แม่ทัพหญิง "นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ" ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอก เดค-คอน(BKD) เปิดมุมมองธุรกิจ BKD พร้อมฝ่าวิกฤตมรสุมการเมือง เศรษฐกิจ ย้ำ"สภาพคล่อง ตอนนี้เหลือเฟือ ตอนนี้มีอยู่ราวๆ 300 ล้านบาท แม้มีวิกฤตอย่างไรก็ไม่กระทบ เราเองบริหารงานจัดการภายในเป็นอย่างดี" แถมตุนงานในมือราว2 พันล้านบาท.....เชิญอ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆๆ ได้เลยคะ
***หลังจากเข้าซื้อขายในกระดานมาแล้ว 4-5 เดือนเป็นอย่างไรบ้าง****
หลังจากเรานำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น มีข้อดีหลายอย่าง อาทิ ทำให้ BKD หางานได้ง่ายขึ้น และมีลูกค้าที่เข้ามาหาเราเอง ซึ่งหากเป็นสมัยก่อนที่จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดนั้น เราต้องพรีเซ็นต์มาก แต่เมื่อเรานำหุ้น BKD เข้ามาซื้อขาย ทำให้เป็นที่รู้กับต่อลูกค้ามากขึ้น และข้อดีที่เห็นได้ คือ การรับงานจากลูกค้าก็ง่ายขึ้นตามไปด้วย อาทิ เช่นงานที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยงานที่เราเซ็นสัญญาไปนั้นกว่า 200 ล้านบาท
สาเหตุที่ BKD ตัดสินใจรับงานที่ จ.อุดร เนื่องจากเราสามารถที่จะบริหารจัดการต้นทุนได้ดี การขนส่ง การเดินทาง ทำให้การบริหารจัดการคอรสของบริษัทดีขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกที่นี้
****โครงสร้างการถือหุ้นของ BKD ตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง (ก่อน IPO มีเสี่ยปู๋ เข้ามาถือหุ้นด้วย) ****
ก่อนเข้าตลาด เราจะเห็นว่ามีนักลงทนุรายใหญ่ (เสี่ยปู๋) เข้ามารวมถือหุ้น IPO ด้วย ส่วนตอนนี้ต้องรอการปิดสมุดบัญชีหุ้นอีกครั้งถึงจะทราบ ซึ่งการเข้ามาของเสี่ยปู๋ ช่วง IPO ถือเป็นการลงทุนของนักลงทุน และมีมุมมองที่ดี
อนึ่ง สัดส่วนการถือหุ้น ณ 20 9/ 2556
ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1. กลุ่มครอบครัวรัตนสุวรรณชาติ 515,000,000 73.57
2. นายอรรณพ ลิ้มประเสริฐ 20,000,000 2.86
3. นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 20,000,000 2.86
4. นางวรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล 20,000,000 2.86
5. นางสาวอรุณี มนตรีกุล ณ อยุธยา 11,600,000 1.66
6. นางสาวนิสิตา สิงห์สา 8,780,000 1.25
7. นายบุญรัตน์ เอื้อสุดกิจ 8,100,000 1.16
8. นางสาวปราณี เจริญชีวินทร์ 6,000,000 0.86
9. นายโชติวัต ดั่นธนสาร 4,200,000 0.60
10. นางวิยดา พวงไพโรจน์ 4,000,000 0.57
