Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

ลงทุน NUSA ต้องมองระยะยาว

13,712

     สัมภาษณ์พิเศษ: วันนี้พิเศษสุดๆ ทีมข่าว Hooninside ขอปิดท้ายเดือนเเห่งความรักด้วยบทสัมภาษณ์จากผู้บริหาร จาก  NUSA ที่จะมาร่วมเปิดมุมมองเเผนธุรกิจในปีมังกรทอง มาร่วมติดตามว่า NUSA จะงัดกลเม็ดใดมาพิชิตใจลูกค้าเเละ ยอดขายที่ตั้งไว้ที่ 6 พันล้านบาทจะไปถึงเป้าที่ตั้งไว้ได้อย่างไร  พร้อมเจาะลึกแนวทางกอบกู้หุ้น NUSAขึ้นมา กับคำพูดเด็ดๆ ที่ว่า"หุ้น NUSA ต้องรอเรื่องของระยะเวลาสักระยะ สิ่งที่ผู้บริหารพูดออกไปนั้น สามารถทำได้จริง ซึ่งลงทุนต้องมองระยะยาว เพราะการลงทุนระยะสั้นคงตอบโจทย์อะไรไม่ได้" หากพร้อมแล้วเชิญเก็บเกี่ยวบทสัมภาษณ์พิเศษเต็มๆ จากผู้บริหารหนุ่มไฟแรง คุณวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อั่งเปา แอสเสท NUSA ได้เลยคะ.....

***ปี55วางกลยุทธ์เเละเเผนงานไว้อย่างไร ***

     ในปี 2555 เรามีโครงการที่ขยายต่อเนื่องจากปีที่เเล้ว หลังในช่วงไตรมาส 4/2554 ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นอนุมัติ ให้บริษัทฯ ซื้อที่ดิน 2 โครงการ คือ ที่ดินย่านสุวินทวงศ์ เเละย่านบางโพ  ซึ่ง 2 โครงการนี้ เราจะนำมาพัฒนาเเละเปิดตัวในปีนี้  โดยจะเปิดเป็นทาวเฮาส์ ในย่านสุวินทวงศ์ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนรูปเเบบใหม่ เพื่อให้สอดรับกับวิกฤติน้ำท่วม ในการตั้งรับเเละป้องกัน ปัญหาน้ำท่วม 


    ส่วนคอนโดมีเนียม เเบบLow Lise ในย่านบางโพ คงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก  รวมถึงโครงการที่เป็นโครงการต่อเนื่อง อย่างโครงการนุสาศิริ ในย่าน พระราม 2  เราจะเปิดอีก 2 เฟส ด้วยกัน  เเละก็จะปรับรูปเเบบใหม่เช่นกัน โดยการถมดินสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร ทั้งทั้งที่ ในปีที่ผ่านมาโครงการเราไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม  เเต่จะท่วมบริเวณรอบ ๆ อย่างที่พระราม 2  นำท่วมไม่ถึง เเต่ก็ไม่ประมาท เพราะที่ของค่อนข้างมีขนาดใหญ่  จึงปรับที่ดินให้สูงขึ้นอีก 50 เซ็นติเมตร 


***ราคาบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือไม่***

    มีแนวโน้มที่จะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  เพราะเราได้ปรับให้สูงขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับความเสียหายที่ลูกค้ารับได้ วันนี้ลูกค้ามีความกลัวพอสมควร ว่าน้ำอาจน้ำท่วมในปีนี้ โดยน้ำอาจจะมาท่วมในที่ไม่โดนน้ำท่วมครั้งที่เเล้วก็ได้ เราเองก็ทำไว้เตรียมพร้อมรอบรับ ซึ่งก็เป็นผลประโยชน์แก่ลูกค้า


***ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ป้องกันความเสี่ยงอย่างไร ***
    ก็อย่างที่เล่าให้ฟัง ว่าที่ดินที่เป็น Landbank ที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีนี้  มีการปรับสภาพพื้นดินโดยถมดินให้สูงขึ้น เเล้วก็ทำบ่อซ้ำเพื่อนำน้ำหมุนเวียนออก ส่วน 4 โครงการก็เเค่ ปล่อยน้ำออกก็เพียงพอ เเต่ถ้าเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นอีก โดยจะบล็อกประตูระบายน้ำ ให้น้ำไหลออก ก็ได้คิดเเผนนี้ไว้สำหรับโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น เเละเริมทำในย่านพระราม 2 ไปเเล้ว 

***มูลค่าของ 2โครงการ อยู่ที่ เท่าไหร่***

    ที่สุวินทวงศ์ มีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนที่บางโพมีมูลค่า ประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท 


***ปี 2555 เปิดโครงการใหม่กี่โครงการ***
     เปิดทั้งหมด 8 โครงการ  ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการต่อเนื่อง ที่จะเป็นการขยายเฟส 

***มีงานในมืออยู่เท่าไหร่***

    ปี 2555 มีงานในมือที่จะรับรู้เป็นยอดโอนประมาณ 2,600 ล้านบาท จาก 7 โครงการที่เป็นโครงการต่อเนื่อง  เเต่ยอดขายคาดว่าน่าจะเป็นดับเบิ้ล ประมาณ 6,000 ล้านบาท 

***ส่วนใหญ่มาจากโครงการไหนบ้าง***

    ส่วนใหญ่จะกระจายไปในทุกโครงการ

***โครงการไหนที่เป็นหัวใจหลัก***

    น่าจะเป็นโครงการในย่านพระราม 2  ที่เป็นไฮไลท์ของเรา เเละรับรู้รายได้เข้ามาค่อนข้างเยอะ เพราะที่ดินตรงนั้นจะเป็นที่ดินแปลงใหญ่  เเละที่ผ่านมาตัวเลขค่อนข้างดี เเบ่งเป็นโครงการ สาทร 1  รับรู้ 56 ล้านบาท  สาทร 2 รับรู้รายได้ 41 ล้านบาท พระราม 2  รับรู้ 1600 ล้านบาท เเล้วก็พระราม 5 อีกประมาณ 460 กว่าล้านบาท รวมถึงมีโครงการสุวินทวงศ์  อีก 257 ล้าน เป็นโครงการทาวเฮาส์ที่จะรับรู้ในปลายปีนี้  ซึ่งทาวเฮาส์จะเป็นโครงการที่สร้างเร็วเเละรับรู้เร็ว ยูนิตหนึ่งก็ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท  นอกจากนี้ยังโครงการนุสาชีวา ซึ่งเป็นเฟส 3  ของพระราม 2 โดยเปิดคู่กันเลยทั้งเฟส 2 เเละเฟส 3 

***เหมือนนโยบายของ NUSA ต้องการขยายเฟส จากโครงการเดิม***

    ใช่ครับ 

***เงินลงทุนในปีนี้ เราวางไว้เท่าไหร่ สำหรับใช้ในการขยายเฟสโครงการเดิม ***

    จริง เเล้วก็ขยายจากเดิมไม่เยอะมาก เพราะว่า เป็นการรีเทิร์นรายได้ของตัวเดิม เม็ดเงินที่จะใส่เข้าไป ก็อีกประมาณ 2,000 ล้านบาท 

***นำเงินลงทุนมาจากไหน ต้องกู้เเบงก์ไหม***

    การลงทุนทุกโครงการ บริษัทฯค่อนข้างมั่นใจ และมี Loan จากเเบงก์อยู่เเล้ว ในทุกโครงการเรามีวงเงินจากธนาคารพาณิชย์รองรับไว้อยู่เเล้ว 

