Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

คัมภีร์หุ้น By : ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์

5,198

 

คัมภีร์หุ้น By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ วิกฤตเศรษฐกิจโลกพินาศ หุ้นร่วงนรกแตกกำลังมา...จริงมั้ย?

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (6 มีนาคม 2562)--------กระแสตื่นกลัวว่าเศรษฐกิจโลกจะพินาศ สะท้อนดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกูรูเศรษฐศาสตร์ พอล ครุกแมน เป็นคนพูดว่า ถ้าไม่ปลายปีนี้ ก็จะเป็นปีหน้า เศรษฐกิจโลกจะถดถอย

 

 

 

ความตื่นกลัว ระแวดระแวงนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง นับจากปีที่แล้ว แต่ที่เป็นเรื่องมาในคราวนี้ เพราะชื่อเสียงของครุกแมนที่เคยทำนายฟองสบู่เศรษฐกิจไทยและเอเชียแตกอย่างแม่นยำเมื่อกว่า 20ปีก่อน

 

เมื่อปีที่แล้ว ผมก็เคยนำเสนอโมเดลเรื่อง FED ขึ้นดอกเบี้ย ต้นทุนทางการเงินสูง แต่หุ้นดาวโจนส์ยังขึ้นต่อ จนฟองสบู่แตก ตามภาพประกอบครับ

 

 

 

ความสัมพันธ์ของการขึ้นดอกเบี้ย FED กับหุ้นอเมริกาน่าเสียวไส้...

 

เรื่องนี้ผมเคยนำเสนอไว้ครั้งแรกเมื่อต้นปี 2016 และมานำเสนอย้ำอีกทีเมื่อเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมานี้ว่าเป็นประเด็นที่ต้องระแวดระวังเอาไว้

 

กล่าวก็คือมีสถิติว่า เฉลี่ย 3 ถึง4 ปี (ส่วนใหญ่คือ 4ปี) ภายหลังจาก FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในแต่ละระลอกไปแล้วนั้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะย่างเข้าสู่ขาลง เพราะว่าต้นทุนทางการเงินของบริษัทห้างร้านเอกชน รวมทั้งกิจการที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นลดลง ขณะที่ราคาหุ้นก็แพงขึ้นไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ เพราะผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนไล่ตามราคาในตลาดหุ้นไม่ทัน และส่งผลให้ราคาหุ้นตกต่ำ ที่ชัดเจนในเรื่องนี้คือ สถิติในระยะ 35ปีมานี้

 

-ครั้งแรก หลัง FED ขึ้นดอกเบี้ยในคราวปี 1983 ต่อมาอีก4ปี เกิดเหตุการณ์ Black Monday ในเดือนตุลาคมปี 1987

 

-ครั้งที่สอง คราวปี1994 FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยและดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ทำให้เงินทุนที่เคยไหลเข้าตลาดหุ้นไทย และมาเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงสูงมากได้ไหลกลับสหรัฐฯ มีการเทขายหุ้น และอสังหาฯจนฟองสบู่แตก เกิดเหตุวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งของไทยและกระทบทั่วเอเชียในปี1997 หรือ 3 ปีหลังขึ้นดอกเบี้ย

 

-ครั้งที่สาม คือหนก่อนนี้คือเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในปี 2004 พบว่าหลังจากนั้น 3 ปี คือ ปี 2007 ปัญหาซับไพร์มโลนก็ประทุขึ้น ส่งผลให้ 4ปีต่อมา คือปี2008 เกิดวิกฤตการณ์ HAMBURGER CRISIS และหุ้นอเมริการ่วงหนัก ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงตามมา

 


ข้อถกเถียงพิจารณา-1.ถ้าเป็นไปตามอัตราเฉลี่ยนี้ หลังจาก FED ขึ้นดอกเบี้ยเป็นซีรีส์ล่าสุดนี้ เริ่มต้นในวันที่ 15 ธันวาคมปี 2015 หรือนับซะว่าเริ่มขึ้นในปี2016 ดังนั้นตลาดหุ้นอเมริกาและเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่วัฏจักรขาลงในราวปี 2019-2020 (พ.ศ.2562-2563) โดยประมาณ

 

แล้วเที่ยวนี้ฟองสบู่แตก ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะมาเมื่อไหร่?



คำตอบคือตอนนี้ยัง!

