Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ : NCL ฤกษ์ดี ลงสนาม 11 พ.ย. นี้

5,589

 


             สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 11 พฤศจิกายน   2557)------  "กิตติ พัวถาวรสกุล" แม่ทัพใหญ่ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์จำกัด (มหาชน) (NCL) ฤกษ์ดีเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11พฤศจิกายน 2557  พร้อมนำหุ้นไอพีโอ  จำนวน 95 ล้านหุ้น ราคาเสนอขาย 1.80 บาทต่อหุ้นลงกระดานเทรด   ด้าน FA มือฉมัง "วรชาติ ทวยเจริญ"  กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด  ชู   NCL มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก ด้วยธุรกิจที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ผนวกเข้ากับการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพจนเป็นที่ยอมรับจากลูกค้า  มั่นใจหุ้นกระแสตอบรับเยี่ยม 
ด้าน"ดร.ประสิทธิ์  ศรีสุวรรณ" บิ๊ก บล.แอพเพิล เวลธ์  มั่นใจหุ้นกระแสตอบรับเยี่ยม หลังนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นอย่างล้นหลาม ภายหลังจากเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  แย้มพื้นฐานธุรกิจแน่นปึ้ก-ราคามีส่วนลดสูงถึง 49.82%



**** มั่นใจมากน้อยแค่ไหนในการนำหุ้น NCL เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ( 11 พฤศจิกายน 2557 )


    ผมมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้น NCL ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ ( 11 พฤศจิกายน 2557 ) จะได้รับการตอบรับที่ดีและน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนที่จองซื้อ หุ้นได้  เนื่องจากที่ผ่านมากระแสตอบรับในช่วงโรดโชว์ระหว่างวันที่ 9-30 ตุลาคม 2557 นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก  และช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาเกินกว่าจำนวนหุ้น ที่เสนอขาย  เพราะมองเห็นแนวโน้มในอนาคตธุรกิจของ NCL ที่จะขยายตัวได้อีกมากเพราะถือเป็นหัวใจหลักที่สำคัญในการการสนับสนุนเติบโต ของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันเมื่อบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้นยิ่งทำให้ธุรกิจสามารถขยาย ตัวต่อไปได้มากขึ้นตามไปด้วย
    ขอให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นใน NCL ว่าคณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการบริหารงานให้ ธุรกิจของ NCL เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง  และหลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนเข้ามา จะทำให้ NCL มีศักยภาพและความแข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของการดำเนินธุรกิจและฐานะทางการเงิน ซึ่งก็คงจะสะท้อนไปในราคาหุ้น และเมื่อหุ้นเข้าซื้อขาย ผมมั่นใจว่า NCL จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้


***ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา

    รายได้รวมในช่วงที่ผ่านมาของบริษัทพบว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มให้บริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศและบริการขนส่งในประเทศ  ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายขอบเขตการให้บริการที่หลากหลายและครอบคลุม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร   โดยงวดปี 2554, 2555, 2556 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 511.40 ล้านบาท,727.85 ล้านบาท,935.91 และ 488.49 ตามลำดับ  ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 7.21 ล้านบาท,3.07 ล้านบาท,41.62 ล้านบาท และ 16.36 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งบริษัทจะยังเดินหน้าขยายธุรกิจ เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการในอนาคตเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
   



***ลักษณะการประกอบธุรกิจ
    เราให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์(Logistics provider)   โดย  แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักคือ การให้บริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศ และบริการขนส่งในประเทศ
    1.การให้บริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศ
    - บริการด้านการวางแผน, จัดหา และจองระวางเรือ/เครื่องบิน
    - บริการด้านพิธีการศุลกากร
    - บริการจัดหา, ประสานงาน และจัดการขนส่งในต่างประเทศ
    - บริการด้านคลังสินค้า
    2. การให้บริการขนส่งในประเทศ
    - บริการด้านการวางแผนและขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกหัวลาก-หางลาก โดยบริษัทมีรถบรรทุกหัวลาก-หางลากไว้บริการ 50 หัวและ 98 หาง
    - บริการด้านคลังสินค้า
    2537 – เริ่มให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ ระหว่างประเทศไทยกับทวีปสหรัฐอเมริกา
    2539 -2543 – ขยายเส้นทางการให้บริการสู่เอเชียและยุโรป
    2554 - เริ่มให้บริการขนส่งในประเทศด้วยรถบรรทุกหัวลากและหางลาก จำนวน 13 หัว 21 หาง
               - เปิดจุดให้บริการด้านเอกสารการส่งออกและนำเข้าที่ท่าเรือคลองเตย
    2555 - ตั้ง สำนักงานสาขาที่ อ. พุนพิน จ. สุราษฏร์ธานี
               - ซื้อ รถหัวลากและหางลากเพิ่มเป็น 41 หัว 78 หาง
               - บจก. เค-เอสเอ็มอี ร่วมลงทุนในบริษัท
    2556 - เพิ่มรถบรรทุกหัวลากและหางลากเป็น 51 หัว 98 หาง
               - แปรสภาพจากบริษัทเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
    2557 – เริ่มให้บริการจัดหาและบริหารจัดการคลังสินค้า
              - การมีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ และมุ่งมั่นในการให้บริการ
               - การพัฒนาคุณภาพในการให้บริการ
               - การให้บริการที่ครบวงจร
               - การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ
             - ศักยภาพในการบริหารจัดการต้นทุน