***หนี้สินต่อทุนประมาณเท่าไหร่***

    ไม่ถึง 1 ล่าสุดปรับมาลดลงค่อนข้างเยอะ เพราะเพิ่งชำระหนี้ไปค่อนข้างเยอะ    น่าต่ำกว่า 1 ทำให้เรามีศักยภาพมากขึ้น  จริง ๆ เเล้วตั้งใจจะขยายโครงการ เเต่ด้วยภาวะที่ไม่สอดคล้องกัน เเต่เราก็มีการขยายไปที่พัทยา โดยการวางมัดจำที่ดินเพิ่ม เนื่อที่ประมาณกว่า 100ไร่ ตรงทางทางเข้าสวนนงนุช  โดยจะทำเป็นบ้านเดี่ยว ใช้ชื่อโครงการว่านุสาชีวา 


***คอนเซปต์ เป็นยังไง ***

    เป็นบ้านเดี่ยว ราคา ประมาณ 2 ล้าน - 5 ล้านบาท โดยทำเป็นบ้านชั้นเดียว เป็นบ้านสุขภาพ  คือด้านหน้าทำเป็นส่วนที่ดูเเลสุขภาพ  ในปีนี้ เราจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของนุสาเพิ่มมากขึ้น ที่ไม่ได้ขายบ้านอย่างเดียวเเต่ขายบ้านบวกสุขภาพ บ้านของเราจะผสมไปด้วยซีเนียร์โฮม  คือบ้านที่ไม่มีสเต็ป บ้านที่มีชมรม บ้านที่มีสมาคม  เเล้วมีการดูเเลสุขภาพ โดยจะมีพยาบาลดูเเลที่ศูนย์กลาง จากเดิมที่มีสโมสรธรรมดา เราจะมีโรงพยาบาลขนาดเล็กเข้าไปอยู่หน้าโครงการ นอกจากนี้ก็มีฟิตเนสเซ็นเตอร์ ทำให้ผู้สูงอายุที่อยู่บ้านมีเพื่อนบ้าน เเละมีสังคม 


***จากที่ผ่านมาบริษัทฯ เข้าไปทำธุรกิจสถาบันการศึกษา ตรงจุดนี้จะนำเเนวคิดนี้ไปอยู่ในทุกโครงการของ NUSA ด้วยหรือไม่***
    ไม่ครับ ยกเว้นโครงการนั้นมีขนาดใหญ่เพียงพอเเละมีศักยภาพที่จะสามารถเปิดได้  เมื่อดูศักยภาพเเล้ว ดูโลเคชั่นเเล้ว ถ้าพร้อมที่จะขยาย ก็คงจะให้พาร์ทเนอร์เป็นตัวลิงค์ 

***อย่างที่โครงการนุสาศิริ ที่พระราม 2  ชื่อโรงเรียนสาระศิริวิเทศ ที่เป็นโรงเรียนสอนภาษาขนาดใหญ่  ***

    ก็อย่างที่พูดนะครับ ถ้ามีการขยายโครงการไปที่อื่น ในเมื่อเรามีพาร์ทเนอร์ เเละพาร์ทเนอร์ให้ความสนใจ เรามีที่ดินก็อาจจะเข้าร่วมกันได้ เเต่ถ้าดูเเล้วในย่านนั้นไม่สมควรลงทุน ก็คงไม่ลงทุน 

***คือต้องมีการสำรวจความต้องการของลูกบ้าน ว่าสนใจจะมีสถาบันการศึกษาอยู่ในโครงการหรือไม่
***
    คือกลุ่ม NUSA จะไม่ทำอะไรที่ไม่ถนัด เเละไม่ใช่ธุรกิจหลักของเรา อันนี้พาร์ทเนอร์เรามาซื้อที่ดินทำโรงเรียนเเล้วเรามองเห็นประโยชน์ ทำให้โครงการเรามี Value มากขึ้น 

*** ทำไมถึงมาทำสถาบันการศึกษา เพราะธุรกิจหลักของเราจะเป็นอสังหาริมทรัพย์***
    นี่เป็นเหตุผลที่เราถึงไม่ทำเอง เพราะเราจึงเป็นหุ้นเล็กไม่ได้เป็นหุ้นใหญ่ 

