Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

9 ขั้นตอนการเป็นเทรดเดอร์ตลาด TFEX By : อาจารย์ติ จุติ เสนางคนิกร

10,993

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 กุมภาพันธ์ 2562)------- นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดทุนมาสักพัก น่าจะเคยได้ยินคำว่า “TFEX” แล้ว TFEX คืออะไร ลงทุนแบบไหน จะเริ่มต้นลงทุนจะต้องศึกษาอะไรอย่างไร บ้าง วันนี้ผมมีคำตอบให้กับคุณ


9 ขั้นตอนการเป็นเทรดเดอร์ตลาด TFEX


1. ทำความรู้จักกับ TFEX เบื้องต้นก่อน

คำว่า TFEX อย่างเป็นทางการ นั้นย่อมาจาก Thailand Futures Exchange หรือบริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรืออนุพันธ์ ตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 โดยเริ่มซื้อขายวันที่ 28 เมษายน 2549 หากเอ่ย ถึง TFEX ในความหมายของนักลงทุนทั่วไปแล้ว มักจะหมายถึง สัญญา SET50 Index Futures ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกและมีสภาพคล่อง มากที่สุดของตลาด TFEX


ประโยชน์ของ TFEX ใช้จัดการความเสี่ยงของให้กับพอร์ตหุ้น ซึ่งเราสามารถทำการขายสัญญาล่วงหน้าได้ หากตลาดเริ่มย่อหรือลง หรือเกิดภาวะวิกกฤต เช่น วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (พ.ศ. 2550) หรือช่วงที่เงินทุนต่างชาติไหลออก หรือใช้เพื่อการเก็งกำไรส่วนต่างจากการซื้อหรือขายสัญญาล่วงหน้า เพื่อสร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) พูดง่ายๆ ก็คือ การเก็งกำไรในส่วนต่างของราคา และเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง นั่นเอง

 

 

2. ศึกษาคำศัพท์ที่ใช้ในตลาด TFEX

การที่จะเข้ามาลงทุน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเข้าใจในเรื่องของ คำศัพท์ต่างๆ ว่าแต่ละตัวมีหน้าที่และความหมายอย่างไร ศึกษาให้เข้าใจก่อนเข้าไปลงทุน ได้แก่


Equity คือจำนวนเงินที่มีอยู่ทั้งหมด หลังหักผลกำไร/ขาดทุนแล้ว


EE (Excess Equity) เป็นเงินส่วนที่เหลือหลังหักเงินประกันจากการเปิดสัญญาไปแล้ว สามารถนำเงินส่วนนี้มาเปิดสถานะเพิ่มเติมได้


MR หรือ IM (Initial Margin) คือหลักประกันขั้นต้น ที่ต้องมีก่อนเปิดสถานะสัญญา


MM (Maintenance Margin) หลักประกันรักษาสภาพ ตลอดเวลาที่ถือสัญญาจะต้องมีเงินมาวางไม่ต่ำกว่าระดับนี้ มิฉะนั้นจะถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม Margin Call : MC


Force Close หลักประกันบังคับดำเนินการ ถ้า Equity ต่ำกว่าระดับนี้จะถูกบังคับปิดสถานะ หรือต้องนำเงินมาวางเพิ่มภายในวัน


คำศัพท์บางคำได้ยินบ่อยๆ จนกลายเป็นความเคยชิน อย่าทำความเข้าใจหลังจากโดน Margin Call หรือ Force Close อาจจะทำให้เราต้องเดินออกจากตลาดได้

 

 


3. หาสังคมของนักลงทุนหรือเทรดเดอร์

เรียกว่า การมีเพื่อนหรือสังคมของเทรดเดอร์ จะทำให้เราพบกับทางลัด เรียนรู้จากประสบการณ์ของคนที่เคยเทรดมาก่อนหน้าเรา ไม่ว่าประสบการณ์นั้นจะกำไร หรือขาดทุนก็มีประโยชน์ทั้งสิ้น ข้อดีของการมีสังคมเทรดเดอร์คือ เราจะเข้าใจการทำงานเป็นทีม แบ่งกันทำการบ้านเพื่อคัดกรองหุ้นที่น่าสนใจออกมา และสิ่งสำคัญคือการต้องเลือกสังคมของนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ที่มีคุณภาพด้วย

 

 

