Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ...สงครามหุ้นTGPRO

10,822

 

ภาพรวมตลาดหุ้นจะพลิกผันเพียงใด แต่หุ้นเก็งกำไรไม่มีวันตายไปจากท้องทุ่งตลาดหุ้น...  รถไฟสแตนเลส TGPROวิ่งออกมาจากชานลา 5 วัน  ราคาทะยานสู่ท้องฟ้า 73%  จาก 0.26 บาท มาอยู่ที่ 0.45 บาท(9พ.ค.)  ท่ามกลาง กระแสข่าวลือ เป้าหมาย 1 บาท  ยิ่งพีอีหุ้น 2 เท่า พีอีตลาด 16-17 เท่า มูลค่าหุ้นทางบัญชี 0.13 บาท กิจการบริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)TGPROเพิ่งปรับโครงสร้างทุน หลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ นับว่า การนับจำนวนหุ้น การถือครองหุ้น ทำได้ไม่ยากและเจ้าของหุ้น ยินดีอยู่แล้ว  ราคาหุ้นยิ่งขยับ มูลค่าหรือแวลู ยิ่งเพิ่มขึ้นไปด้วย  ความสุขทางใดบังเกิดขึ้น

 

 

ด้วยประวัติ แล้ว หุ้นTGPRO ถือว่า เดินเข้าออกแผนฟื้นฟูกิจการมาหลายครั้ง  ซึ่งเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ เป็นผลมาจากโดนพิษต้มยำกุ้ง วิกฤติเศรษฐกิจ ปี 25540 ค่าเงินบาทลอยตัว  บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า THAI-GERMAN PRODUCTSPUBLIC COMPANY LIMITED ได้จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2516 ภายใต้ชื่อบริษัท อุตสาหกรรมท่อสแตนเลสไทย (2516) จำกัด โดย นายประชา  ลีลาประชากุล และครอบครัว   บริษัทมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก12,000,000  บาท มีกำลังการผลิตเริ่มต้นเพียง 600 ตันต่อปี  โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการผลิตและจำหน่ายท่อสแตนเลส และเป็นผู้ผลิตท่อสแตนเลสรายแรกและรายใหญ่ของประเทศไทย  เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้สแตนเลสของภาคอุตสาหกรรมในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น    ทำให้บริษัทมีการขยายกำลังการผลิตท่อ สแตนเลสอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้ขยายการผลิตสู่สินค้าสแตนเลสประเภทใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครบวงจร  เช่น  แผ่นสแตนเลส อุปกรณ์สแตนเลส เป็นต้น  และในปี 2537 ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)


                      บริษัทได้จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2538 ต่อมาในปี 2540 บริษัทได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตกต่ำอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง  และลุกลามไปยังภาคธุรกิจ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ    ส่งผลให้ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์สแตนเลสภายในประเทศลดลงอย่างมาก   บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลง ทำให้รายได้ของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ จากการที่รัฐบาลมีนโยบายในการใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบลอยตัว  ทำให้เงินบาทมีการอ่อนค่าลงเป็นอย่างมาก   ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาระหนี้สินเงินตราสกุลต่างประเทศที่มีจำนวนมากเมื่อแปลงค่าเป็นเงินบาทรวมทั้งยังส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น    เนื่องจากวัตถุดิบของบริษัททั้งหมดเป็นการนำเข้าทั้งทาง ตรงและทางอ้อมจากต่างประเทศ และในช่วงปี 2541 บริษัทได้มีการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ต่าง ๆ และได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางในเดือนสิงหาคม 2542  ซึ่งศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบต่อการฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2543  ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของบริษัท     เนื่องจากเห็นว่าการฟื้นฟูกิจการของบริษัทได้ดำเนินการเป็นผลสำเร็จตามแผนแล้ว  อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา   บริษัทประสบกับปัญหาการลดลงของราคา สแตนเลสต่อเนื่องมาเป็นปีที่  2 ติดต่อกัน    จึงทำให้บริษัทประสบกับปัญหาขาดทุนเป็นจำนวนมาก  มีผลทำให้รายได้จากการขายลดลงจนทำให้เกิดปัญหาการขาดสภาพคล่อง   จนไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ได้  ดังนั้นจึงทำให้ในปี 2553    คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการภายใต้กระบวนการของศาลล้มละลายกลาง...นั่นคือประวัติ TGPRO แบบคร่าวๆ

