Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ : EUREKA เล็งส่ง โฮลดิ้ง สิงคโปร์ กินรวบ เวียดนาม-อินเดีย-อินโดนีเซีย

3,815

 


        ฮอต จนตามหาตัวได้ยากส์ กับ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "นรากร ราชพลสิทธิ์"กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูเรกา ดีไซน์ หรือ ชื่อที่ใช้ในการซื้อขายในกระดานหุ้นว่า EUREKA  หลัง ส่ง IPO ลงกระดานเทรด1 มี.ค. 56  สเต๊ปต่อไปของผู้บริหารไฟแรง คือ ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ ล่าสุดเล็ง ตั้ง "ยูเรกา ดีไซน์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ซึ่งเป็นโฮลดิ้งใน สิงคโปร์  กินรวบ บริษัทย่อยใน เวียดนาม-อินเดีย-อินโดนีเซีย  พร้อมคำราม เป้า 3 ปี (56-58)รายได้โตปีละ30% แตะ 680 ลบ.ในปี 58 ส่วน EBIDA แตะ20% ส่วนปีนี้คาดทำได้400ลบ.ตามเป้า /แย้มอัตรากำไรสุทธิเป็นเลข 2หลัก หลังโค้งแรกปีนี้ทำได้แล้ว 15.7% ..........บอสใหญ่ ทิ้งท้ายว่า  "เดิมเราตั้งบริษัทนี้เเรก คิดว่าเป็นบริษัทเล็ก ไม่ใหญ่โตมากนัก และน่าจะมีเวลาให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น แต่มาถึงวันนี้" ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก"เราก็พร้อมที่จะดำเนินงานที่ดีต่อไป............ เชิญ อ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆๆๆได้เลยคะ

**** ฉายภาพแผนการบุกสู่ต่างประเทศของ EUREKA****
        เรา เตรียมที่จะจัดตั้ง บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปะนี ที่ประเทศสิงคโปร์ ในเดือน ก.ย. นี้ โดยมียูเรก้า ไทยถือหุ้น 100% โดยโฮลดิ้งดังกล่าวจะมีเป้าหมาย เพื่อดูแลบริษัท ยูเรก้า ดีไซน์ ที่จะจัดตั้งในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม อินเดีย และ อินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทในอินโดนีเซีย คาดว่าจะจัดตั้งได้ในวันที่ 1 เม.ย. 57 ขณะที่ บริษัทในอินเดียและเวียดนามได้จัดตั้งแล้ว 

***เหตุผลที่ไปตั้ง บริษัท โฮลดิ้ง ในประเทศ สิงคโปร์ ***
        เราจะได้ประโยชน์ด้านภาษี ซึ่งทีมที่ปรึกษาอยู่ระหว่างดำเนินการในการศึกษากฏหมายต่างๆ 

***สัดส่วนรายได้ต่างประเทศ ขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับเท่าใด หากขยับสู่ตลาดต่างประเทศตามแผน ***
        บริษัทฯ คาดในปี 58 สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะอยู่ที่ 30% จาก ปีนี้ที่ 12-15% 

***มองการเติบโตของตลาดในต่างประเทศอย่างไรบ้าง***
        บริษัท จะไปเปิดสาขาในอินโดนีเซีย เนื่องจากมองเห็นโอกาสเติบโตในธุรกิจ เพราะประเทศอินโดนีเซียถือว่าเป็นตลาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจด้วย 

****ตลาดในประเทศยังน่าสนใจอยู่หรือไหม***

        เรา ก็ยังมองว่าตลาดในประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากตามอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ขยายตัว ทำให้สัดส่วนรายได้ยังมาจากในประเทศเป็นหลัก แต่การขยายการลงทุนไปต่างประเทศ ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยง ในความผันผวนของเศรษฐกิจในปัจจุบัน

***การแข่งขันของบริษัทในต่างประเทศ จะกระทบกับแผนของ EUREKA หรือไม่ ***
        เรื่อง การแข่งขันกับบริษัทท้องถิ่นในแต่ละประเทศนั้น เราเชื่อมั่นว่าจะะสามารถแข่งขันได้ เพราะบริษัทในท้องถิ่นยังมีบริการ และคุณภาพของสินค้าในระดับต่ำเมื่อเทียบกับของ EUREKA ที่ ทำระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเดิมจะมีระดับ Hi  และ Low แต่ของบริษัทฯจะอยู่ระดับกลางๆ ซึ่งจะเป็นสินค้าที่ราคาไม่สูงนัก แต่เน้นหนักไปในด้านของคุณภาพสินค้า เมื่อเทียบเท่ากับคู่เเข่งในตลาด เราเชื่อว่าเราได้เปรียบ
        ดีมานด์อยู่ในระดับสูง แต่ซัพพลายอยู่ในระดับต่ำ เรามองเห็นโอกาสตรงนี้

***วางเป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯ อย่างไรบ้าง***
        บริษัทฯ วางแผนการเติบโต 3 ปี (ปี2556-2558) รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 30% โดยคาดในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นในปี2557 มาอยู่ที่ 520 ล้านบาท และในปี2558 รายได้ของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 680 ล้านบาท ขณะที่ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIDA) ในปีนี้อยู่ที่ 16% และในปี2558 ขยับมาอยู่ที่ 20% 

***ลักษณะธุรกิจ***                         
        ให้ บริการออกแบบและผลิตเครื่องจักร สำหรับการประกอบและทดสอบชิ้นส่วนยานยนต์ และอุปกรณ์จับยึดสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งการปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมเครื่องจักรเดิมและการจัดหาอุปกรณ์และวัสดุ สิ้นเปลืองให้ลูกค้า

