
HotNews : ก.ย.นี้ TKN ตั้งโต๊ะแถลงร่วมมือ "Pan Orion"
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26 สิงหาคม 2562) "อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์" บิ๊ก TKN คงเป้ายอดขายปี 62 โต 5-7% พร้อมคาดยอดขาย H2/62 โตกว่า H1/62 หลังลุยออกสินค้าใหม่ พร้อมแจงหลังขายหุ้น 3.5% ให้ Pan Orion Crop ผู้นำด้านขนมขบเคี้ยวและเบเกอร์รี่ หวังเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายตปท. พร้อมเตรียมแถลงความร่วมมือเดือน ก.ย.นี้
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ด แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 62 ที่ผ่านมา กลุ่มครอบครัวพีระเดชาพันธ์ ได้ขายหุ้นของบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) จำนวน 48.30 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.5 % ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท ให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner)นั้น บริษัทฯ ได้ขายหุ้นดังกล่าวให้กับ บริษัท Pan Orion Crop

ซึ่งเป็นบริษัทฯใน เครือ Orion Group ในประเทศเกาหลี โดยบริษัทฯ Pan Orion Crop เป็นผู้นำด้านขนมขบเคี้ยวและเบเกอร์รี่ ซึ่งมียอดขายประมาณ 60,000 ล้านบาท/ปี และมีโรงงาน 17 แห่ งใน 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี จีน เวียดนาม และรัฐเซีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้ามาช่วยส่งเสริมด้านช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศให้แก่บริษัทฯ ได้มากขึ้น ทั้งนี้จะมีการแถลงความร่วมมือดังกล่าวในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายยอดขายปี 2562 เติบโตที่ 5-7% จากปี 2561 ที่ทำได้ 5,697.41 ล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังที่จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการที่ราคาสาหร่ายซึ่งเป็นต้นทุนหลักในผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลในไตรมาส 3/2562 นี้ ตลอดจนการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งคาดจะสามารถผลักดันให้ยอดขายและกำไรให้ดีขึ้นได้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนจากยอดขายในประเทศอยู่ที่ 40% และต่างประเทศอยู่ที่ 60%

"ในปีนี้คาดว่าภาพรวมตลาดในประเทศน่าจะดีขึ้น จากการที่นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับเข้ามาในประเทศ ซึ่งอาจเป็นผลจากการมีชุมนุมประท้วงในประเทศฮ่องกง รวมไปถึงการที่บริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายใหม่ในประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมา น่าจะสามารถขายสินค้าครอบคลุมตลาดได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้ผลงานในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายอิทธิพัทธ์ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 2,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 180 ล้านบาท ลดลง 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดที่อยู่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามคาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากการทำการขายและการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในช่วงไตรมาส 3 บริษัทฯ

จะมีการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายคนใหม่ ได้แก่ SEHUN ศิลปินจากเทศเกาหลี รวมถึงมีการเปิดตัวสินค้าที่มีการร่วมมือกับแบรนด์ Pringles และสินค้าประเภท Non-Seweed อีก 2 รายการ ตลอดจนมีการออกแพคเกจจิ้งใหม่ซึ่งคาดว่าจะสามารถเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มเด็กในประเทศได้
ขณะที่ ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 8,250 ตัน/ปี ซึ่งมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 65% โดยแบ่งออกเป็นในส่วนของโรงงานนพวงศ์ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 4,700 ตัน/ปี ซึ่งมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 72% และในส่วนของโรงงานโรจนะ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3,550 ตัน/ปี ซึ่งมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 57%

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า กำไร 2Q62 อ่อนกว่าคาด เป็น 104 ล้านบาท (-28% y-o-y, +27% q-o-q) ดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อย แต่อ่อนกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้า สืบเนื่องจากอัตรากำไรทำได้น้อยขณะที่ สัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบรายได้เพิ่ม เป็นแรงกดดันกำไรในไตรมาสนี้ เป็น 20% จาก y-o-y ที่ 16.1% ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่และการโปรโมทแบรนด์ยังต่างประเทศ
ด้าน อัตรากำไรขั้นต้นไม่ฟื้นตัว เพราะการใช้อัตรากำลังการผลิตที่ต่ำ จึงไม่ได้ประโยชน์จาก Economy of Scales ทั้งนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ แม้มีโอกาสที่จะปรับประมาณการปี 62 ลงเล็กน้อยสะท้อนอัตรากำไรที่ฟื้นตัวได้ช้ากว่าคาด แต่คงประมาณการปี 63 ไว้ ราคาพื้นฐานให้ไว้ที่ 12.00 บาท ประเมินด้วย P/E ปี 63 ที่ 22 เท่า
TKN