Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : RATCH แตกไลน์ลุยธุรกิจ IoT

3,038

HotNews : RATCH  แตกไลน์ลุยธุรกิจ IoT

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (20 พฤศจิกายน 2562)  บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)RATCH เดินหน้าขยายการลงทุนระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานตามยุทธศาสตร์ระยะยาว ล่าสุดบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการร่วมทุนกับ บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด ด้วยการเข้าถือหุ้น 35% มูลค่า 180 ล้านบาท เปิดทางให้บริษัทฯ เข้าสู่ธุรกิจโครงข่าย Internet of Things (IoT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และมีศักยภาพการลงทุนสูงมาก

 

 

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) RATCH เปิดเผยว่าความสำเร็จครั้งนี้ เป็นอีกก้าวในการขยายฐานธุรกิจระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานตามแผนยุทธศาสตร์ โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและอื่นๆ ไม่น้อยกว่า 20% ของเงินลงทุนโครงการ การร่วมทุนครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ ได้สิทธิร่วมลงทุนในโครงการติดตั้งและพัฒนาเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมและการบริการ IoT กับบริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด ซึ่งมีเป้าหมายที่จะขยายติดตั้งสถานีโครงข่าย (Base Station) ให้ครอบคลุมพื้นที่ 70%ของประเทศ และผู้ใช้บริการโครงข่าย IoT เทคโนโลยีของ Sigfox ครอบคลุม 85% ของประชากรทั้งประเทศในปี 2563

 

 

“บริษัทฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับติงส์ ออน เน็ต ซึ่งทำให้บริษัทฯ ก้าวเข้าสู่ธุรกิจโครงข่าย IoT อย่างมั่นใจ บริษัทฯ เล็งเห็นว่า ธุรกิจ IoT จะช่วยขยายฐานธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตไฟฟ้าและพลังงาน ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก รวมทั้งโครงข่ายสายสื่อสารใยแก้วนำแสงของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โอกาสทางธุรกิจยังมีศักยภาพเติบโตสูงมาก เนื่องจากความต้องการของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะยกระดับประสิทธิภาพการผลิต บริหารต้นทุน และซัพพลายเชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีแบบเฉียบพลัน ตลอดจนตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่จะพัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลโดยการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่า (Value Added) ไปสู่การสร้างมูลค่า (High Value) หรือการสร้างผลิตภาพ (Productivity) นั่นเอง” นายกิจจา กล่าว

 


บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด เป็นผู้ถือสิทธิการให้บริการโครงข่าย Sigfox รายเดียวในประเทศไทย โดยโครงข่าย Sigfox เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านโครงข่ายแบบกำลังส่งต่ำบริเวณกว้าง (Low Power Wide Area Network: LPWAN) มีเครือข่ายครอบคลุมมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

 

 


RATCH เผย Q3/62 กำไรทรุด 18.8% เหตุขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน-รายได้หด

 

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) RATCH เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานตามงบการเงนรวมสําหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 มีกําไรส่วนที่เป็นของบรษัทฯ จํานวน1,364.84 ล้านบาท (คิดเป็นกําไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.94 บาท) เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ซึ่ง มีกําไรจํานวน1,680.53 ล้านบาท (คิดเป็นกําไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.16 บาท) ปรากฏว่ากําไรลดลงจํานวน 315.69 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.8 ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนผลการดําเนินงานของบรษัทฯ และบรษัทย่อย สําหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 มีกําไรจํานวน 1,528.32 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ซึ่งมีกําไรจํานวน 1,712.19ล้านบาท ปรากฏว่ากําไรลดลงจํานวน 183.87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.7 โดยมีรายการที่เป็นสาระสําคัญ

 

 


รายได้จากการขายและการให้บรการ (ไม่รวมค่าเชื้อเพลิง จํานวน 6,422.84 ล้านบาท) ไตรมาสที่ 3 ปี 2562 จํานวน 1,650.88 ล้านบาท ลดลงจากรายได้จากการขายและการให้บรการ (ไม่รวมค่าเชื้อเพลิง จํานวน8,959.70 ล้านบาท) ไตรมาสที่ 3 ปี 2561 จํานวน 1,719.03 ล้านบาท เป็นจํานวน 68.15 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.0สาเหตุหลักเนื่องจากรายได้ค่าขายไฟฟ้าของบรษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จํากัด

 

 

ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ลดลงจํานวน 180.93ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้ามีการซ่อมบํารุงรักษาตามแผนมากกว่างวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ค่าขายไฟฟ้าของบรษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จํากัด ซึ่งเป็นบรษัทย่อย เพิ่มขึ้น จํานวน 112.60 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากการเรมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม Mount Emerald และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์Collinsville เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 และวันที่ 21 มีนาคม 2562 ตามลําดับ ไตรมาสที่ 3 ปี 2561 และ 2562 บรษัทฯ

 

 

รับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจํานวน 31.66 ล้านบาท และ163.48 ล้านบาท ตามลําดับ สาเหตุหลักเนื่องจากรายการเงนให้กู้ยืมแก่กิจการในกลุ่มบรษัทฯ ในสกุลเงนเหรียญออสเตรเลีย ซึ่งเมื่อสกุลเงนเหรียญออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงนเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้สินทรัพย์สกุลเงินเหรียญออสเตรเลียมีมูลค่าลดลง

 

 


2 เทพหุ้น แนะถือ RATCH กสิกรไทยให้เป้า 71.75 บาท/หุ้น-ทิสโก้ เคาะเป้า 74 บาท/หุ้น

 


บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด

ออกบทิเคราะห์ เปิดเผยว่า RATCH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 ที่ 1.4 พันลบ. ปรับลดลง 18.8% YoY และ 30% QoQ และต่ำกว่าที่เราคาด 21% จาก

 

1) กำไรธุรกิจหลักที่ต่ำกว่าคาด 12% จากส่วนแบ่งที่ลดลงจากโครงการหงสาและ NN2 และ

 

2) ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่สูงกว่าคาด สำหรับกำไรธุรกิจหลักในไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 1.5 พันลบ. ลดลง 30% YoY จากรายได้ตามสัญญาที่ลดลงของโรงไฟฟ้าพลังก๊าซขนาดใหญ่ (IPP) ในประเทศไทย

 

 

และปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังนำในสปป. ลาว ส่วนกำไรธุรกิจหลักในเชิง QoQ ปรับลดลง 40% จากการปรับตัวลดลงของรายได้ตามสัญญาของโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ IPP ในประเทศและโรงไฟฟ้าถ่านหินในสปป. ลาว เราคาดว่ากำไรธุรกิจหลักในไตรมาส 4/2562 จะเติบโตขึ้น YoY จากการขยายกำลังการผลิตในระหว่างปี แต่จะอ่อนตัวลง QoQ จากปัจจัยตามฤดูกาลของค่าช่ายพนักงานและกำหนดการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสา ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายเดิมที่ 71.75 บาท

 

 


สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้

ระบุในบทวิเคราะห์ หลักทรัพย์ว่า RATCH รายงานผลประกอบการ 3Q19 ที่ 1.37 พันล้านบาท ลดลง 30% QoQ และ 19% YoY หากเราไม่รวมผลของการขาดทุนจากค่าเงิน 174 ล้านบาท และกำไรจากตราสารอนุพันธ์ 115 ล้านบาท ทำให้กำไรปกติอยู่ที่ 1.42 พันล้านบาทลดลง 34% QoQ และ 27% YoY โดยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดมาจากเขื่อน Nam Ngum 2 ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ลดลง YoY มาจากการปิดปรับปรุงใน 3Q19 ที่นานกว่าคาด (โครงการ RG มีกำลังการผลิต 3.6GW IPP) และปัจจัยทางฤดูกาลทำให้ผลประกอบการลดลง QoQ ผลประกอบการ 9M19 คิดเป็น 71% สำหรับปี 2019F

 


- Nam Ngum 2 เป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการต่ำกว่าคาด : โดยมีผลขาดทุน 2 ล้านใน 3Q19 จากเดิมที่มีผลกำไร 249 ล้านบาทใน 3Q18 และ 82 ล้านบาทใน 2Q19 เนื่องจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงจากปัญหาขาดแคลนน้ำ


- กำลังของโรงไฟฟ้า Cogen ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางบัญชี : กำไรของโรงไฟฟ้า RW Cogen ปรับตัวลดลง 69% YoY (ถือหุ้น 40% ในโรงไฟฟ้า SPP กำลังการผลิต 234MW) เนื่องจากการปรับมาตรฐานทางบัญชีใหม่ (เกี่ยวกับการป้องกันความเสี่ยง และค่าเสื่อม)


- รายได้ของ RAC เพิ่มขึ้น YoY : รายได้จากการดำเนินงานในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 17% YoY จากการรับรู้รายได้ของโครงการ Mt. Emerald Wind farm ที่เริ่มดำเนินงานใน ธ.ค. 2018 และ Collinsville solar farm เริ่มดำเนินงานใน มี.ค. 2019 โดยเราเชื่อว่าผลประกอบการที่ลดลง QoQ มาจากความต้องการไฟฟ้าของระบบที่ลดลง


- โครงการหงสายังมั่นคง : โครงการมีค่าความพร้อมในการจ่ายไฟ 88% ในช่วง 3Q19 เพิ่มขึ้นจาก 3Q18 ที่ 84% ทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น 6% YoY แต่อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการลดลง QoQ จากค่าความพร้อมจ่ายที่ลดลง

 



คาดผลประกอบการยังไม่กลับมาเพิ่มขึ้นใน 4Q19F


คาดว่าผลประกอบการของ RATCH จะยังไม่กลับมาเพิ่มขึ้นใน 4Q19F จากระดับน้ำของ Nam Ngum 2 จะยังไม่กลับมาปกติ ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้ายังจำกัด QTD และในช่วง Q4 เป็นช่วง Low season ของกลุ่มโรงไฟฟ้า
แนะนำให้ "ถือ" โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 74.00 บาท (DCF)

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

งบท่องเที่ยว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบๆ ส่วนการเก็งกำไรนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้