้ ก็ไม่ได้โดดเด่นแต่ประการใด

          NER   เสน่ห์ เหลือล้น   จนไปเข้าตานักลงทุนVI   ชื่อดังนามว่า "โจ ลูกอีสาน"     ปิดสมุดดูรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดพบถือหุ้นอันดับที่ 8   โดยตุนหุ้นไป 10,939,000 หุ้น หรือคิดเป็น0.71%    ฟากฝั่งเฮียชูวิทย์ บิ๊กบอส NER    บอกกับแม่มดน้อยว่าการเข้ามาถือหุ้นของโจ ลูกอีสาน  เป็นเรื่องที่ดี ถือว่าได้รับเกียรติ  และน่าจะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อหุ้น NER  มากขึ้น   แต่โดยส่วนตัวก็ยังไม่เคยเจอหน้าคาดตากันคร้า...  แบบว่านู๋เปล่านะ เค๊าาาา มาเองอิอิ...

          เครดิต สวิส ประกาศแต่งตั้ง มร.เอ็ดวิน ตัน ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาและฝ่ายขายประจำประเทศไทย พร้อมดูแลกลุ่มลูกค้าผู้ลงทุนรายใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป มร.ตัน ประจำอยู่ที่สำนักงานกรุงเทพฯ  รายงานตรงต่อมร. โคลด ฮาร์บอนน์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการลงทุน ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ และทำงานร่วมกับนายนัท ถนอมสัตย์ หัวหน้าฝ่ายบริหารความมั่งคั่ง ประจำประเทศไทย

          บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) ปลื้ม! ได้รับผลสำรวจ การกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ "ดีเลิศ" จากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2562 ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการให้บริการที่เป็นเลิศสำหรับลูกค้า+ผลการประเมินจัดประชุม ผถห.เต็ม “100”

          วิลล่า คุณาลัย หรือ KUN ควง เอส 14 แอดไวเซอรี่ ที่ปรึกษาทางการเงิน  โรดโชว์นักลงทุน วันที่ 2 ธันวาคมนี้ เพื่อตอกย้ำพื้นฐานความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย ที่ชูจุดเด่น ประสบการณ์กว่า 10 ปี การสร้างเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี ย่านบางบัวทอง ก่อนเสนอขายหุ้นไอพีโอ 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น เพื่อระดมทุนปักหมุดขยายอาณาจักรพัฒนาโครงการให้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร (เหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก) ตามนโยบายและวิสัยทัศน์ที่บริษัทฯวางไว้ มั่นใจ KUN จะเป็นอีกหนึ่งหุ้นน้องใหม่ที่จะน่าจับตาในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ

          จากกรณี มติผถห.อนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาล เป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 20 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และการจ่ายเงินสดปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0027778 (เพื่อรองรับรับการจ่ายภาษี ของผู้ที่ได้รับหุ้นปันผล) โดยหากผู้ถือหุ้นรายใดมีเศษของหุ้นจากการคํานวณการจัดสรรหุ้นปันผลดังกล่าวแล้ว บริษัทจะตัดเศษหุ้นดังกล่าวทิ้งและไม่จ่ายชดเชย นั้น CHAYO เผยหากผถห.ท่านใดต้องการรับเงินในส่วนของเศษหุ้นที่ตัดทิ้ง บริษัทยินดีจะจ่ายเงินให้กับผู้ถือหุ้นท่านนั้นในอัตรา 0.025 บาทต่อหุ้น การจ่ายเป็นเงินดังกล่าวไม่เป็นการขัดต่อมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2562 แต่อย่างใด

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***