HotNews : SEAOIL  ลั่นปีนี้ โชว์กำไรในรอบ 3 ปี

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (11 กันยายน 2562) "นีรชา ปานบุญห้อม" แม่ทัพหญิง SEAOIL ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 20-30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,817.22 ล้านบาท พร้อมคาดพลิกมีกำไรในรอบ 3 ปี หลังผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่บริษัทฯได้เข้าลงทุน เช่น บริษัทในประเทศสิงคโปร์ และบริษัทในประเทศมาเลเซีย สร้างผลตอบแทนที่ดี พร้อมอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโซลาร์เอกชนคาดชัดเจน Q1/63

 

 

 

นางสาวนีรชา ปานบุญห้อม ประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีออยล์ จํากัด (มหาชน) SEAOIL เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2562 เติบโต 20-30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,817.22 ล้านบาท พร้อมมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ในรอบ 3 ปี เนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิได้แล้ว 59.62 ล้านบาท หลังผลการดำเนินงานของบริษัทที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุน เช่น บริษัทในประเทศสิงคโปร์ และบริษัทในประเทศมาเลเซีย สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัทฯ

 

 

"ปีนี้กำไรเราพลิกกลับมาบวกในรอบสามปี หลักๆมาจากการที่เราลงทุนในบริษัทย่อยซึ่งได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา เช่น ปริมาณการขายเราเพิ่มขึ้น และบ.ย่อยในสิงคโปร์ที่เราถือหุ้นในสัดส่วน 75% มีวิธการบริหารจัดการที่ดีด้วยเช่นกัน ครึ่งปีแรกเราทำผลงานได้ตามเป้าครึ่งปีหลังเราก็มั่นใจว่าผลงานเราก็จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้เช่นกัน" นางสาวนีรชา กล่าว

 

 

 

 

 

อนึ่งปี 59 SEAOIL มีผลขาดทุน 23.98 ล้านบาท , ปี 60 ขาดทุน 104.55 ล้านบาท , ปี 61 ขาดทุน 0.75 ล้านบาท ขณะที่งวดครึ่งปีแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 59.62 ล้านบาท

 

 

ขณะที่การลงทุนหลุมขุดเจาะ ที่บริษัทฯถือหุ้น ใน บริษัท แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด ในสัดส่วน 49.9% นั้น ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 บริษัทฯได้เตรียมการที่จะขุดหลุมสํารวจ (Exploration well ) 1-2 หลุมในบริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำมัน L53-DD และขุดหลุมสํารวจ (Exploration well)1 หลุม , หลุม ประเมิน (Appraisal well) อีก 1 หลุมในบริเวณแหล่งน้ำมัน L53-B โดยจะเริ่มการขุดเจาะตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2562 และมีแผน ขุดเจาะเพิ่ม อีก 3-4 หลุมในแหล่ง L53-DD ช่วงปลายปี 2562 หรือ ต้นปี 2563

 

 

ด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าลงทุนในโครงการโซลาร์ภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะได้รับความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/2563 จากปัจจุบันที่บริษัทฯมีการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ให้แกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 7.825 เมกะวัตต์

 

 

นางสาวนีรชา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเนื่องจากบริษัทฯทำการซื้อขายผ่านสกุลเงินบาท ส่วนธุรกิเทรดดิ้ง(ซื้อมา-ขายไป) บริษัทฯซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

 

ทั้งนี้ SEAOIL เริ่มประกอบธุรกิจจากการเป็นผู้ให้บริการจัดหาน้ํามันเชื้อเพลิงและน้ํามันหล่อลื่นให้กับเรือเดินทะเล เช่น เรือ ขนส่งสินค้า เรือบรรทุกน้ำมัน เรือประมง และเรือห้องเย็น เป็นต้น ซึ่งลูกค้าของบริษัท ได้แก่ เรือเดินทะเลที่เดินทาง ภายในประเทศ ระหว่างประเทศ และยังรวมไปถึงเรือเดินทะเลที่เดินทางมาจากต่างประเทศอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัท จัดหาให้ลูกค้าเหล่านี้ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับเคลื่อนเรือ เช่นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเตาชนิดต่างๆ และน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ โดยเรือเดินทะเลแต่ละประเภทจะมีความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่ ต่างกันออกไป

 

 

 

 

ในปัจจุบัน บริษัทมีการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ํามันหล่อลื่นให้กับลูกค้าทางทะเลเป็นหลัก และตั้งแต่ปี 2553 บริษัท ได้ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจการจัดหาน้ํามันให้กับลูกค้าทางบก โดยมีกลุ่มลูกค้า ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรม และกลุ่มลูกค้าใน ธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจขนส่งทางบก ธุรกิจการให้บริการรถโดยสาร เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังทําหน้าที่เป็นผู้จัดหาน้ำมัน เชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นตามความต้องการของลูกค้าในต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา และ พม่า เป็นต้น

 

 

โดยน้ํามันเชื้อเพลิงที่บริษัทจัดหา ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ ที่ใช้ในการขับเคลื่อนเรือ น้ำมันหล่อลื่น และ น้ำมันเบนซิน เป็นต้น ซึ่งบริษัทไม่มีความจําเป็นในการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรใดๆ เพื่อใช้ในการดําเนินธุรกิจ ทั้งนี้ เมื่อบริษัท ได้รับคําสั่งซื้อจากลูกค้าแล้ว บริษัทจะจัดหาสินค้าจากผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในประเทศหรือผู้ค้าส่งน้ำมันทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ("Supplier) โดยในกรณีลูกค้ามีความต้องการให้บริษัทเป็นผู้ขนส่งน้ำมันให้