    แต่เกมการแข่งขันของธุรกิจ สแตนเลส เต็มไปด้วยความดุเดือด ไม่แพ้เกมหุ้น ..สำหรับ TGPRO ด้วย ถือว่าเป็นหนึ่งในตองอู เหมือนกัน เพราะกลุ่มผู้บริหาร ลีลาประชากุล และครอบครัว  คร่ำครอดในธุรกิจนี้มามากกว่า 39 ปี เรียกว่า กรีดออกมาจากกาย คงมีแต่สแตนเลส เป็นสายทางยาว....ปีนี้ ถือเป็นปีแห่งก้าวย่างที่สำคัญ และพิสูจน์ฝีมือการบริหารจัดการ หลังจากปี 2554 พลิกมีกำไร 746 ล้านบาท จากปี2553 ขาดทุน 786 ล้านบาท การกลับมามีกำไรขึ้นมาได้ ด้วยกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ แต่กำไรจากการดำเนินงานหรือธุรกิจ ยังอยู่ในระดับต่ำ


    ยิ่งคู่แข่งขันในตลาดสแตนเลสมีมากมาย แต่รายใหญ่ๆก็มีอยู่ไม่มากนัก  แม้จะมีสินค้าจากจีน เข้ามาประกบ แต่ก็มีจุดอ่อนในแง่ของคุณภาพสินค้าเหมือนกัน ปัจจจุบันTGPRO มีฐานลูกค้าในมือประมาณ 300-400 ราย ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยง ไม่ได้อิงหรือผูกกับลูกค้ารายใดเป็นพิเศษ และบริษัทฯยังได้เข้ามาจับตลาดกลุ่มลูกค้า ปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี น้ำตาลและอาหาร


    ขณะเดียวกัน ยิ่งทำธุรกิจมานานกว่า 39 ปี TGPRO ก็พยายามป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ   เนื่องจากราคาวัตถุดิบทั้งสแตนเลสประเภทรีดร้อนและรีดเย็นนั้น   เป็นสินค้าประเภท Commodity ซึ่งจะมีราคาเปลี่ยนแปลงตามราคาตลาดโลก  โดยจะมีราคาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกับราคานิเกิ้ล  ซึ่งเป็นสินค้าประเภท Commodity และเป็นส่วนผสมหลักของสแตนเลสรีดร้อนและรีดเย็น  และจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการตั้งราคาขายและอัตรากำไรของบริษัท


    งานนี้บริษัทฯและ บริษัทย่อย จะพิจารณาติดตามการเคลื่อนไหวของราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะทราบแนวโน้มของราคาวัตถุดิบและนำมาใช้ในการคำนวณต้นทุนการผลิตและกำหนดราคาขาย  ซึ่งในปัจจุบันบริษัทและบริษัทย่อยมีการพิจารณาสั่งซื้อวัตถุดิบเป็นรายสัปดาห์ ทั้งนี้ช่วงที่ราคาวัตถุดิบอยู่ในช่วงขาขึ้น  บริษัทและบริษัทย่อยจะทำสัญญาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาประมาณ 2 - 3 เดือน สำหรับในช่วงที่ราคาวัตถุดิบอยู่ในช่วงขาลง  บริษัทและบริษัทย่อยจะชะลอการสั่งซื้อวัตถุดิบลงหรือสั่งซื้อให้สอดคล้องกับปริมาณการผลิตที่มีอยู่ในขณะนั้นโดยไม่พยายามสั่งซื้อเพื่อเก็บวัตถุดิบไว้ในคลังสินค้า นั่นคือ เสี่ยงตัวแรก