***ทางกลุ่มไหนที่เป็นหุ้นใหญ่บ้าง***

    ก็กลุ่มผู้บริหารของโรงเรียนสาระศิริ 

***NUSA ถืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์***
    40 % 

***เเล้วมีอยู่กี่โรงเรียน***
    จริง ๆ เเล้ว ผู้บริหารท่านนี้ ทำให้สาระศาสตร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่ออยู่เล้ว โดยมีอาจารย์สยุมพร เป็นผู้บริหาร ที่ทำสาระศาสตร์มานาน ซึ่งวันนี้ท่านก็ให้ความสนใจมาร่วมบริหารให้กับทาง NUSA

***คิดว่าจะช่วยสร้าง Value สำหรับการสร้างสถาบันการศึกษา ***
    ถ้าโรงเรียนนี้ประสบความสำเร็จ เเน่นอนตอนนี้คนที่ซื้อบ้านก็ต้องให้ความสำคัญกับการเดินทางของบุตรที่จะต้องตื่นเช้าไปเรียน  ในขณะเดียวกันโรงเรียนอินเตอร์ ทุกโครงการที่เห็นตอนนี้ ที่เกิดขึ้น มีหมู่บ้านเกาะอยู่ข้างนอก ก็ประสบความสำเร็จหมด 

***นโยบายของ นุสา จะปรับเพิ่มราคาบ้านในปีนี้ไหม เพราะมีมีการประมาณการณ์ว่าราคาบ้านจะขยับขึ้นประมาณ 3-5% ***


จริง ๆ เเล้ตอนนี้เราเป็นของสต็อกเก่า เป็นส่วนใหญ่ ก็คงจะมีที่ดินเฟสใหม่ ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อย เเต่ก็คงจะไม่เกิน 3%  เนื่องจากเรามีการสภาพโครงการใหม่ 


***จะทำที่เดียวเลยหรือว่าดูเป็นทำเล****

    คือตอนนี้ NUSA ปรับสภาพโครงการเดิมของพื้นที่ ที่มีอยู่ พื้นที่คงต้องดูอีกที่ ถ้ามีโครงการใหม่ เกิดขึ้นมา เพราะปกติการพัฒนาจะมีต้นทุน ต้องถมดินเพิ่มเท่าไหร่ ประมาณ นี้  เเต่ปัจจุบันจะมีต้นทุนเเอบเเฝงเข้ามาคือต้นทุนการป้องกันน้ำท่วม เพราะฉะนั้นอาจจะเพิ่มอีก 1-3% เเล้วเเต่ขนาดของโครงการ

***วางเเผนการตลาดอย่างไรบ้าง เเละใช้กลยุทธ์อะไร***

    จริง ๆ เเล้วบ้านนุสาศิรอจะมีราคาค่อนข้างเเพง เป็นเเบบพรีเมี่ยม ผู้บริโภคที่ต้องการบ้านของของนุสาศิริ จะดูที่โลเคชั่น ของโครงการเเละขนาดบ้าน ที่ออกเเบบตามใจผู้ซื้อ  โดยเป็นสิ่งที่ทำมาโดยตลอด เเละก็ประสบความสำเร็จ คือ คนที่ซื้อบ้านของนุสาศิริไม่ใช่คนที่มีบ้านหลังเเรก เป็นคนที่มีความต่องการเเตกต่าง ซึ่งเราสามารถตอบโจทย์ให้ลูกค้า เเละทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ  ขณะที่ราคาต้นทุน ที่ดินเราไม่ได้สูงกว่าคู่เเข่ง ในโลเคชั่นเดียวกัน

***ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้เท่าไหร่***

    6,000 ล้านบาท 

***เป้าหมายปี 2555 ถือว่าผิดเป้าไหม***

    เล็กน้อยเกิดจากวิกฤติช่วงน้ำท่วมที่เราไม่ได้ทำงานเลย ในช่วง2-3 เดือน ลูกค้าก็ชะลอหมด ก่อสร้างเราก็ก่อสร้างไม่ได้  ถึงโครงการไม่ได้เกิดภาวะน้ำท่วมเเต่ลอจิสติกไม่ได้เลย ขาดเเคลนเเรงงาน เเละวัสดุก่อสร้าง ก็ส่งผลกระทบทางอ้อม ไม่ได้กระทบทางตรง 

***จาก 1,000 ล้าน มาปีนี้ 6,000 ล้าน เป้าหมายของเราสูงไปมั้ย***
    อาจจะดูสูงไป เเต่ถ้าดูที่มาของเเต่ละโครงการในปีนี้ เเละปีหน้า เราไปรับรู้อย่างนั้นจริง จากรับรู้ 1,000 ล้านบาท  มารับรู้ 2,600 ล้านบาท มองเเล้วเหมือนเวอร์ เกือบ 3เท่า อาจถึง 3,000 ล้านบาท  เเต่เราตอบโจทย์ได้หมด เพราะคอนโดเราสร้างเสร็จในปีนี้ 

***เรียกได้ว่าปี 55 เป็นปีทองของNUSA  เลยหรือเปล่า***    

    ผมมองว่าเป็นปีที่เริ่มต้นของ NUSA มากกว่า 

***ทำไมถึงมีความมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะโต เเตะ6,000 ล้าน ในขณะที่ปีก่อนอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท***
    อย่างที่เคยบอกไป ว่านุสาศิริเคยทำ 20-30 โครงการ เคยขายอยู่นอกตลาดปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท จากที่NUSA เข้าตลาดมาก็เป็นหุ้นขนาดเล็ก เเต่ตอนอยู่นอกตลาดเราตัวใหญ่กว่านี้ วันนี้ทำงานอยู่ 5-6 โครงการ 

***จุดมุ่งหมายของนุสา ในอีก 3-5 ปี จะมีโครงการที่บริษัทฯ จะเปิดกี่โครงการ***

    ผมคิดว่าเเต่ละปี จะมีโครงการที่ต้องเเฮนเดิ้ล จะโตเเบบก้าวกระโดดไปสักระยะหนึ่ง ที่เป็นคาเเพทซิตี้ ของพนักงานเเละทีมงานเราที่รับได้ คิดว่าปีหนึ่งคงไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ 


***ตรงจุดนี้จะเกินกำลังที่บริษัทฯ จะทำได้หรือเปล่า ***

    ก็ระวังอยู่ เพราะการจะโตเเบบบก้าวกระโดด นั่นหมายถึงต้องมีการระดมทุนเข้ามา หาคอสออฟฟัน เข้ามา เเละดูสภาพคล่อง ซึ่งเราก้มการป้องกันไว้เเล้ว ทำไมผมต้องรอช้าเพราะปีนี้ จะเห็นว่ายอดขายถึงจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งมาจากโครงการที่ผมหมดภาระหนี้ ทำให้บริษัทฯ สามาถนำเงินที่หมดชำระ กลับมาหมุนเวียนได้อีกรอบ เเละสัดส่วนที่เป็นหนี้น้อยมาก เเต่ถ้ามีการขยายโครงการก็คงต้องกู้เงินเพิ่มเป็นธรรมดา 

***จะมีการจ่ายปันผล งวดปี 54 มั้ย ***

    น่าจะยังนะ เพราะ NUSA พึ่งล้างขาดทุนสะสม ตอนนี้มีส่วนต่างของราคาหุ้นอยู่ เรายังต้องมีการปรับปรุงเรื่องนี้ เหล่านี้ให้หมดก่อน  ถ้าจะเห็นปันผลน่าจะเห็นได้ในรอบบัญชีปี 2555 มากกว่า ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า40% ของกำไรสุทธิ 


