รายงานพิเศษ:ตลท. ก้าวสู่ปีที่ 40 ประกาศแผนปี 58 มุ่งสู่ Digital Exchange

    รายงานพิเศษ: ตลท. ก้าวสู่ปีที่ 40 ประกาศกลยุทธ์หลักในปี 2558 มุ่งขยายสินค้าและบริการด้วยคุณภาพและเป็นสากล พร้อมเพิ่มสภาพคล่อง และพัฒนาระบบงานมุ่งสู่ Digital Exchange รองรับฐานธุรกิจใหม่ พร้อมเดินหน้าเป็นผู้นำการพัฒนาร่วมกับตลาดทุนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) อย่างต่อเนื่อง คาดกลยุทธ์ปี 2558 จะเพิ่มมูลค่าตลาดรวมจากหุ้น IPO อีก 2.5 แสนล้านบาท และเพิ่มคุณภาพในทุกมิติให้กับตลาดทุนไทย เพื่อมุ่งไปสู่การเติบโตที่มั่นคงยั่งยืน พร้อมเปิดมุมมองตลาดกับ ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)  และ"เกศรา มัญชุศรี" กรรมการและผู้จัดการ ตลท.
    ปี 2557 ตลท. ยังคงแสดงศักยภาพที่โดดเด่นในอาเซียนทั้งด้านธุรกิจและด้านคุณภาพ ได้แก่ 1) มูลค่าซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อยู่ที่  4.45 หมื่นล้านบาท (หรือ 1.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ) (ข้อมูล ณ สิ้น พ.ย.57) 2) MSCI ได้เพิ่ม 3 บจ. ไทยในการคำนวณดัชนี MSCI Global Standard Indices ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนหลักทรัพย์มากที่สุดในอาเซียน 3) 10 บจ. ไทยได้รับคัดเลือกเป็นองค์ประกอบในดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มากที่สุดในอาเซียน 4) บจ.ไทยได้คะแนน ASEAN CG Scorecard สูงสุดในภูมิภาค และ 5) ตลท.ประกาศเข้าสู่การเป็น Sustainable Stock Exchange (SSE) ตามกรอบการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน
    ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า “การพัฒนาตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนเป็นโจทย์สำคัญสำหรับ ตลท. ที่จะก้าวสู่ปีที่ 40 ซึ่งในอนาคตสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปมีความผันผวนและไม่แน่นอน มากขึ้น ดังนั้น ตลท. จึงวางทิศทางองค์กรโดยมุ่งเน้นแนวคิด “Diversified-Digital-Sustainable-Internationalized (D-D-S-I)” ได้แก่ การเพิ่มความหลากหลายของตลาดและประเภทสินทรัพย์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าเดิมและขยายฐานผู้ลงทุน (Diversified) โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินงานในทุกมิติเพื่อตอบสนองทุกภาค ส่วนในตลาดทุน (Digital) ซึ่งสอดรับกับทิศทางของธุรกิจในระดับโลก รวมถึงการพัฒนาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดทุนให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่ง แวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Sustainable) ให้มากขึ้น นอกเหนือจากการมุ่งเน้นการส่งเสริมบรรษัทภิบาลที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน”
    “ขณะเดียวกัน ตลท. ได้ประสบความสำเร็จจากการร่วมทำงานกับบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทไทยได้รับการคัดเลือกเข้าไปอยู่ใน DJSI จำนวน 10 แห่ง รวมถึงส่งเสริมให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ออกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งด้านการเงิน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป สำหรับการพัฒนากิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตลท. เดินหน้าสนับสนุนการดำเนินวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) เพื่อให้ SE เหล่านี้สามารถดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมและพึ่ง พาตนเองได้อย่างยั่งยืน ขณะที่ ตลท. ยังมุ่งพัฒนางานไปสู่ระดับสากลอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นที่ภูมิภาค GMS และระดับสากล (Internationalized) เพื่อวางรากฐานไปสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในปี 2563” ดร.สถิตย์กล่าว

***ตลท.ตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปปี 2563 แตะ30 ล้านล้านบาท-วอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยต่อวันแตะ 1 แสนล้านบาท****