****กลยุทธ์ด้านการแข่งขัน***
1.บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ
2.คุณภาพการให้บริการ
3.ศักยภาพในการบริหารต้นทุน
4.บริการที่ครบวงจร
5.การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ

****โครงการในอนาคต****
โครงการ        :    ขยายธุรกิจขนส่งในประเทศ
การลงทุน        :    ซื้อรถบรรทุกหัวลากและหางลากเพิ่มจำนวนประมาณ 50-100 คัน
เงินลงทุน        :    ประมาณ 160-270 ล้านบาท
วัตถุประสงค์    :    รองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าเดิม และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่จะผ่านประเทศไทยภาย หลัง AEC
สถานที่        :    จุดบริการที่จังหวัดสงลา และจังหวัดอุดรธานี
โครงการ        :    ขยายสำนักงาน
การลงทุน        :    ซื้ออาคารสำนักงานใหม่ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับสำนักงานใหญ่เดิม
เงินลงทุน        :    ซื้อที่ดินและอาคาร 60.00 ล้านบาท(ซื้อแล้ว)
วัตถุประสงค์    :    รองรับการเติบโตและการขยายงานในอนาคต
โครงการ        :    เพิ่มจุดให้บริการธุรกิจจัดการขนส่งระหว่างประเทศ
การลงทุน        :    อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการลงทุน
วัตถุประสงค์    :    เพิ่มช่องทางการนำเสนอบริการแก่ลูกค้า
สถานที่        :    กลุ่มประเทศอาเซียนและตะวันออกกลาง



****โครงสร้างเงินทุน

    -โครงสร้างเงินทุนของบริษัทประกอบด้วยหนี้สิน ประมาณร้อยละ 60-80 และส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณร้อยละ 20-40 ของโครงสร้างเงินทุนรวม
    -บริษัทใช้เงินกู้ยืมระยะสั้นเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนหลักในธุรกิจรับ จัดการขนส่งระหว่างประเทศ และใช้การกู้ยืมตามสัญญาเช่าการเงินในการลงทุนในรถหัวลาก-หางลาก
    -การได้รับเงินเพิ่มทุนและส่วนเกินมูลค่าหุ้น รวม 80 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงจาก 5.06 เท่า เป็น 1.97 เท่า ในปี 2555


****จุดเด่นของ NCL
    -ประสบการณ์กว่า 18 ปีด้านโลจิสติกส์
    -เชี่ยวชาญทุกเส้นทางการค้าหลักของโลก
    -กลุ่มลูกค้าหลากหลายและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
    -เปิดประตูสู่ลูกค้าใหม่ด้วยบริการที่ครงวงจร
    -ศักยภาพที่เพิ่มขึ้นจากการ IPO


***ช่องทางจัดจำหน่าย****

    1. ติดต่อลูกค้าโดยตรง
    2. ลูกค้าติดต่อผ่านเวปไซด์ www.nclthailand.com
    3. จากการแนะนำของพันธมิตรทางการค้าของบริษัท
    4.ประชาสัมพันธ์โดยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ
    1. การขยายธุรกิจขนส่งในประเทศ
    - เปิดจุดบริการรับส่งสินค้าเพิ่มอีก 2 แห่งที่ จ.สงขลา และจ.อุดรธานี ภายในปี 2558
    - ลงทุนในรถบรรทุกหัวลากประมาณ 50-80 คันและหางลากประมาณ 50-100 คัน ภายในปี 2558
    2. การขยายสำนักงาน
    - รองรับการเติบโตและการขยายงานในอนาคตของบริษัท
-     ซื้อที่ดินและอาคารแล้ว คาดว่าจะเริ่มเข้าใช้อาคารได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2558
    3. เพิ่มจุดให้บริการในต่างประเทศ
    - เน้นที่กลุ่มประเทศอาเชียนและกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง

***สัดส่วนรายได้ แบ่งเป็นดังนี้****

    - รายได้จากการให้บริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศ สัดส่วนประมาณร้อยละ 85-90 รายได้จากการขนส่งในประทศ สัดส่วนประมาณร้อยละ 10-15
    - รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งสองกลุ่มธุรกิจโดยอัตราการเติบโตเท่ากับร้อย ละ 43.15, ร้อยละ 27.95 และร้อยละ 11.71 ในปี2555, 2556 และ 6M57
    - สินทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องโดยส่วนประกอบหลักได้แก่ ลูกหนี้การค้า และรถบรรทุกหัวลาก-หางลาก
    - บริษัทใช้เงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินเพิ่มทุนเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนใน ธุรกิจรับจากการขนส่งระหว่างประเทศ และใช้การทำสัญญาเช่าการเงินในการลงทุนในรถบรรทุกหัวลาก-หางลาก
    - อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงจาก 5.06 เท่าในปี 2554 เป็น 1.98เท่า ณ 30 มิ.ย. 57 จากการเพิ่มทุนและผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น 
    - อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับร้อยละ 18-21 และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับร้อยละ 3-4
    - ปี 2556 อัตรากำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้รับงานที่มีอัตรากำไรสูง และมีการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
    - 6M57 อัตรากำไรลดลงเล็กน้อย เนื่องจากลูกค้ามีการใช้บริการต่างๆ แบบครบวงจรเพิ่มขึ้น และงานที่มีอัตรากำไรสูงชะลอตัวจากความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ

***มุมมอง NCL จาก FA ฝีมือดี 

    นายวรชาติ ทวยเจริญ  กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ NCLกล่าวว่า NCL มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก ด้วยธุรกิจที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ผนวกเข้ากับการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพจนเป็นที่ยอมรับจากลูกค้า  อีกทั้งผลการเปิดให้จองซื้อหุ้นในช่วงที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับดีมาก ดังนั้นจึงทำให้มั่นใจว่าเมื่อหุ้น NCL เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและให้ผลตอบแทนที่น่าประทับใจ ให้กับผู้ลงทุน

***มุมมองฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ NCL

    ดร.ประสิทธิ์  ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ NCL คาดว่าเมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่  11 พฤศจิกายนนี้ น่าจะประสบความสำเร็จและให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน  เนื่องจากมีการกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาดหลัก ทรัพย์mai ในปัจจุบัน  โดยให้ส่วนลดกับนักลงทุนถึง 49.82% เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (18 ต.ค. 56- 17 ต.ค. 57)
    NCL ยังเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งบริการครบวงจร มีประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์มากว่า 18 ปี มีความเชี่ยวชาญทุกเส้นทางการค้าหลักของโลก รวมทั้งมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผนวกกับศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสมโดยให้ส่วนลดกับนักลงทุน จะทำให้หุ้น NCL  จะได้รับความเชื่อมั่นและสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนทั้งกับผู้ที่จองซื้อหุ้น IPO และผู้ที่เข้ามาลงทุนหลังจากที่หุ้นเข้าซื้อขายไปแล้ว 
    ผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้ง แรก (IPO) จำนวน 95 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขาย 1.80 บาทต่อหุ้น ปรากฏว่านักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นอย่างล้นหลาม ภายหลังจากเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยหุ้น NCL จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11พฤศจิกายน 2557
    NCL ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดให้จองซื้อ หุ้นไอพีโอ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานดี ประกอบกับมีความได้เปรียบในการแข่งขันที่สูง เนื่องจากบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์มากว่า 18 ปี ทีมงานล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ ที่สำคัญอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ถือเป็นหัวใจหลักที่สำคัญในการการสนับสนุนเติบ โตของเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ดังนั้นคาดว่าเมื่อหุ้น NCL เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ จะได้รับการต้อนรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน

---จบ---
By:ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้