                 เสี่ยงตัวที่ 2...ความเสี่ยงความไม่เพียงพอของเงินทุนหมุนเวียน...จากลักษณะธุรกิจของบริษัทที่ต้องมีการซื้อวัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นเงินสด ในขณะที่ต้องมีการขาย
สินค้าให้กับลูกค้าเป็นเงินเชื่อ ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเป็นจำนวนที่สูงซึ่งส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการใช้เงินทุนหมุนเวียนสูงตามไปด้วย โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554   บริษัทและบริษัท  ย่อยมีลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือเป็นจำนวน 147.17 ล้านบาท และ 413.51 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ     12 และ 35 ของสินทรัพย์รวมตามลำดับ  ในขณะที่มีเจ้าหนี้การค้าเพื่อซื้อวัตถุดิบและวัสดุสิ้นเปลืองเป็นจำนวนเงิน  รวม  373.15  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  44  ของหนี้สินรวม  ในขณะที่ปัจจุบันบริษัทและบริษัทย่อยไม่ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนหมุนเวียน  นอกจากนี้สินทรัพย์ถาวรส่วนใหญ่ของบริษัทและบริษัทย่อยมีข้อผูกพันเป็นหลัก ประกันหนี้ต่อสถาบันการเงินต่าง  ๆ  อยู่แล้ว   และไม่สามารถนำไปเป็นหลักประกันเพื่อขออนุมัติสินเชื่อเพิ่มเติม      ได้ ซึ่งภายใต้สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือราคาวัตถุดิบมีความ ผันผวนหรือมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการเพิ่มยอดขายให้เป็นไปตามนโยบาย  หรือแผนงานที่บริษัทและบริษัทย่อยกำหนดไว้ได้


                   เสี่ยงตัวที่ 3.. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงวัตถุดิบจากผู้ผลิตรายใหญ่...บริษัทและบริษัทย่อยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สแตนเลส    ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบสแตนเลสประเภทรีดร้อนและรีดเย็น วัตถุดิบสแตนเลสประเภทรีดร้อนจะนำเข้าจากต่างประเทศ   ซึ่งจะมีผู้ผลิตจำนวนมากกระจายไปทั่วโลกทั้งในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น  สำหรับวัตถุดิบสแตนเลสรีดเย็นส่วนใหญ่แล้วที่ผ่านมาบริษัท  และบริษัทย่อยจะซื้อจากตัวแทนผู้จำหน่ายภายในประเทศเนื่องจากได้รับเครดิตทางการค้า  ในปี 2554 บริษัทและบริษัทย่อยได้มีการสั่งซื้อวัตถุดิบสแตนเลสรีดร้อนและรีดเย็นจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศ 3 รายใหญ่ ประมาณ  ร้อยละ 18  17   และ 13 รวมเป็นจำนวนประมาณร้อยละ 48 ของยอดซื้อวัตถุดิบทั้งหมด  โดยส่วนใหญ่เป็นการสั่ง  ซื้อวัตถุดิบสแตนเลสรีดเย็น  เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ของบริษัทและบริษัทย่อยเป็นสินค้าที่ใช้วัตถุดิบรีดเย็นเป็น หลัก ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทและบริษัทย่อยไม่ได้จัดทำสัญญาซื้อขายกับผู้จำหน่ายทั้ง 3 รายดังกล่าว  แต่อย่างใด การสั่งซื้อในแต่ละคราวจะเป็นการสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณ 1 - 3 เดือน  ขึ้นอยู่กับแนวโน้มราคาวัตถุดิบ และการคาดการณ์ของผู้บริหาร  โดยหากราคาวัตถุดิบอยู่ในช่วงขาขึ้น บริษัทและบริษัทย่อยจะซื้อล่วงหน้าในระยะ เวลาที่ยาวนานกว่าในช่วงราคาวัตถุดิบขาลง    ซึ่งบริษัทและบริษัทย่อยและผู้จำหน่ายภายในประเทศต่างก็มีความ สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และติดต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน จึงไม่มีปัญหาในการสั่งซื้อวัตถุดิบแต่อย่างใด นอกจากนี้   บริษัทและบริษัทย่อยยังได้ซื้อทั้งวัตถุดิบสแตนเลสประเภทรีดร้อนและรีดเย็นจากผู้แทนจำหน่ายต่างประเทศอีก  1 ราย  ซึ่งผู้แทนจำหน่ายดังกล่าวนี้ต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทและบริษัทย่อยมาเป็นระยะเวลานานและไม่เคยมีปัญหาในการสั่งซื้อวัตถุดิบเช่นกัน


