Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

Interview : PLANET ปักหมุดรายได้ปี 61 โต 20% แตะ 800 ลบ. ระบุหากรายได้เข้าเป้า เล็งกลับมาจ่ายปันผล

11,620

แมกกาซีนหุ้นอินไซด์ (21 สิงหาคม 2561)

PLANET ปักหมุดรายได้ปี 61 โต 20% แตะ 800 ลบ. ระบุหากรายได้เข้าเป้า เล็งกลับมาจ่ายปันผล เตรียมยื่นซองประมูลงาน กฟภ. มูลค่า 2 พันลบ. ลุ้นได้งาน 20-25% ,ปัจจุบันตุน Backlog 200 ลบ. ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจากนี้ ดันสัดส่วนรายได้งานบริการแตะ 50% จากเดิม 20% หลังมาร์จิ้นสวย รุกบริการ อินเตอร์เน็ต ไฟเบอร์ ตั้งเป้ามีลูกค้า 10,000 ราย จากปัจจุบัน 2,000 ราย 

 

 


นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) PLANET เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโต20% มาอยู่ที่ระดับ 800 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 681.17 ล้านบาท ซึ่งหากรายได้เติบโตตามเป้าบริษัทฯ เชื่อว่าภาพรวมทั้งปีนี้น่าจะกลับมามีกำไรสุทธิ และสามารถกลับมาจ่ายปันผลในงวดปี 2561 ได้ โดยประเมินทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีงานเพิ่มทั้งจากงานบริการ และงานโครงการที่บริษัทฯ เตรียมตัวจะยื่นประมูลภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเบื้องต้นบริษัทฯ จะเข้าร่วมประมูลงานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่คาดเปิดซองประมูลได้ภายในปีนี้ โดยงานดังกล่าวมูลค่างานประมาณ 2,000 ล้านบาท คาดหวังจะสามารถประมูลงานได้ราว 20-25% ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 200 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้อย่างต่อเนื่อง

 

" ถ้าเราได้ตัวเลขโต 20% เราก็คาดจะสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ เพราะเหลืออีก 2 ไตรมาส ผมเชื่อว่างงานที่จะเข้ามาเพียงพอที่จะให้เรามีกำไรซึ่งถ้าเราโต 20% ก็มีแนวโน้มว่าเราจะมีกำไรได้" นายประพัฒน์ กล่าว

 

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ปีนี้คาดว่า 80% จะมาจากงานขายผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมโทรคมนาคมแบบครบวงจร ทั้งระบบการสื่อสารแบบไร้สาย (Wireless Network) ระบบการสื่อสารแบบโครงข่ายสัญญาณ (Wired Network) ระบบมัลติมีเดีย (Multimedia) รวมทั้งระบบถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์และดิจิทัลทีวี (Broadcast Digital TV) ส่วนที่เหลือ 20% มาจากงานบริการ ซึ่งประกอบด้วยการทำสัญญาบำรุงรักษา ,การติดตั้งระบบ , การบริการ อินเตอร์เน็ตไฟเบอร์(ให้บริการขายอินเตอร์เน็ต) ซึ่งเป็น B2C (Business-to-Consumer ) ที่จะผลักดันให้บริษัทฯ เติบโต โดยปัจจุบันบริษัทฯ เดินสายไฟเบอร์ แล้วทั้งหมด 60 ตึก รวมห้องที่สามารถให้บริการได้ 50,000 ห้อง แต่ปัจจุบันบริษัทฯ ยังมีลูกค้าอยู่ประมาณ 2,000 ราย จึงคาดว่ายังมีโอกาสที่จะผลักดันการเติบโตของรายได้จากส่วนนี้ได้ โดยตั้งเป้ามีลูกค้า 10,000 ราย ซึ่งหากคิดเป็นรายได้เฉลี่ยเดือนละ 800 บาท จะส่งผลให้บริษัทฯ จะมีรายได้ 8 ล้านบาทต่อเดือน

 

 

