Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : PRM มั่นใจรายได้ปี 62 มาตามนัด 10-15%

4,134

HotNews : PRM มั่นใจรายได้ปี 62 มาตามนัด 10-15%

 

แมกกาซีนหุ้นอินไซด์ (16 กันยายน 2562) PRM มั่นใจรายได้ปี 62 โตตามเป้าที่ 10-15% หลังธุรกิจเรือ FSU โตต่อเนื่อง- รับรู้รายได้จากการเพิ่มสัดส่วนเข้าลงทุนใน Big Sea เป็น 80% พร้อมคาดผลงาน Q4/62 โตเด่น รับช่วงไฮน์ ซีซั่น ระบุ Big Lot 36 ล้านหุ้น ที่ 9 บ./หุ้น สูงกว่ากระดาน เป็นการทำรายการของ ผถห. ต่างชาติ ขายให้กองทุนนอก

 



นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (“PRM”) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจการให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมของ PRM ในไตรมาส 3/62 มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น จากการเริ่มให้บริการเรือขนส่งภายในประเทศที่จัดซื้อเพิ่มเติมจำนวน 2 ลำ และทยอยให้บริการครบทุกลำในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มเรือขนส่งภายในประเทศรวม 32 ลำ พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นตามความต้องการบริโภคน้ำมันภายในประเทศ

 

 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้และกำไรจากผลการดำเนินงานของ Big Sea หลังจากที่ PRM ได้เพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นจากเดิม 70% เป็น 80% อีกด้วย

 

 

ส่วนกลุ่มธุรกิจเรือเรือขนส่งและกักเก็บน้ำมันแบบลอยน้ำ หรือ FSU จะรับรู้รายได้จากเรือที่ให้บริการรวมทั้งสิ้น 8 ลำ หลังจากได้เริ่มให้บริการแก่ลูกค้าตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมาตามลำดับ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้บริการขนส่งและกักเก็บน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีอัตราใช้งานเต็ม 100% หลังจากที่กฎเกณฑ์ IMO 2020 ซึ่งกำหนดให้ใช้เชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 รวมทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราค่าใช้บริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเก็บเกี่ยวรายได้เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

 

 

“ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีปีหนึ่งของ PRM ในการสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายขนาดกองเรือและการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับทิศทางตลาด ทำให้ PRM สามารถเก็บเกี่ยวรายได้สูงสุดจากการดำเนินงาน ซึ่งจะผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้” นายชาญวิทย์ กล่าว

 

 

 

 


ด้านนายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่ารายได้ในปี 2562 เติบโตที่ 10-15% จากปี 2561 ที่มีรายได้อยู่ที่ 4,730.72 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตในส่วนของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บน้ำมันแบบลอยน้ำ (FSU) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทฯ มีการเพิ่มจำนวนเรือ FSU ใหม่3 ลำ ทำให้ในสิ้นปี 2562 บริษัทฯจะมีการรับรู้รายได้จากเรือ FSU ทั้งสิ้น 8 ลำ

 

 

ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 จะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2562 ซึ่งเป็นช่วงไฮน์ ซีซั่น(High Season) ของธุรกิจ

 

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้และกำไรจากผลการดำเนินงานของบริษัท บิ๊ก ซี จำกัด (Big Sea) ที่บริษัทฯ ได้เข้าทำการซื้อหุ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งในเดือนสิงหาคมบริษัทฯ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Big Sea เพิ่มอีก10% จากเดิมที่มีสัดส่วนการถือหุ้น 70% และจะทยอยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นอีกปี 10% ในช่วง 2 ปี (2563-2564) จนครบทั้งหมด 100%

 

 

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเห็นถึงประโยชน์จากการประกาศใช้มาตรการ IMO 2020 ซึ่งกำหนดให้ใช้เชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ ที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณความต้องการในการใช้บริการเรือขนส่งและกักเก็บน้ำมันที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงผลักดันให้อัตราค่าใช้บริการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

 

สำหรับรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) บริษัทฯได้ทราบว่าเป็นการขายของผู้ถือหุ้นรายหนึ่งในต่างประเทศ จำนวน 36 ล้านหุ้น ให้กับกองทุนในต่างประเทศ ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 9 บาท สูงกว่าราคาบนกระดาน ทั้งนี้บริษัทฯไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด แต่มองว่าสะท้อนถึงความมั่นใจในการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นายวิริทธิ์พล กล่าวเพิ่มเติม

 

 

 

 


**3 เซียนหุ้น พร้อมใจเชียร์แนะซื้อ PRM**

 


สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า มองปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับ PRM จากการฟื้นตัวในทุกธุรกิจของบริษัท จาก 1) คาดครึ่งปีหลังจะเติบโต HoH และ YoY จากการเพิ่มกองเรือทั้งขนส่งและ FSU ในช่วงที่ผ่านมา และเราคาด PRM ยังเป็นหุ้นที่มีการเติบโตด้วยผลประกอบการคาดเติบโต 20% ต่อปีใน 2 ปีข้างหน้า 2) ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศที่ยังแข็งแกร่งด้วยส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 และการขยายกองเรือมาที่ 32 ลำ 3) ธุรกิจเรือ FSU ยังคงความต้องการจากลูกค้าเข้ามาต่อเนื่องโดยบริษัทเพิ่มเรือมาที่ 8 ลำ (จาก 5 ลำ) ผลจาก IMO2020 4) ธุรกิจ Offshore และบริหารเรือยังคงรักษาระดับรายได้และกำไรอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และ 5) คาดจะเห็นความร่วมมือกับพันธมิตรในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากขึ้นในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ดังนั้น เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 10.80 บาท

 


ธุรกิจ FSU ของบริษัทยังเป็นตัวผลักดันหลักของรายได้และกำไรในปีนี้ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้และกำไร 33% และ 52% ตามลำดับ โดยการกลับมาเติบโตตั้งแต่ปลายปี 2018-ปัจจุบัน โดยบริษัทเพิ่มจำนวนเรือ FSU ในปีนี้ 3 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 5 ลำมาเป็น 8 ลำ หลักๆ จากความต้องการของลูกค้าใช้เรือ FSU จัดเก็บน้ำมันเตาที่มีกำมะถันต่ำ (ULSFO) เพื่อรองรับมาตรการ IMO2020 ซึ่งบริษัทมีสัญญาระยะยาวกับลูกค้าในการให้บริการ และคาดจะเห็นความต้องการเข้ามาต่อเนื่องจาก

 

1) การคาดการณ์ราคาน้ำมัน LSFO ที่อยู่ในระดับสูงกว่า HSFO ราว 200 เหรียญฯ/ตันในปี 2020 เป็นโอกาสในการทำกำไรของ trader ลูกค้าของบริษัท

 

2) ค่าระวางเรือ FSU ยังอยู่ระดับต่ำกว่าคลังน้ำมันบนดิน (shore tanks) อยู่ราว 20%

 

3) จำนวนเรือในจากพื้นที่จอดเรือที่จำกัด ด้วย License จอดเรือ FSU ที่เต็มแล้วในพื้นที่ และค่าระวางเรือ VLCC ซึ่งเป็นเรือที่นำมาทำเป็น FSU ที่อยู่ในระดับสูงราว 40,000 เหรียญฯ จาก 20,000 เหรียญฯในปี 2018 เป็นปัจจัยทำให้ไม่ขายเรือ VLCC ออกมา

 

 



จากผลประกอบการ 2Q19 ที่ดีกว่าที่เราคาดไว้ (กำไรสุทธิ 1H19 อยู่ที่ 504 ล้านบาท คิดเป็น 59% ของประมาณการเดิมของเรา) เราปรับประมาณการผลประกอบการของเรา คาดกำไรสุทธิ 2019-20F อยู่ที่ 1,037 ล้านบาทและ 1,346 ล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นของ FSU ที่ดีกว่าเราคาดไว้มาอยู่ที่ 45% (จาก 35%) หลังจากอัตราการใช้เรือ 100% และบริษัทปรับอัตราค่าเช่าเรือครบทุกลำแล้ว เราคาดจะเห็นกำไรสุทธิใน 2H19F จะเติบโตอย่างน้อย 52% YoY คาดกำไรปกติไตรมาสละมากกว่า 270 ล้านบาท จาก