               เสี่ยงตัวที่ 4... ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ..วัตถุดิบของบริษัททั้งหมดจะมีลักษณะของการนำเข้าทั้งทางตรงและทางอ้อม   กล่าวคือ  ไม่มีผู้ผลิตวัตถุดิบสแตนเลสรีดร้อนในประเทศไทย   และวัตถุดิบสแตนเลสประเภทรีดร้อนก็ยังเป็นวัตถุดิบของผู้ผลิตสแตนเลสประเภทรีดเย็น     ดังนั้น    ดูเสมือนหนึ่งว่าวัตถุดิบทั้งสองประเภทจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด ในขณะที่บริษัทและบริษัทย่อยมีสัดส่วนการจำหน่ายไปยังต่างประเทศในปี 2554 คิดเป็นร้อยละ 9  ของรายได้จากการขายและรับจ้างผลิต  (แม้ว่าจะไม่มีการซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศโดยตรงก็ตาม)  จึงไม่สามารถที่ จะชดเชยความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ทั้งหมด ดังนั้นบริษัทและบริษัทย่อยจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลให้ต้นทุนวัตถุดิบมีความผันผวนได้     เนื่องจากราคาวัตถุดิบเมื่อแปลงค่าเป็นเงินบาทแล้ว จะมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อน ไหวตามเสถียรภาพของค่าเงินบาททำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย   ขึ้นอยู่กับความมีเสถียรภาพของค่าเงินบาท   ถึงแม้ว่าบริษัทและบริษัทย่อยจะพยายามป้องกันความเสี่ยงด้วยการซื้ออัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าบางรายการแล้วก็ตาม


            นอกจากนี้ บริษัทและบริษัทย่อยยังมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จาก  การที่มีรายการค้ากับลูกหนี้การค้าและเจ้าหนี้การค้าที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทและบริษัทย่อยได้ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าบางรายการเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน   โดย ณ วันที่  31  ธันวาคม 2554  บริษัทมียอดลูกหนี้การค้าและเจ้าหนี้การค้าที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ที่ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยง   และมีกำหนดชำระคืนภายในระยะเวลาหนึ่งปี ดังนี้

 

 

          ลูกหนี้การค้า

 

 

              เจ้าหนี้การค้า

 

สกุลเงิน

  สกุลเงิน

 มูลค่าเทียบเท่า

อัตราแลกเปลี่ยน

    สกุลเงิน

 มูลค่าเทียบเท่า

อัตราแลกเปลี่ยน

 

ต่างประเทศ

     เงินบาท

 

31 ธ.ค.2554

  ต่างประเทศ

    เงินบาท

 

31 ธ.ค.2554

ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา

 350,626

  11,,111,754

31.6912

 

        -   

 

        -

-     


    

จากตารางข้างต้น    จะพบว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 ลูกหนี้การค้าที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงเมื่อแปลงค่าเป็นเงินบาท โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนข้างต้นมีจำนวน 11.11 ล้านบาท  หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7 ของลูกหนี้การค้ารวม และในปี 2554 บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 1.93 ล้านบาท

    จากปัจจัยความเสี่ยงคร่าวๆที่นำเสนอ เชื่อว่า TGPRO คงไต่อยู่บนธุรกิจท่อสแตนเลส ได้ไม่ยาก  ยิ่ง  ประชา  ลีลาประชากุล พี่ใหญ่และครอบครัว ผูกพันธ์กิจการ ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ธุรกิจสแตนเลสมากว่า  39  ปี คงมีเจตนาสร้างกิจการให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหนึ่ง  แต่ตอนนี้ต้องปล่อยให้สงครามหุ้นTGPRO ดำเนินต่อไป คนอื่นขายหุ้นได้ แต่กลุ่มลีลาประชากุล คงไม่ขยับ ห้วงจังหวะมันนี่เกม ติดเครื่องแล้ว


โดย...ทีมข่าวหุ้นอินไซ

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้