***ที่ผ่านมามีนักลงทุนเข้ามา Coompany Visit บ้างไหม***
ในช่วงก่อนหน้านี้ เราก็มีนักลงทุนเข้ามา Visit บริษัท ทั้งนักลงทุนที่ยังไม่หุ้นของบริษัท และนักลงทุนที่มีหุ้นของบริษัทแล้ว โดยส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจกับธุรกิจบริษัท ซึ่งเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน มีนักลงทุนเข้าเยี่ยมบริษัทเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนแบบ VI โดยมากันราว 20 คน และมีกลุ่มนักลงทุนที่มาจาก สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย thai investor อีกจำนวนหนึ่ง
***ขอย้อนกลับไปถามเรื่องงานในมือ ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง***
ตอนนี้ งานในมือ หรือ backlog ณ สิ้น ปี 2556 มีเกือบ 2 พันล้านบาท โดยทยอยรับรู้ตามมูลค่าของโครงการ
ในปีก่อน งบของเราพลาดเป้าไปพอสมควร เพราะมีหลายโครงการที่ล่าช้า งานบางแห่งดีเลย์ออกไป จากเดิมที่คาดจะเริ่มได้ก็ชะลอ ออกไป ขณะที่บางไซด์งานก็ เข้าไปดำเนินการก่อสร้างไม่ได้ การก่อไม่เสร็จตามที่เคยวางแผนเอาไว้ อาทิเช่น งานโครงการที่โรงงานยาสูบ ซึ่งหากคิดคร่าวๆ จะมีงานทีดีเลย์ราว 3-4 โครงการ ซึ่งก็ทำให้เรากระทบเช่นกัน การรับรู้ก็เลยล่าช้าไปด้วยในปีก่อน
***สถานการณ์การเมืองในประเทศตอนนี้ กระทบกับ BKD มากน้อยเเค่ไหน****
ตอนนี้ก็ยังมีงานที่จะออกมาประมูลอีกเยอะพอสมควรนะ ซึ่งในช่วงนี้ก็อาจจะมีผลกระทบบ้างนิดหน่อย แต่เราเองยังมีงานที่เซ็นสัญญากับทาง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานตกแต่ง พร้อมการก่อสร้าง
***สภาพคล่องทางการเงินของ BKD เป็นอย่างไรบ้าง****
สภาพคล่อง ตอนนี้เหลือเฟือ ตอนนี้มีอยู่ราวๆ 300 ล้านบาท แม้มีวิกฤตอย่างไรก็ไม่กระทบ เราเองบริหารงานจัดการภายในเป็นอย่างดี ตอนนี้เองก็มีการดูแลการจัดการระบบภายใน ให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด
***มีนโยบายรัดเข็มขัดหรือไม่ในภาวะแบบนี้***
ไม่ต้องกังวล เพราะเราเองมีนโยบายรัดเข็มขัด เนื่องจากเห็นว่า หลายๆ หน่วยงานเริ่มมีงานออกมาลดน้อยลง ซึ่ง BKD เองจะเน้นไปรับงานเอกชนลดน้อยลง เหลือ 30% โดยเราจะหันมาเน้นงานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น เพราะงานรัฐส่วนของภาครัฐยังไง ก็ยังคงต้องมีงบประมารประจำปีในทุกๆ ปี ซึ่งก็ค่อนข้างมั่นคงมีการจ่ายเงินอย่างชัดเจน
เราเองคาดว่าจะมีงานประมูลราวหลายพันล้านบาท หากถามเราว่าต้องการจะชนะประมูลเท่าไหร่ เราเองก็หวังที่จะชนะการประมูลทั้งหมดอยู่แล้ว...(แอบอมยิ้ม)
***งานในประเทศซาอุดิอาระเบีย มูลค่าราว 1,000 ล้านบาท คืบหน้าเป็นอย่างไรบ้าง***
งานที่ซาอุดิอารเบียนั้น ก็คืบหน้าไปด้วยดี
อนึ่ง บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรในประเทศ ชื่อ บริษัท รีโออินเตอร์ จำกัด เข้าไปรับงานตกแต่งภายในโรงแรม ระดับสูงกว่า 5 ดาว ในประเทศซาอุดิอาระเบีย มูลค่า 1,000 ล้านบาท เริ่มงานกลางปี 2557 และทยอยรับรู้รายได้กลางปี2557 ถึงกลางปี 2558 ซึ่งยังไม่รวมอยู่ใน Backlog 2,000 ล้านบาท