 

 

บริษัทจะดําเนินการจัดจ้างผู้ขนส่ง อิสระเพื่อขนส่งน้ํามันไปยังจุดหมายปลายทางที่ลูกค้ากําหนด สําหรับลูกค้าที่ต้องการรับน้ำมันกลางทะเล บริษัทจะจัดจ้าง เรือขนส่งน้ำมันเพื่อขนส่งสินค้าไปยังลูกค้า หากลูกค้าเป็นเรือที่จอดเทียบท่าอยู่หรือลูกค้าทางบก บริษัทจะทําการจัดจ้างรถ ขนส่งน้ำมันเพื่อขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่ลูกค้ากําหนด โดยบริษัทมีนโยบายที่จะทําการส่งผู้ควบคุมการจัดส่งของ บริษัท (Inspector) ขึ้นประจําการบนยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งตั้งแต่รับน้ำมันที่คลังต้นทางไปจนถึงจุดหมายปลายทางที่ ลูกค้าต้องการ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้ามีคุณลักษณะตามที่ลูกค้าต้องการ มีปริมาณที่ครบถ้วน และนําส่งถึงมือลูกค้าตรงตาม เวลาที่กําหนด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและไว้วางใจในการสั่งซื้อสินค้ากับบริษัท กําไรจากการดําเนินธุรกิจของบริษัทมา จากส่วนต่างระหว่างต้นทุนน้ำมัน รวมถึงต้นทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับราคาที่จําหน่ายน้ำมันให้กับลูกค้า

 

 

 

บริษัทขึ้นทะเบียนเป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 10 ซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีปริมาณการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ละ ชนิดหรือรวมกันทุกชนิดปีละ 30,000 เมตริกตัน (ประมาณ 36 ล้านลิตร) ขึ้นไปแต่ยังไม่ถึง 100,000 เมตริกตัน (ประมาณ 120 ล้านลิตร) หรือกรณีเป็นผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ชนิดเดียวมีปริมาณไม่ถึง 50,000 เมตริกตันต่อปี แต่เกิน 30,000 เมตริกตัน หรือเป็นผู้ค้าที่มีขนาดของถังที่สามารถเก็บน้ำมันเชื้อแพลิงแต่ละชนิดหรือรวมกันทุกชนิดได้เกิน 200,000 ลิตร โดยปริมาณการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงประจําปีดังกล่าว หมายถึง ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดที่นําเข้ามาในประเทศ ซื้อ กลั่น ผลิตหรือได้มาในปีหนึ่ง ทั้งนี้ ไม่รวมถึงปริมาณที่จัดหามาเพื่อการสํารองตามกฎหมาย

 

 

ทั้งนี้ บริษัทยังดําเนินธุรกิจให้บริการในการจัดหาอาหาร วัตถุดิบ และให้บริการอื่นๆ สําหรับพนักงานประจําแหล่งขุด เจาะน้ำมันและก๊าซทั้งในทะเลและบนบก เนื่องจากบริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นเรือลําเลียงวัสดุอุปกรณ์เครื่องอุปโภคบริโภค และ เรือโดยสารพนักงานแท่นขุดเจาะ บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการให้บริการด้านอาหาร ทําความสะอาด และซักรีด ให้แก่ พนักงานประจําแท่นขุดเจาะน้ํามันและก๊าซ เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น

 

 

ขณะที่บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด (“POES") ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 49.99 ของจํานวนหุ้นที่ออกและจําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ POES ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและสํารวจปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติบนบก ในประเทศไทย และได้ครอบครองสัมปทานแปลงที่ L53/48 ตั้งอยู่ที่อําเภอกําแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีระยะเวลาผลิต ปิโตรเลียมนานถึง 20 ปี สําหรับการลงทุนในธุรกิจกับ POES นั้นต่อยอดกับธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน และทําให้บริษัทได้ ประสบการณ์และการเรียนรู้จากบริษัทสํารวจ ผลิตและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ซึ่งนําไปสู่สิทธิการเข้าเป็นผู้รับสัมปทาน ต่อไปในระยะยาว

 

 

 

นอกจากนี้ บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ซีออยล์ ปิโตรเคมีคอล จํากัด (“SOC") หรือเดิมชื่อ บริษัท นครชัย ปราการ เคมีภัณฑ์ จํากัด ซึ่งประกอบธุรกิจด้านการผลิตและจําหน่ายโซลเว้นท์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเหลว ได้แก่ ไวท์ สปิริต (white spirit) รับเบอร์ โซลเวนท์ (rubber solvent) น้ํามันดีเซล และน้ํามันเตา โดยดําเนินกระบวนการผลิตในโรงแยก คอนเดนเสท (condensate splitter) ของ SOC ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี มีกําลังการผลิตประมาณ 180,000 ลิตรต่อวัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ยังอยู่ระหว่างทดลองการผลิต

 

 

ในปี 2560 บริษัทเข้าลงทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่ง เปิดดําเนินการแล้ว โดยมีบริษัท ลีฟวิ่ง เอ็นเนอร์จี จํากัด และบริษัทย่อยในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมจํานวน 10 โครงการ ขนาดรวม 7.825 เมกะวัตต์ ด้วยวิธีการรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) และบริษัทรับรู้รายได้ หลังทํารายการเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2560

 

 

SEAOIL