     ตลท.คาดมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในปี2563 จะอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6 หมื่นล้านบาทต่อวันจากปีนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาทต่อวัน  พร้อมคาดว่ามาร์เก็ตแคปปี2563 จะอยู่ที่ 30 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 ล้านล้านบาท จากปีนี้ที่มีมาร์เก็ตแคป 15 ล้านล้านบาท
     ตลท.วางเป้าปีหน้า เพิ่มปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน TFEX เป็น 1.9 แสนสัญญาต่อวัน โดยตลท.จะเติมสภาพคล่องส่งเสริมความเข้าใจของผู้ลงทุน และพัฒนาเครื่องมือการซื้อขาย อีกทั้งจะสนับการทำงานของผู้ดูและสภาพคล่อง ประกอบกับเปลี่ยนโปรดักส์ให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้น และเผยแพร่สินค้าของ TFEX ต่อผู้ลงทุนต่างประเทศ พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ยังจะส่งเสริมให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนและกิจกรรมโดยตั้งเป้าว่า จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย 4 ล้านคน และตั้งเป้าปี2558 จะมีมูลค่าระดมเพิ่มของบริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์(SET)และตลาด หลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) อีก 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทจดทะเบียนจะใช้เครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น  และพัฒนาคุณภาพบริษัทจดทะเบียนและบุคคลากรของบริษัทจดทะเบียน พร้อมกันนี้ ตั้งเป้าปี2558 มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) อยู่ที่ 5.2 หมื่นล้านบาทต่อวัน จากปีนี้อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งในปี2557นี้ ตลท.แสดงศักยภาพที่โดดเด่นในอาเซียน ทั้งด้านธุรกิจและด้านคุณภาพ ซึ่งมีมูลค่าซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี โดยมูลค่า ซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.45 หมื่นล้านบาท หรือ 1.35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

***ตลท. ตั้งเป้าปี58 เพิ่มมูลค่าตลาดรวม IPO อีก 2.5 แสนล้านบาท-ชูกลยุทธ์ 4 ด้าน***

    นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท.  กล่าวถึงการดำเนินงานในปี 2558 ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะฟื้นขึ้นและ เติบโตสูงกว่าปี 2557 รองรับการขยายตัวของธุรกิจในภูมิภาค GMS และการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปีหน้า ตลท. จึงวางกลยุทธ์หลักในปีหน้า 4 ด้าน ได้แก่ 1) เพิ่มจำนวนและคุณภาพของสินค้าและบริการ โดยจะเน้นเพิ่มบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ที่เป็นผู้นำในระดับอุตสาหกรรม (Industry Leader) จาก 4 อุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้แก่ ขนส่งและโลจิสติกส์ การท่องเที่ยวและสุขภาพ พลังงานทางเลือก และเกษตรและอาหาร รวมถึงการรับบริษัทจดทะเบียนต่างประเทศในกลุ่ม GMS อีกด้วย โดยตลท. ตั้งเป้าในปี 2558 เพิ่มมูลค่าตลาดรวมจากหลักทรัพย์เข้าใหม่ (IPO) รวม 250,000 ล้านบาท และมูลค่าระดมทุนเพิ่มใน ตลท. อีก 130,000 ล้านบาท
    2) เพิ่มสภาพคล่องในตลาด เพื่อให้ตลท. มีสัดส่วนผู้ลงทุนที่สมดุลมากขึ้น จึงต้องการเพิ่มการลงทุนโดยเฉพาะหุ้นในกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ มีผู้ถือหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น ด้วยการส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุนและยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพเพิ่มขึ้นและต่อ เนื่อง สำหรับการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จะมุ่งส่งเสริมความเข้าใจของผู้ลงทุน ทำให้เกิดผู้ลงทุนมืออาชีพ (professional investors) มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาบุคลากรบริษัทสมาชิก และสนับสนุนการทำงานของผู้ดูแลสภาพคล่องให้เหมาะสม โดยในปี 2558 มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดหุ้นอยู่ที่ 52,000 ล้านบาท และในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณซื้อขายอยู่ที่ 190,000 สัญญาต่อวัน
    3) ขยายสินค้าให้มีความหลากหลายและเป็นสากล เช่น ผลักดันให้มีการซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งในตลาดหุ้นและ TFEX ขณะเดียวกันยังเชื่อมโอกาสการลงทุนใน GMS ด้วยการจัดทำและเผยแพร่รายชื่อหลักทรัพย์ที่มีการดำเนินธุรกิจในภูมิภาค GMS รวมถึงเดินหน้าสร้างความร่วมมือในการพัฒนาความรู้ตลาดทุนภูมิภาคนี้อย่างต่อ เนื่อง นอกจากนี้ ตลท. มีแผนร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในต่างประเทศเพื่อขยายการเติบโตในระดับ โลกอีกด้วย
    และ 4) พัฒนาระบบงานเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต โดย ตลท. จะเริ่มใช้ระบบชำระราคาใหม่ของตลาดหุ้นในปี 2558 และเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนหลักทรัพย์ทุกประเภทผ่านระบบออนไลน์ (Digital IPO) การรับและเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนระบบออนไลน์ เช่น Corporate Action