***การเติบโตของแต่ละไตรมาส***

        เดิม ในปีก่อน ในไตรมาสแรกผลการดำเนินงานเติบโตดี แต่พอเข้าไตรมาส2 ด็อบลงมา ซึ่งเราเองเดิมไม่ได้วางแผนที่จะเฉลี่ยการรับรู้รายได้จากงานให้เท่าๆๆกัน ทุกไตรมาส จึงทำให้ในบางไตรมาสรายได้เราสูง และในบางไตรมาส รายได้เราค่อนข้างต่ำ แต่ในปีนี้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาก็จะมีการปรับโครงสร้างระบบการทำงานใหม่ รวมทั้งระบบการรับรู้รายได้ใหม่ ซึ่งจะทำให้ปีนี้และต่อๆ ไปในแต่ละไตรมาสจะเติบโตเฉลี่ยเท่าๆ กัน ไม่มีไตรมาสใดที่จะสูงสุด หรือ ต่ำสุด จะเป็นการเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาสทั้งปี

***ลูกค้ารายใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ มีกี่ราย วางนโยบายรับลูกค้าใหม่ไว้อย่างไรบ้าง***

        ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามา 1 ราย คือ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) STANLY มีมูลค่างานประมาณ 4-5 ล้านบาท โดยทำเครื่องใช้ในการประกอบชิ้นส่วนไฟหน้ารถยนต์เพื่อขายให้กับนิสสัน ซึ่ง EUREKA ได้ส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา จริงๆๆแล้ว ออเดอร์อาจจะมีมูลค่าไม่มากนัก แต่เรามองไปในระยะยาว
        นโยบายของเราต่อปีจะมีลูกค้าใหม่ 1-2 ราย 

***มีเจรจากับลูกค้าใหม่อยู่กี่ราย***
        ลูกค้า ใหม่ๆที่จะเพิ่มขึ้น เราก็คุยไว้หลายราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งก็คงจะต้องพิจารณาเป็นรายๆไป โดยต้องยอมรับว่า ความต้องการใช้งานเครื่องจักรในไทยมีอยู่สูง ก็มองว่าเป็นตลาดของผู้ขาย

***จะสรุปรับงานจากลูกค้าต่างประเทศได้ช่วงไหน***
        เรา อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าต่างประเทศ โดยคาดกลางเดือน ส.ค. ได้ข้อสรุปการรับงาน จากลูกค้าประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีมูลค่างานหลักร้อยล้านบาท รวมถึงยังอยู่ระหว่าง การเจรจากับลูกค้าในมาเลเซีย

***ลูกค้ากลุ่มเดิมของEUREKAคร่าวๆๆๆ ***

        บริษัทฯ มีงานจากลูกค้ากลุ่มเดิมของค่ายมิตซูบิชิ โตโยต้า และ นิสสัน
              
*** ปัจจุบันมีงานในมือเท่าไหร่****
        มีงานอยู่ในมือ(Backlog)ประมาณ 150 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ผลการดำเนินงานน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

***มั่นใจในเป้าหมายรายได้ปีนี้มากน้อยเพียงใด***
        ปีนี้เราคาดรายได้แตะ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น30%จากปีก่อน เพราะครึ่งปีแรกมีรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท 

***Net Profit Margin มีกอัตราการเติบโตเท่าไหร่จากปีก่อน***
        อัตรา กำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปีนี้ บริษัทฯ คาดจะเติบโตตัวเลข 2 หลักจากปีก่อนที่อยู่ที่ 6.31% และในช่วงไตรมาส 1/2556 ทำได้ 15.7%  

***สาเหตุที่Net Profit Margin ขยับเพิ่มขึ้นมาจาก***
        เพราะ เรารับงานของเราก็เพิ่มขึ้น และมีการบริหาร ที่ทำให้ต้นทุนลดลง และในปีก่อนเราเตรียมบุคคลากรตั้งแต่ปีก่อน ทำให้ในปีนี้บริษัทสามารถรับออเดอร์ได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้นำเงินจากระดมทุน IPO นำไปพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการเพิ่มเครื่องจักรมากขึ้น ทดแทนการเพิ่มบุคคลากร ส่งผลให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิต และลดต้นทุนในส่วนแรงงาน

***อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ระดับเท่าไหร่***
        เรา ขอรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ไว้ที่ 30% สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 28% หลังในช่วงไตรมาส 1/2556 ทำได้แล้วประมาณ 36% ในอุตสาหกรรมมีผู้ประกอบการทำอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ ได้ถึง 40% โดยเราก็หวังที่จะไปถึงจุดนั้นให้ได้ 

***นโยบายเงินปันผล***
        ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี

        คุณ นรากร ทิ้งท้ายว่า  เดิมเราตั้งบริษัทนี้เเรก คิดว่าเป็นบริษัทเล็ก ไม่ใหญ่โตมากนัก และน่าจะมีเวลาให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น แต่มาถึงวันนี้ "ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก"...เราก็พร้อมที่จะดำเนินงานที่ดีต่อไป 

---จบ---
By : ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์

 

บทความล่าสุด

ไม่แตกต่าง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทย เช้านี้ แกว่งตัว บ่ายวันนี้ ก็เช่นกัน แม้GDP ไตรมาส 1/67 ของไทยที่ออกมาวันนี้ 1.5% ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้