อีกทั้งยังมีบริการใหม่ที่ชื่อว่า PLANET Cloud (Cloud Office Mange Service) โดยเจาะกลุ่มลูกค้าสำนักงาน เพื่อให้บริการวางระบบสื่อสาร ติดระบบทั้งระบบคอมพิวเตอร์ , เซิร์ฟเวอร์, กล้องวงจรปิด (CCTV) ,WIFI ซึ่งตามปกติลูกค้าจะต้องซื้อ แต่บริษัทฯ มีการเปลี่ยนโมเดลจากการซื้อมาเป็นให้เช่าแทน รวมทั้งยังมีการบริการดูแลระบบให้หลังการขาย ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าเข้ามาสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มขายลูกค้ากลุ่มราชการได้ หลังจากเปิดบริการมาได้ประมาณ 1 ปี โดยลูกค้ามีทั้งราชการและเอกชน และขณะนี้ภาคเอกชนเริ่มมีลูกค้าประมาณ 4-5 ราย

 

"PLANET Cloud เราเริ่มมาปีกว่าแล้ว ผลตอบรับก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราเริ่มขายราชการได้ และงานราชการล่าสุดเรากำลังยื่นประมูลอยู่มูลค่าประมาณ 45 ล้านบาท รายได้เดือนละ 7-8 แสนบาท ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งข้อดีการขายบริการเป็นการทำสัญญาระยะยาว และยังมีรายได้ที่เป็น Recurring ด้วย " นายประพัฒน์ กล่าว

 

นายประพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่บริษัทฯ เปลี่ยนโมเดลธุรกิจโดยหันมาเน้นงานบริการมากขึ้น เนื่องจากงานบริการเป็นการทำสัญญาระยะยาว และยังสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯ ได้อย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income) ขณะเดียวกันลูกค้าสามารถเช่าระบบ จากเดิมที่ลูกค้าต้องซื้อระบบ ซึ่งได้มาร์จิ้นที่ดีกว่าด้วย อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีความหลากหลาย และมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยเทคโนโลยี One step ahead เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเทคโนโลยีของบริษัทฯ เอื้อกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และยังรองรับ Smart City ดังนั้นบริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสการเติบโตจากกงานบริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจากนี้ จะผลักดันสัดส่วนรายได้ธุรกิจบริการ เพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปีนี้คาดอยู่ที่ 20%

 

 

"ภายใน 3 ปี จากนี้เราอยากให้รายได้จากการให้บริการขึ้นมาอยู่ที่ 50% เพราะอย่าง IBM เมื่อก่อนเคยเป็นบริษัทที่ขายคอมพิวเตอร์เยอะ สัดส่วน 70% ขายเครื่อง 30% ขาย Service วันนี้กลับหัวขายเครื่อง 30% ขายบริการ 70% เพราะเป็นรายได้ที่มั่นคงกว่า ไม่มีต้นทุน มีแค่เรื่องคนอย่างเดียว ตอนนี้เราก็กำลังเร่งเพิ่มตัวเลขการขายบริการอยู่ ตัวขายสินค้าอาจจะไม่โต แต่จะรักษาไว้เท่าเดิม แต่จะไปโตที่การขายบริการ เรามองว่าด้วยภาวะ Disruptions เทคโนโลยีที่เขาพูดถึงกัน เชื่อว่าการขายของจะยากขึ้นทุกที ประมูลงานก็จะยากขึ้น มาร์จิ้นก็น้อย แต่ว่าถ้าขายบริการเรายังมีพื้นที่ให้โต ซึ่งถ้าแยกสัดส่วน ขายบริการเรา 20% ถ้าเรา Forecast ปีนี้เราโตจากปีที่แล้ว 20% ปีที่แล้ว 600 ล้านบาท ปีนี้เราตั้งเป้า 800 ล้านบาท เป็นค่าบริการประมาณ 200 ล้านบาท และงานขายสินค้า 600 ล้านบาท อีก 3 ปีข้างหน้าถ้าการสินค้าไม่โตเลย ค่าบริการต้องเพิ่มอีก 200 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท ก็เป็น 1,200 ล้านบาท เราจะเน้นไปตัวในส่วยของงานบริการมากกว่า" นายประพัฒน์ กล่าว

 

ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มระบบสื่อสารโทรคมนาคม รวมทั้งผลิตภัณฑ์สื่อสารเทคโนโลยีชั้นสูงที่ออกแบบ พัฒนา ประกอบตามความต้องการของลูกค้า ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มสตาร์ทอัพ "เรามีระบบ IOT หรือระบบ Internet Of Thing ยกตัวอย่งเช่นเซ็นซอร์ประตูทั้งหลาย มาตรวัดมิเตอร์น้ำ ซึ่งปกติคนต้องไปจด แต่อันนี้ไม่ต้องจด ซึ่งตัวนี้น่าจะเข้ามาเร็วๆ นี้ และจะเป็นตัวตื่นเต้นอีกตัวหนึ่ง , ระบบป้องกันการโจรกรรม และ IOT ยังเอาไปใช้ใน Smart City ใช้ IOT ในการควบคุมทุกอย่าง เช่นที่จอดรถ รวมทั้ง Smart Health , Video Conference " นายประพัฒน์ กล่าว

 

 

 

นายประพัฒน์ กล่าวถึงจุดแข็ง PLANET ว่าบริษัทฯเป็นเจ้าของเทคโนโลยีเอง และเทคโนโลยีมีความล้ำสมัย โดยมีแนวคิดว่า "One step ahead" ต้องก่อนคนอื่นหนึ่งก้าว และมีทีมช่วงผู้ชำนาญ มีประสบการณ์ ทุกอย่างตั้งแต่ติดตั้งจนถึงบริการหลังการขาย จึงมองว่างานที่จะทยอยออกมาในอนาคตบริษัทฯ มีโอกาสที่จะชนะพอสมควร ซึ่งขณะนี้งานโครงการของภาครัฐ อาทิ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีออกมาจำนวนมาก

 

ส่วนการเปลี่ยนชื่อจาก บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PCA เป็นบริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) PLANET เนื่องจากมองว่าชื่อใหม่จะสามารถจดจำได้ง่ายกว่า ประกอบกับชื่อเดิมของบริษัทฯ ชื่อแพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น อยู่แล้ว จึงมองว่าชื่อเดิมอาจจะไม่ Represent ตัวบริษัทฯ มากนัก

 

 

สำหรับราคาหุ้น PLANET ในปัจจุบัน ยอมรับว่าราคาค่อนข้างต่ำ ซึ่งมองว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างจะสะท้อนให้เห็นถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มีผลขาดทุนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการขาดทุน เนื่องจากภาวะอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เกิดการหยุดชะงัก (disruptions) ทำให้ยอดขายลดลง อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯ สามารถสร้างผลประกอบการให้เติบโต และมีการจ่ายปันผล เชื่อว่าราคาหุ้นก็จะเป็นตัวสะท้อนเอง

 

"ที่เรามาสะดุด เพราะ Disruptions คนซื้อของน้อยลง เมื่อก่อนเราขาย 1,000 ล้านบาท ลดลงมาเหลือ 800 ล้านบาท 600 ล้านบาท เพราะตัวเลขการขายของชะลอตัวลง อีกอย่างรัฐบาลมีการปฎิวัตติด้วย ตัวเลขการซื้อขายก็ลำบาก ปีแรกเรากำไร ปีที่ 2 ขาดทุน ปีที่ 3 ขาดทุน เราไม่รังเกียจที่ราคาหุ้นมันต่ำนะ เพราะมันเรื่องจริง เรามีหน้าที่ทำผลประกอบการ ทำให้มีปันผล มันก็จะขึ้นเอง แต่การที่เราจะพยายามทำสตอรี่เพื่อดันหุ้นขึ้นมันคงไม่ดี และอีกอย่างคนที่ถือหุ้น PLANET อยู่เป็นลูกค้าเราทั้งนั้น ซึ่งราคาถึงแม้จะต่ำ แต่ก็ซื้อไม่ได้นะ เพราะไม่มีใครขาย หน้าที่เราตอนนี้คือต้องเอาเทคโนโลยีใหม่มา และต้องขาย Service เยอะๆ" นายประพัฒน์ กล่าว

 

By : สุกัญญา ศิริรวง

 

PLANET

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นใหญ่ มีแรง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองเห็นหุ้นใหญ่หลายตัว เริ่มมีแรง มีเรี่ยวแรง กำลังวังชาอีกครั้ง เมื่อต่างชาติ เลี้ยวรถ ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้