***ตลท. ศึกษาแผนเตรียมลดระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบเป็น (T+2) คาดเห็นความคืบหน้าในปี2558 ****

    ขณะเดียวกัน มีแผนศึกษาเตรียมพร้อมเพื่อลดระยะเวลาในการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ให้ สามารถดำเนินการได้ภายใน 2 วันทำการ (T+2) จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 วันทำการ (T+3)  ในส่วนนี้จะสร้างความรวดเร็วในการชำระเงินให้แก่นักลงทุน และการบริหารความเสี่ยงที่เร็วขึ้นสำหรับแผนดังกล่าว คาดว่าจะได้เห็นความคืบหน้าในปี2558

***การพัฒนาตลาดทุนระยะยาวปี 58 มุ่งพัฒนาตลาดทุนคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และมีบรรษัทภิบาลที่ดี****

    สำหรับการพัฒนาตลาดทุนระยะยาวปี 2558 มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และมีบรรษัทภิบาลที่ดี (ESG) โดยจัดทำและเผยแพร่บัญชีรายชื่อบริษัทดังกล่าว รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้เกิดความตระหนักให้ทั่วถึงในตลาดทุน รวมถึงส่งเสริมบริษัทที่มีศักยภาพให้ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ DJSI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมุ่งส่งเสริมความรู้ที่ถูกต้องให้แก่ผู้ลงทุนผ่านโครงการ ต่างๆ เช่น ห้องเรียนนักลงทุน เงินทองต้องวางแผน เป็นต้น


*** ตลท.ยังจะมีการจำลอง ตัววัดดัชนีที่คล้ายกับDow Jones Sustainability Indexes (DJSI)  ***

    อนาคตตลท.ยังจะมีการจำลองตัววัดดัชนีควาามยั่งยืน ที่คล้ายกับ  Dow Jones Sustainability Indexes (DJSI)   เพื่อให้บจ.ในระดับกลางมีโอกาสเข้ามาและมีกำลังใจมากขึ้นในการทำงานเพื่อ สังคม ส่วนบจ.ที่มีศักยภาพได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI ปัจจุบันมีอยู่ 10 บริษัท ได้แก่  PTT,PTTEP, PTTGC, IRCP, CPN, TUF, BANPU, SCG, TOP,MINT และอนาคตตลท.ยังจะสนับสนุนให้บจ.เข้า DJSI เพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนดีและมีองค์ประกอบทำงานเพิ่มสังคมและสิ่ง แวดล้อมอยู่ด้วย


***  ตลท. เตรียมย้ายไปอาคารใหม่ในช่วงปลายปี รองรับความเป็น Digital Exchange ****


    “ปี 2558 จะเป็นก้าวที่สำคัญของ ตลท. เพราะนอกจากจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 แล้ว ตลท. ยังเตรียมที่จะย้ายไปอาคารใหม่ในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบรองรับความเป็น Digital Exchange และเป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ตลาดทุนไทย เพื่อส่งเสริมความรู้การลงทุนให้กับผู้ลงทุนและสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่ม ต้นวางแผนการเงินการลงทุน และพร้อมขยายพื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการขยายตัวของธุรกิจ ตลาดทุนได้มากขึ้น” นางเกศรากล่าวเพิ่ม


---จบ---