***เเล้วกรณีที่ราคาหุ้นที่ต่ำกว่าพาร์ ในขณะนี้ ตรงจุดนี้จะแก้สถานการณ์อย่างไร***
    มันเป็นส่วนต่ำระหว่างหุ้นอยู่เเล้ว ซึ่งต้องปรับปรุงส่วนต่างระหว่างหุ้น โดยอาจจะลดหุ้น เพื่อให้สอดคล้องกับราคาตามความเป็นจริง เพราะตอนเราเข้าตลาดมาตอนนั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 0.35 บาท ซึ่งมีส่วนต่างระหว่างหุ้นค่อนข้างเยอะ ROอยู่ที่ 0.35 บาท ทีส่วนต่างประมาณ 0.60 บาท ซึ่งหลังเข้ามาเเล้วเราก็คงต้องปรับปรุง ก็อาจจะหาวิธีการลดพาร์ รวมหุ้น ก็เป็นเทคนิคของระบบบัญชีไป 


***สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นเเละนักลงทุนได้อย่างไร ***
    ผมคิดว่าในภาวะของการลงทุน คงต้องดูผลประกอบการดูระยะเวลาการเดินทาง ดูว่าสิ่งที่ผู้บริหารได้กำหนดเป้าหมายเอาไว้ ว่าสามารถทำได้หรือไม่
     ธรรมดาครับวันนี้ หลายคนอาจมองว่าที่ผมไปรับปาก 2,600-3,000  ล้านบาท ถ้ามองจากคนนอกเข้ามาเเล้วไม่มีเเบ็กอัพรองรับ ก็คงมองว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น่าเชื่อถือ  ปีที่เเล้วทำ 1,000 ยังหย่อนไป หรือต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย เเต่ก็ยังมีเหตุผลที่รองรับได้ เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายปี  เเต่NUSAก็โตต่อเนื่องตลอด 


     ทั้งนี้ผมเชื่อว่าหุ้น NUSA ต้องรอเรื่องของระยะเวลาสักระยะหนึ่งว่า สิ่งที่ผู้บริหารพูดออกไปนั้นเราสามารถทำได้จริง   นั่นหมายถึงว่าปี 55 ถ้าเราโตได้ตามนั้นจริง ที่บอกไว้ 6,000 ล้านบาท ปี 2556  นักลงทุนก็ต้องหันมามองผมเเล้ว เพราะราคาหุ้น ก็ยังไม่ได้สูงอะไรมาก เเล้วก็เรื่องของปันผลก็ต้องมีให้เห็นถ้าเป็นตัวเลขขนาดนี้  เพราะการลงทุนต้องมองระยะยาว เพราะการลงทุนระยะสั้นคงตอบโจทย์อะไรไม่ได้ เพราะการลงทุนของอสังหาริมทรัพย์ ถ้าลงทุนปีนี้ก็คงเก็บเกี่ยวในปีนั้นเลยไม่ได้ เพราะสร้างคอนโดคงต้องใช้เวลา 3-4 ปี ถึงจะเก็บเกี่ยวได้ เเล้วก็จะไปสะท้อนออกว่าเราทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้


***ปี 2556  ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่เท่าไหร่***

    ปี 2556 มียอดรับรู้รายได้ 5,400 ล้านบาท  ยอดขายน่าจะประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท เรารับรู้รายได้ต่อเนื่อง ในส่วนของโครงการพระราม 2  ซึ่งไม่ได้เยอะนะ มีเพียง 66 ยูนิต รับรู้ปี 56 ประมาณ 34 ยูนิต ซึ่งไม่ได้สูงเลย คงจะเป็นการเติบโตเเบบอนุรักษ์นิยม เเต่ก็ยังเติบโตได้อีก 1,000 กว่าล้าน เนื่องจากพาเคสโซ สร้างเสร็จในปี 2555  เเละรับรู้รายได้ในปี 2556  ก็มีก้อนใหญ่เข้ามา มีโครงการที่จะสร้างเสร็จรองรับ อย่างที่ อัพ เอกมัย  โอนในปลายไตรมาส มูลค่า 1,200 กว่าล้าน เป็นคอนโดมีเนียม ประมาณ 30 ชั้น  ตัวเลชเรามีที่มาที่ไป ไม่ใช่ว่าจะคาดการณ์เอาเอง  สุวินทวงศ์ที่เป็นทาวเฮาส์ที่เหลือ ก็รับรู้ไป เซ็ทคอนโดในย่านบางโพที่จะเริ่มสร้างในปีนี้ ทั้งปี ก็รับรู้เช่นกัน ทีเเรกที่ทำตัวเลขกันก็มองว่ามันสูง  เเต่มันก็สะท้อนสิ่งที่เราทำได้จริง ๆ  ตอนเราเข้าใหม่ ๆ อาจจะน้อยเพราะเราเพิ่งเริ่มสร้าง  ก็ยังไม่มีตัวเลขให้รับรู้  พอเข้าตลาดมา ตอนนี้ก็เกือบครึ่งปี 