 

 

1) ธุรกิจขนส่งน้ำมันในประเทศจำนวนเรือ 31 ลำ และเพิ่มอีก 2 ลำใน 3Q19 ที่จะเข้าสู่ high season ในไตรมาส 4 คาดรายได้ทั้งปีเติบโต 18% YoY ตามจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นและการรับรู้รายได้จาก Big Sea ที่บริษัทเพิ่มสัดส่วนมาที่ 80%

 

2) เรือ FSU ที่จำนวนเรือเพิ่มขึ้นจาก 5 ลำในช่วงต้นปีเป็น 8 ลำใน 3Q19F คาดรายได้จะเพิ่มขึ้น 34% YoY ในขณะที่ธุรกิจ Offshore และบริหารเรือค่อนข้างทรงตัว จากยังคงรอสัญญาลูกค้า

 

 

 



ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายใหม่ 10.80 บาท

 


จากการปรับประมาณการผลประกอบการและราคาเป้าหมายไปยังปี 2020F ราคาเป้าหมายใหม่ของเราอยู่ที่ 10.80 บาท อิงจาก PER 20 เท่าปี 2020F จากค่าเฉลี่ยซื้อขายในอดีตของ PRM และยังคงแนะนำ "ซื้อ" ปัจจุบัน PRM ซื้อขายอยู่ที่ PER 15.8 เท่า เทียบเท่ากับ -1SD และคิดเป็น PEG เพียง 0.5 เท่า ปัจจัยเสี่ยงมาจาก

 

 

1) ความผันผวนของน้ำมันเชื้อเพลิง

 

2) การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ FSU และการปรับเปลี่ยนสัญญากับลูกค้า

 

 

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คงคำแนะนำ "ซื้อ" PRM และราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาท อิง 2020PER ที่ 23 เท่า (-0.5SD below 2-yr average PER) โดยเรามีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ โดย PRM ยังคงประเมินแนวโน้มธุรกิจเรือ FSU สดใสต่อเนื่อง จากความต้องการใช้เรือ FSU ที่สูงขึ้น จากกฎ IMO2020 ขณะที่ supply เรือ FSU ใหม่ในอุตสาหกรรมยังเพิ่มจำกัด ส่งผลบวกต่ออัตราค่าเช่าเรือและอัตราการใช้เรือที่ดีต่อเนื่อง, ธุรกิจเรือ domestic trading จะได้ผลบวกจากการรับเรือใหม่ใน 3Q19 เพิ่มอีก 2 ลำ ส่วนธุรกิจเรือ international trading จะได้ผลบวกจากอัตราค่าระวางเรือขนาด Aframax ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2019E-20E เติบโตเด่น +42% และ +23% ตามลำดับ โดยในงวด 2H19E จะเติบโตได้สูง +44% YoY จากทุกธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้นและมีการทยอยรับเรือใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนปี 2020E จะได้ผลบวกจากเรือใหม่ที่รับรู้รายได้เต็มปี

 


ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น +36% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากกำไรปกติ 1H19 ที่ออกมาเติบโตดีต่อเนื่อง เรายังมองว่าราคาหุ้น PRM จะยังมีปัจจัยหนุนต่อ จากแนวโน้มกำไรปกติ 2H19E และปี 2020E ที่จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกฎ IMO2020 และการรับรู้รายได้จากเรือใหม่เพิ่มขึ้น เรายังมอง PRM เป็นหุ้นที่น่าสนใจจากแนวโน้มกำไรที่เริ่มกลับเป็นขาขึ้น และกำไรปกติปี 2019E-20E จะเติบโตโดดเด่นเฉลี่ย 32% ต่อปี

 

 

