Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: TSTH ปักธงปริมาณขาย งวดปี 61 1.25-1.28 ล้านตัน

997

 

 


 HotNews: TSTH ปักธงปริมาณขาย งวดปี 61

1.25-1.28 ล้านตัน

  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(  31  ตุลาคม  2560 ) --------TSTH คาดปริมาณขาย งวดปี 61 (สิ้นสุด 31 มี.ค 61) อยู่ที่ 1.25-1.28 ล้านตัน จากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 6 แสนตัน คาดแผนขยายกำลังการผลิตเหล็กเส้นตัดและดัด 3.1 พันตันต่อเดือน แล้วเสร็จ มิ.ย.61 ลงทุน65-70 ล้านบาท คาดขายเตาถลุงเหล็กMBF ได้ภายในเดือนพ.ย. นี้ 
          นายราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH เปิดเผยว่า คาดปริมาณการขายเหล็กงวดปี 61(สิ้นสุด มี.ค.61)จะทำได้  1.25 -1.28 ล้านตัน สูงกว่าประมาณการเดิม 1.2 ล้านตัน ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีปริมาณขายแล้วกว่า 6 แสนตัน โดยไตรมาส3 คาดว่าปริมาณขายเหล็กจะใกล้เคียงไตรมาส 2 ที่ 3 แสนตัน  เป็นผลมาจากแนวโน้มความต้องการเหล็กจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่โดยรวมแล้วทั้งปี การบริโภคเหล็กสำเร็จรูปเฉพาะในประเทศไทย จะอยู่ที่ราว 18 ล้านตัน จากปีก่อนที่ 19.2 ล้านตัน โดยภาวะเหล็กเส้นภายในประเทศยังอยู่ภายใต้ภาวะกดดัน ในขณะที่โมเมนตั้มของการขายเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัดยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง และคาดว่ายอดขายเหล็กลวดยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน 
   “ราคาเหล็กบริษัทเชื่อว่าจะมีการปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของงวดปี 61 จากการควบคุมกำลังการผลิตเหล็กและปิดโรงงานผลิตเหล็กในประเทศจีนบางส่วน ทำให้ราคาวัตถุดิบ เช่น กราไฟต์อิเล็กโทรด และ Ferro Alloys ซึ่งมีการผลิตส่วนใหญ่ในจีนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบริษัทจะมีการควบคุมต้นทุนในการผลิตเพื่อไม่ให้กระทบต่อมาร์จิ้นโดยรวม” นายราจีฟ กล่าว 
  ขณะที่คาดการส่งออกเหล็กของจีนที่ลดลงมาอยู่ราว 80 ล้านตันในปีนี้ ลดลงจากปี  2558-2559 ที่อยู่ที่ประมาณ 110 ล้านตัน ทำให้ยอดขายของผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น และการลงทุนของรัฐน่าจะมาช่วยสนับสนุนในช่วงต่อจากนี้
  ส่วนราคาเหล็กบริษัทเชื่อว่าจะมีการปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีบัญชี 61 จากการควบคุมกำลังการผลิตเหล็กและปิดโรงงานผลิตเหล็กในประเทศจีนบางส่วน ทำให้ราคาวัตถุดิบ เช่น กราไฟต์อิเล็กโทรด และ Ferro Alloys ซึ่งมีการผลิตส่วนใหญ่ในจีนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบริษัทจะมีการควบคุมต้นทุนในการผลิตเพื่อไม่ให้กระทบต่อมาร์จิ้นโดยรวม ส่วนอัตราการใช้กำลังผลิตปัจจุบันใช้อยู่ที่ 74-75 %หรือ 1.27 ล้านตัน ของกำลังการผลิตทั้งหมด 1.7 ล้านตัน 
      นอกจากนี้อยู่ระหว่างเตรียมขยายกำลังการผลิตเหล็กประเภทตัดและดัด(Cut & Bend)คาดแล้วเสร็จภายในมิถุนายน 2561 กำลังการผลิต 3.1 พันตันต่อเดือน โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 65 - 70 ล้านบาท เพื่อรองรับยอดขายในกลุ่มตัดและดัดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการขาดแคลนแรงงานที่ใช้ในการดัดเหล็ก และค่าแรงที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเตรียมเข้าเซ็นสัญญาเพื่อขายเครื่องจักรและอุปกรณ์เตาถลุงเหล็ก MBF มูลค่าทางบัญชี 1.5 พันล้านบาท ให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศ ภายในเดือนพฤศจิกายน60 
    นายราจีฟกล่าวทิ้งท้ายว่า  ประเมินการลงทุนของภาครัฐในโครงการสาธารณูปโภคต่างๆเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติในเดือนพฤศจิกายนในขณะที่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคเอกชนอยู่บ้านรวมถึงการที่มีวันหยุดหลายวันในช่วงเดือนตุลาคมและเดือนธันวาคม ปัจจัยดังกล่างการบริโภคเหล็กลดลงบ้าง


ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปริมาณขายปรับเพิ่มขึ้นเป็น 323,000 ตัน เติบโต 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและเติบโต  3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะเหล็กลวดโตสูงจากเหล็กลวดในจีนมีราคาสูงรวมแล้วทำให้มูลค่าขายเพิ่มเป็น 5.785 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 255 ล้านบาทจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 40 ล้านบาท ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงต่อเนื่องเหลือ 21 ล้านบาท จาก TSTH มีการชำระหนี้ต่อเนื่องเหลือภาระหนี้เงินกู้เพียง 1.7 พันล้านบาท
      สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ราคาเหล็กในประเทศเดือน ตุลาคมอ่อนตัวลดลงเล็กน้อยเหลือประมาณ 19,000-19,500 บาท/ตัน หลังจากที่ขึ้นไปสูงสุดในเดือน กันยายน ที่ 19,733 บาท/ตัน เทียบกับ แต่ยังดีกว่าราคาเฉลี่ยในไตรมาสก่อนเท่ากับ 18,556 บาท/ตัน สำหรับสถานการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลกโดยรวมเดือน ตุลาคม  ก็อ่อนตัวลดลงเล็กน้อยเช่นเดียวกัน โดยราคาขายเหล็กเส้นขนาด 25mm ในจีนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4,198 หยวน/ตัน หรือ ประมาณ 20,978 บาท/ตัน สูงกว่าไทย คาดจะทำให้ปัญหาการดัมพ์ตลาด ทั้งเหล็กลวด และ เหล็กเส้นจากจีนลดน้อยลง 
      ทั้งนี้เบื้องต้นประเมินกำไรไตรมาส 3 ปี 2560/2561 จะชะลอตัวลงเหลือประมาณ 150 ล้านบาท แต่ไตรมาส 4 ปี 2560/2561 คือ เดือน มกราคมถึงเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น จะทำให้กำไรปรับดีขึ้นเป็นประมาณ 200-250 ล้านบาท รวมแล้วประเมินกำไรปี 2560/2561 เท่ากับ 530 ล้านบาท เติบโต147% เมื่อเทียบกับปีก่อน
     อย่างไรก็ดีแนะนำการลงทุน โดยฐานะการเงินของTSTH ปัจจุบันแข็งแกร่งมากมีภาระหนี้เงินกู้ที่มีดอกเบี้ยเพียง 1.7 พันล้านบาทและมีสัดส่วนหนี้สุทธิต่อทุนต่ำเพียง 0.13 เท่าประเมินราคาเป้าหมาย1.1 บาทซึ่งเท่ากับมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นคงคำแนะนำTRADING BUY

---จบ--- 
 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

TERA เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 122.86 %

TERA เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 122.86 %

คุมเชิง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองเกมหุ้นภาพรวม น่าจะเป็นรูปแบบการเทรด การเล่นคุมเชิง เน้นเล่นรอบ เล่นสั้น บนปัจจัยบวกใหม่...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้