***ถ้าหากพันธมิตรที่ ซาอุดิอาระเบีย สนใจเข้ามาถือหุ้นของ BKD เราเปิดโอกาสให้หรือไม่***
เราก็เปิดโอกาส
จริงๆ แล้วพันธมิตรของเรามีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักกันในวงการอยู่แล้ว ซึ่งงานระดับบิ๊กๆ ในวงการ มักจะได้รับโอกาสเข้าไปดำเนินงานโครงการ ซึ่งถือว่าเป็นระดับ 1 ในแถบMiddle East หรือ ในตะวันออกเฉียงใต้
***เจอพันธมิตร รายนี้ได้อย่างไร ****
จริงๆๆ เค้ามีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว และพอ BKD จดทะเบียนเป็น มหาชน ก็ยิ่งทำให้การรู้จัก และรับงานง่ายขึ้น
พันธมิตรรายนี้ ชวนเราไปจดทะเบียนที่นั้น แต่เรามองว่าตอนนี้ยังไม่จำเป็นถึงขั้นต้องเข้าไปจดทเะบียนที่นั้น เบื้องต้นเราคิดว่าเป็นลักษณะการเข้าไปรับงาน น่าจะเหมาะสมกว่า
***กังวลหรือไม่เข้าไปรับงาน ที่ ซาอุดิอาระเบีย***
ไม่ได้กังวล การเข้าไปที่ดูไบ.....เรามีประสบการณ์มากขึ้นทำงานด้วยความระมัดระวัง เราจะเริ่มเห็นช่วงเดือน มิ.ย. 2557 และจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางปี 2557 และรับรู้ทัน 3-4 ปีนี้ แบบสบายๆๆ ซึ่งลักษณะการดำเนินงานเป็นการผลิตของส่งทางเรือ
***สนใจเข้าไปถือหุ้นของพันธมิตรซาอุดิอาระเบีย หรือไม่
เบื้องต้นยังไม่ได้มีการเข้าไปถือหุ้น ตอนนี้เป็นลักษณะการรับจ้างไปก่อน
***กลับกัน พันธมิตรซาอุดิอาระเบีย สนใจเข้าถือหุ้นของ BKD หรือไม่
ถ้าเค้าสนใจถือหุ้นเราก็เปิดโอกาสให้เข้าถือหุ้น
***เรื่องเงินทุน เรากังวลหรือไม่
เรื่องเงิน เรามีสบาย เรื่องการบริหารเราก็ดี
**ปีนี้ผลการดำเนินงานแนวโน้มเป็นอย่าไรบ้าง****
เราเชื่อว่า ทั้งกำไร และรายได้จะทำลายสถิติ เพราะตอนนี้จากที่เห็นงานในมือ ก็เกินแล้ว ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่าทั้งปีนี้ ส่วนของรายได้และกำไรแนวโน้มเติบโตมาก
***เมื่อดีทุกอย่าง เรามีอะไรเซอร์ไพร์ส นักลงทุนไหม****
เรารับรู้รายได้เป็นไปตามการรับรู้งานโปรเจค ซึ่งหากจะถามว่าเราอยากที่จะจ่ายปันผลหรือไม่ เราก็อยากจ่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอคณะกรรมการของบริษัทฯ อนุมัติประกอบด้วย
***เมื่อทุกคนอยากได้งาน เรากังวลเรื่องสงครามราคาหรือไม่***
จริงๆ อาชีพเรา ต้องใช้คนที่มีประสบการณ์ มีผลงาน โดยคู่แข่งเรามีจำนวนไม่มากนัก มีบริษัทใหญ่ๆ ราว 5-6 รายเท่านั้นและลักษณะของธุรกิจของเรา ที่ดำเนินงานแบบ BKD มีอยู่ในตลาดบริษัทเดียว
***มีแผนไปซื้อกิจการใครเพิ่มหรือไม่**
ตอนนี้เราก็ดีอยู่แล้ว ซึ่งหากต้องไปซื้อกิจการ ก็ต้องมองบริษัทที่จะเข้ามาช่วยเราในส่วนที่ยังไม่ได้
***นโยบายปันผลของ BKD ***
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย
--จบ---
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68