ธุรกิจเรือ FSU ยังคงสดใสต่อเนื่องใน 2H19 และปี 2020 เรามองว่าธุรกิจเรือ FSU (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ในปี 2019E-20E ที่ 33% และ 39% ตามลำดับ) จะยังคงเป็นปัจจัยผลักดันผลการดำเนินงานใน 2H19E และปี 2020E เป็นหลัก จากผลบวกของกฎ IMO2020 ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้เรือ FSU เพื่อจัดเก็บและผสมน้ำมันเตากำมะถันต่ำเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับในงวด 3Q19 จะมีเรือ FSU ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 ลำ ซึ่งจะทำให้มีเรือ FSU รวมเป็น 8 ลำ และเรือทั้ง 8 ลำมีลูกค้าเช่าเรือไว้แล้วทั้งหมด ส่งผลให้อัตราการใช้เรือใน 2H19 และปี 2020 ยังคงสูงเกือบ 100% ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีโอกาสปรับอัตราค่าเช่าเรือเพิ่มขึ้นในอนาคตได้อีก เพราะปัจจุบัน Supply เรือ FSU ใหม่ในอุตสาหกรรมยังเพิ่มขึ้นได้จำกัด

 


ธุรกิจเรือ domestic trading จะได้ผลบวกจากการรับเรือใหม่และเข้าถือหุ้น Big Sea เพิ่มใน 3Q19 แนวโน้มธุรกิจเรือ domestic trading (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ในปี 2019E-20E ที่ 43% และ 39% ตามลำดับ) ในงวด 2H19E จะเติบโต YoY ได้อย่างต่อเนื่อง จากการรับเรือใหม่ใน 3Q19 เพิ่มขึ้น 2 ลำ ทำให้รวมทั้งปี 2019 จะมีเรือเพิ่มขึ้น 6 ลำ โดย 3 ลำ เป็นการทดแทนเรือเก่า ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2019 จะมีเรือ domestic trading รวม 29 ลำ นอกจากนั้นจะมีการรับรู้รายได้จาก Big Sea เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดได้ซื้อหุ้นเพิ่มอีก 10% รวมเป็นถือหุ้น 80% แล้ว

 

 


ยังประเมินกำไรปกติปี 2019E-20E เติบโตเด่น +42% และ +23% ตามลำดับ เรายังประเมินกำไรปกติปี 2019E-20E ที่ 934 ล้านบาท และ 1,145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +42% และ +23% ตามลำดับ สำหรับกำไรปกติในงวด 1H19 จะคิดเป็น 50% จากที่เราประมาณการทั้งปี โดยกำไรปกติ 2H19E จะยังเติบโตได้สูง +44% YoY จากการเติบโตของทุกธุรกิจและมีการทยอยรับเรือใหม่ ส่วนปี 2020E จะได้ผลบวกจากเรือใหม่ที่จะรับรู้รายได้เต็มปี ซึ่งเรายังไม่ได้รวมแผนขยายเรือใหม่ในปีหน้าเพิ่ม โดย PRM จะเปิดเผยแผนในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็น upside ต่อประมาณการของเราได้อีก

 

 

ประเมินราคาเป้าหมายปี 2020 ที่ 10.50 บาท ยังคงอิง PER ที่ 23 เท่า เทียบเท่า -0.5SD จากค่าเฉลี่ย PER 2 ปีย้อนหลังตั้งแต่เข้าตลาด เราชอบ PRM จากแนวโน้มกำไรปกติปี 2019E เริ่มกลับมาเป็นขาขึ้น โดยกำไรปกติปี 2019E-20E จะเติบโตโดดเด่นเฉลี่ย 32% ต่อปี

 

 


บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด แนะนำซื้อ PRM ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท/หุ้น PRM มีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Big Sea อีก 10% ทำให้มีสัดส่วนการถือครองทั้งหมดเป็น 80% และผู้บริหารคาดว่าจะมีการซื้อเรือเพิ่มอีก 4 ลำในไตรมาส 3/2562 เราคาดว่ากำไรไตรมาส 3/2562 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในเชิง QoQ และ YoY ด้วยแรงหนุนจากการขยายกิจการ FSU ที่จะสร้างส่วนแบ่งกำไรสุทธิราวๆ 10 ลบ./ลำ/เดือน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท

 

 

PRM

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

แนวรบเก็งกำไร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ แม้สภาพตลาดหุ้นไทย นักลงทุน ยังไม่กลับมา แต่สำหรับแนวรบ หุ้นเก็งกำไร ......

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2024

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing..

มัลติมีเดีย

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้