 

 

 

 

 

นักวิเคราะห์ค่าย CITI GROUP ชี้ว่าการที่ตลาดหุ้นอเมริกาและตลาดหุ้นโลกร่วงแรงเมื่อปลายปี2561 นั้นยังเป็นเพียงการเผาหลอก ยังไม่ถึงขั้นเผาจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้จากการเช็กลิสต์เทียบดัชนีชี้วัดทางด้านปัจจัยพื้นฐานต่างๆในอดีตตอนที่เกิดวิกฤตฟองสบู่ตลาดหุ้นแตกนั้นบ่งชี้ไปในทางที่ว่า นี่ยังเป็นความผันผวนแรงๆ ยังไม่เข้าข่ายจะเป็นตลาดหมีแต่อย่างใด เนื่องจากดัชนีชี้วัดที่เข้าข่ายว่าตลาดหมีกำลังมานั้นมีเพียง 3.5ตัว จากทั้งหมด18เครื่องมือชี้วัดว่าเข้าเขตอันตราย 

 

แล้วเมื่อไหร่?
คำตอบที่ผมเคยให้ไว้คือ ราวปี 2019-2020 และหากนับตามสถิติที่ผ่านมาส่วนใหญ่คือ 4 ปี หลังจากเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย FED ก็ควรเกิดในปี2020 คือปีหน้าพ.ศ.2563 ครับ

 

ส่วนหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal สำรวจนักเศรษฐศาสตร์พบว่า ราว60% คาดว่าจะเกิดในปี2020 อีก 22% เชื่อว่าจะเกิดในปี2021 ขณะที่ราว5% คาดว่าจะมาในปี2019

 

 

ข้อสังเกตของผม-1. ประวัติศาสตร์วิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้น ในปีที่เกิดเหตุ (ค.ศ.1929 -The Great Depression/1989-Black Monday/1997- วิกฤตต้มยำกุ้ง/2008 -วิกฤตHamburger) ไม่เคยมีใครมาบอกเราล่วงหน้านะครับว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และก็ไม่มีใครเตรียมตัวรับมืออะไรเลย จู่ๆวิกฤตก็โครมกระแทกใส่

 

 

แต่ปีนี้รอบนี้ต่างออกไปมาก คนเตรียมรับมือทั่วโลกเลยทีเดียว...มีอะไรเคลื่อนไหวส่งสัญญาณนิดหน่อยก็เทขายหุ้นกันอุตลุต ล่าสุดก็กูรูพอล ครุกแมนมาเตือนว่า ไม่ปลายปีนี้ก็ปีหน้า ซึ่งก็คือเตือนคล้ายๆนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ส่งสัญญาณเตือนไว้ก่อนหน้านี้

 

ก็ไม่แน่นะครับ อะไรที่กลัวมันเลยไม่ค่อยเกิด เพราะคนระวังตัวแจตลอด แต่อะไรที่เกิดคนก็ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้

 

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่เสพวิกฤตเป็นภักษาหาร ถ้าหากจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและลุกลามไปทั้งโลกอีกที ก็นับเป็นโอกาสทองที่เรารอคอยที่จะพลิกเปลี่ยนวิกฤตการณ์ให้เป็นโอกาสรวยหุ้น

 

เพราะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจครั้งใหญ่ 2หนล่าสุด คือวิกฤตต้มยำกุ้ง พ.ศ.2540 และวิกฤต Hamburger ในปี2008 นั้น ถึงแม้ว่าได้ทำให้ตลาดหุ้นร่วงหนัก แต่ก็กินเวลาสั้นๆเพียงปีหรือ 2ปี จากนั้นเมื่อฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดไปถึงจุดสูงสุดใหม่ ราคาหุ้นในตลาดทะยานขึ้นไปมากกว่า 500% โดยใช้เวลานานเป็นสิบปีในช่วงขาขึ้นครับ

 

เพียงแต่เราไม่ตกใจเสียขวัญ รู้จักจังหวะที่ดี รู้จักการคัดเลือกหุ้นเด่นเข้าพอร์ตการลงทุน รู้จักที่จะปล่อยให้กำไรงอกเงยในตลาดขาขึ้น เราก็จะรวยมหาศาลจากวิกฤตการณ์ เหมือนที่มีคนประสบผลสำเร็จมาแล้วจากวิกฤตครั้งก่อนๆ...เพียงแต่หากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจหากมันจะเกิดในปีนี้ (หรือที่คาดการณ์ไว้ส่วนใหญ่ในปีหน้า 2563) คนที่จะรวยหุ้น ก็ต้องถึงคิวของเราบ้างแล้ว เพราะเราฟังแต่ตำนานคนที่เขารวยจากวิกฤตการณ์มากมากและนานพอแล้ว



ทีนี้ทีของเราบ้าง ขอให้มันมาเถอะวิกฤตเศรษฐกิจ เราพร้อม และง้างเท้ารออยู่แล้ว กลัวอะไร!

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้