***หลังเข้าตลาดเราเปลี่ยนไปไหม***

    ผมมองว่าเป็นระบบระเบียบดีมากขึ้น ถึงจะขาดความคล่องตัวบ้างในระยะเเรก เเต่ระยะหลังก็ไม่ได้เเตกต่างอะไรกัน  ส่งผลให้เรามีระเบียบ ผมว่าเป็นผลดีกับเรา เพราะตอนอยู่นอกตลาดบริษัทฯ อาจมีการผ่อนสั้นผ่อนยาวกับพนักงาน เเต่ปัจจุบันมีระเบียบกติกา เราต้องว่าไปตามไตรมาส ตามข้อกำหนด คุยกันที่เป้าหมาย ถ้าทำได้ ผมก็กล้าขอผู้ถือหุ้นให้กับพนักงานได้  
    อย่างในปีนี้มีการท้าเดิมพันกันเลยถ้าพนักงานทำตามเป้า 6,000 ล้านได้ จะขอโบนัสกี่เดือน เป็นเเรงจูงใจพิเศษขึ้นมา ตรงนี้มาเเล้ว 5,500-5,600 คุณทำได้มั้น 6,000 ล้านบาท ถ้าทำได้ OK คุณจะเอากี่เดือน 5 เดือน 6 เดือน ว่ามาเขาก็จะไปโมดิฟาย 

***การที่ราคาหุ้นเราเหลือประมาณ 0.60 บาท มีนักลงทุนรายใหญ่ เข้ามาคุยใหม ว่าจะทำให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น***

     ยังครับ ผมเชื่อว่าในกลุ่มมาร์เก็ตเมกเกอร์ หรือนักลงทุนรายใหญ่ เขาต้องมองว่า ผลงานต้องสะท้อนออกมาไม่ใช่ อยู่ ๆ จะไปทำหุ้นให้มันหวือหวา ไม่เป็นความเป็นจริง เรากลับ มาดูว่า  ตัวบริษัทฯ ทำอะไร หุ้นจะขึ้นได้ต้องดูผลประกอบการ  ดูที่การทำงานของบริษัทฯ เเละเจ้าของบริษัทฯ อยากให้หุ้นตัวเองดีทั้งนั้น  ผมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ผมก็มีตัวเลขพองโตในหัวใจ ว่า โอเคเราถือ Value ของเรามันจะขึ้น  วันนี้ผมเข้าใจตลาดเเละผู้ถือหุ้น  ว่าสภาพคล่องของหุ้นอสังหาริมทรัพย์คงไม่ค่อยหวือหวา ในทุกตัวในเเฟกเตอร์ของหุ้นอสังหาฯ ผมว่าหุ้น นุสา มีการเทรดเป็นอันดับต้นของกลุ่มอสังหาฯ ผู้ถือหุ้นรายย่อยเรามีประมาณ 6,000 คน  ซึงผมเชื่อว่าวันนี้หุ้นนุสาอยู่ในหัวใจของผู้ถือหุ้นเเล้ว เพราะเราสามารถตอบเเทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ 


---จบ---

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้