4. ฝึกเทรดด้วยการจดลงกระดาษหรือโปรแกรมจำลอง

การฝึกฝนก่อนที่จะลงสนามจริง ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก บางครั้งเรายังไม่ทราบว่าการฝึกฝนของเรามากเพียงพอหรือไม่ ดังนั้น การเทรดบนกระดาษหรือพอร์ตจำลอง ก็จะช่วยให้ความมั่นใจในการลงทุนหรือการเทรดของเรานั้นมีมากพอ การ Back Test ตลาดแล้วบันทึกลงในโปรแกรม Excel จะช่วยค้นหาข้อบกพร่องของตนเอง ซึ่งความสามารถของโปรแกรมจะจัดเรียงลำดับของข้อบกพร่อง จากมากไปน้อยได้ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาของข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นบ่อย จะทำให้เราแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด

 

 

5. รู้หลักการ 3M เพื่อความสำเร็จ

Mindset หรือ จิตใจ การเป็นนักลงทุน หรือเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องมีจิตใจที่นิ่งและมีทัศนคติที่ดีต่อตลาด สามารถควบคุมจิตใจและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว มี Mindset ที่ถูกต้องไม่ Bias ไปในทิศทางที่เราอยากให้มันไป จากรูปจะเห็นว่า Mindset เป็นฐานรากเพื่อประคองให้อยู่รอดในตลาดได้อย่างมั่นคง


Money Management หรือการบริหารเงิน คือการจัดสรรเงินที่จะนำลงทุน การบริหารเงินหน้าตัก การบริหารความเสี่ยง นักลงทุนหน้าใหม่หรือเทรดเดอร์ที่เข้ามาในตลาด มักจะไปสนใจ รูปแบบของ Method มากกว่า เมื่อลงทุนได้สักระยะหนึ่งแล้วก็จะเกิดทักษะและอยากได้เงินหรือผลตอบแทนเพิ่มมากขึ้น จึงเริ่มเข้ามาสนใจ Money Management จากรูปจะเห็นว่า Money Management จะเป็นตัวเชื่อมระหว่าง Mindset และ Method กล่าวได้ว่า เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของ Mindset และ Method ก็จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการอยู่รอด การปรับเปลี่ยนเงินลงทุนให้เหมาะสมในแต่ละจังหวะของช่วงชีวิตให้เกิด Money Management นั่นเอง


Method คือ วิธีการ เทคนิคต่างๆ หรือหน้าเทรด การหาจุดเข้า จุดออก จุดทำกำไร และตัดขาดทุน การปรับเพิ่มลดขนาดของพอร์ต ในความเป็นจริงแล้วมีความสำคัญเพียง 10% โดยส่วนตัวจะให้ความสำคัญ ของ Mindset มาก่อน ซึ่งความรู้ที่เคยศึกษา (Knowledge) และทักษะ (Skill) ที่ได้ฝึกฝน หรือแม้แต่ความกลัว ความกล้า และความโลภของตนเองนั้น จะถูกถ่ายทอดลงไปจนกลายเป็น Method หรือหน้าเทรดของตนเอง


ทุกอย่างในโลกนี้ก็เริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อนเสมอ ทุกๆ คนเกิดมาต้องเริ่มจากการเขียนตัวอักษร ตามรอยประ แต่เมื่อเราสามารถเขียนตัวอักษรได้เองแล้ว นำตัวอักษรเหล่านั้นมาเรียงต่อกันเป็นประโยค และประโยคเหล่านั้นก็สามารถสร้างประโยชน์ให้กับคนทั้งโลกได้นั่นเอง ดังนั้นการสร้างหรือตามหา Method ที่ดีนั้น ไม่ผิด แต่ความสำคัญอยู่ที่การนำไปใช้และหาสาเหตุของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับปรุง และพัฒนาต่อไป

 

อาทิตย์หน้าเรามาต่อส่วนที่ 6 - 9 กันครับ

อาจารย์ติ จุติ เสนางคนิกร
Founder
Supertrader Group

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

ติดตาม By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หลังจาก นายกฯคุยกับนายแบงก์ วันนี้ สมาคมธนาคารไทย ก็ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย...

รายงานพิเศษ : ได้เวลา "SPREME" ผู้นำธุรกิจ System Integrator ครบวงจร ลุยระดมทุน ติดปีกธุรกิจ High Growth

ได้เวลา "SPREME" ผู้นำธุรกิจ System Integrator ครบวงจร ลุยระดมทุน ติดปีกธุรกิจ High Growth

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้