บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ  TWPC เป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรจาก “ฟาร์มสู่ผู้บริโภค” ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย  แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม แต่บริษัทฯ ยังคงทำผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การเสริมความแข็งแกร่งในด้านการขายและการตลาดระดับโลก ห่วงโซ่อุปทาน และความสามารถด้านดิจิทัล 

ปี 2565 ไทยวาประกาศความสำเร็จด้วยรายได้ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 10,421  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2564 ที่มีรายได้ 9,105 ล้านบาท จากการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากธุรกิจอาหารที่เป็นธุรกิจหลักในประเทศไทยและเวียดนามที่มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน)  ระบุว่าปี 2566 คาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ Double-digit และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จากความต้องการของผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้น  การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ และสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย 

แผนการดำเนินธุรกิจปี 2566 ไทยวาพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐ ให้กว้างและลงลึกมากขึ้น  ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นแนวโน้มความต้องการบริโภคสินค้าในประเทศจีนที่กลับมาฟื้นตัวจากการเปิดประเทศในปี 2566 รวมถึงความต้องการจากลูกค้าที่มองหาโซลูชันด้านอาหารที่สามารถตรวจสอบแบบย้อนกลับได้ มีความคุ้มค่า และสะดวกต่อผู้บริโภค  ซึ่งกลยุทธ์ของไทยวายังมุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ทั้งในประเทศไทย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย และทั่วโลก

นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างมากในทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขยายทั้งฐานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย และการทำการตลาด จาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้าเสริมความแข่งแกร่งทางของการดำเนินงานในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย   โดยบริษัทฯ สามารถทำกำไรและรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านับตั้งแต่ปี 2560 รวมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 20 รายการในระหว่างช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19  และจากความต้องการแป้งมันสำปะหลังได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังที่ประเทศกัมพูชา โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในการผลิตช่วงปลายปี 2566

รวมถึงเตรียมลงทุนด้านพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 11 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในฐานะองค์กรหลัก โดยตั้งเป้าว่าจะได้พลังงานสีเขียว 50% ภายในปี 2568  และยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสินค้าพิเศษที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA products) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะมีส่วนสร้างการเติบโตให้กับไทยวาได้อย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อปี 2565 บริษัทฯ ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังครั้งแรกในโลก และเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาพลาสติกที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรจาก “ฟาร์มสู่ผู้บริโภค” ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายในภูมิภาค เราได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เตรียมความแข็งแกร่งให้พร้อมคว้าโอกาสหลังโควิด โดยเสริมศักยภาพให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัท และพัฒนาความสามารถด้านซัพพลายเชนและทีมขายสำหรับตลาดโลก การเตรียมการเหล่านี้ทำให้ไทยวาพร้อมรับการฟื้นตัวของตลาดหลังโควิด ที่วัตถุดิบและอาหารในราคาที่คุ้มค่าจะมีความต้องการมากขึ้น ”นาย โฮ เรน ฮวา กล่าวในที่สุด