Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

เลี่ยงหุ้นที่เจอพิษน้ำท่วม

5,868

เลี่ยงหุ้นที่เจอพิษน้ำท่วม รง.หยุดผลิต-คนตกงาน มุ่งได้อานิสงส์หลังน้ำลง ค้าปลีก-อาหาร-ก่อสร้าง

By : เอกยุทธ อัญชันบุตร

น้ำมาหนัก หุ้นดิ่งแรง "กูรูหุ้น" แนะนักลงทุนเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะที่มีรง.แถวอยุธยา แต่ให้หันมาดูกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบ อาทิ "ค้าปลีก-ขายอาหาร-กิจการยาง-วัสดุก่อสร้าง-ก่อสร้าง" เพราะจะได้อานิสงส์หลังน้ำลด

วันที่ 10 ต.ค. 2554 นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า ตลาดหุ้นหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผันผวนสูงมาก ตั้งแต่เดือนที่แล้วมี Black Monday ลงมาเกือบ 10% จนมีสถานการณ์ปลั๊กหลุด และจันทร์ที่แล้วก็เจอไปอีก -5% กว่า เรียกว่าเป็น Double Black Monday โดยผลกระทบมาจากปัญหาหนี้กรีซ จากนั้นหุ้นก็เริ่มดีดกลับ ขึ้นมาถึง 50 จุด โดยในวันนี้ปิดตลาดภาคเที่ยงที่ระดับ 900.99 จุด ลดลง -8.18 จุด หรือคิดเป็น -0.90% มีปริมาณการซื้อขาย 7,971 ล้านบาท

"อยากเตือนนักลงทุนว่า การขึ้นของหุ้นบ้านเราในช่วงหลัง เหตุผลหลักคือ 1.ต่างชาติขายหุ้น นำเงินออกนอกประเทศ เพราะค่าเงินบาทเราอ่อนลง ทำให้นักลงทุนหันไปถือค่าเงินดอลลาร์กัน 2.ภาวะการถูกฟอร์ตเซลล์ของนักลงทุน ถูกบังคับขายเยอะ 3.พวกป๊อบเทรด พวกโบรกเกอร์ที่มีกองทุนในบริษัท เทรดกันเอง-สร้างวอลุ่มเทียม 4.กองทุนหลายกองทุน มีมาตรการและกฎเกณฑ์คล้ายกันคือ การตัดขาดทุนเมื่อถึง 3% ระดับที่สองคือ 10% ตอนที่หุ้นลงมา ตัวใหญ่ก็แทบทุกตัวที่ถูกขายกันออกมา 5.การช็๋อตเซลล์ของบรรดาขาใหญ่และบรรดากองทุนต่างๆ ทำให้หุ้นตกลงมาเหมือนตกลิฟท์...นี่คือสาเหตุหลักใหญ่ๆ ที่หุ้นตกลงมาในช่วงที่ผ่านมา"นายเอกยุทธระบุ

นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า ความเคลื่อนไหวและความเป็นไปได้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ท่ามกลางข่าวสารบ้านเราทางด้านการเมืองและธุรกิจที่ยังไม่มีความชัดเจน หลายเรื่องถูกปิดบังมาก อย่างสัปดาห์ก่อน หน่วยงานรัฐ-นักวิชการ ก็ออกมาพูดว่า ความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ ประเมินกันแค่ 2-3 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ตนบอกว่า มีหลายแสนล้านบาท วันนี้เห็นชัดเจนว่า น้ำท่วมไหลเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ประเมินคร่าวๆ หลักแสนล้านบาท และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะอันสั้นจากนี้ไปคือ ภาวะคนตกงานช่วงสั้น เพราะโรงงานที่ได้รับผลกระทบ ต้องปิดซ่อมแซม สินค้าผลิตไม่ได้ ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อไป

"ช่วงนี้ การเล่นหุ้นก็อย่าไปชื่นชมกับตัวเลขของผลประกอบการที่จะออกมา เพราะผลประกอบการของไตรมาส 3 ที่จะออกมา กลุ่ม "พลังงาน-ธนาคาร" น่าจะมีกำไร แต่ในไตรมาส 4 พวกนี้มีผลกระทบแน่"นายเอกยุทธกล่าวและว่า โดยโอกาสที่หุ้นขึ้นมาเด้งช่วงสั้นคือ ระดับ 960-980 จุด ก็อาจเกิดได้ จาก 2 สาเหตุคือ 1.ผลประกอบการจากธนาคาร-พลังงาน มีมากเกินกว่าประมาณการ 2.ข่าวร้ายที่อาจกลายเป็นดี คือกรณีกรีซ จะส่งผลระยะสั้นให้ตลาดตอบรับที่อาจรีบาวด์

นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า แต่ระยะ 2-3 เดือนข้างหน้าจากนี้ ถ้าดูจากสถานการณ์น้ำท่วมที่กระทบอย่างหนักแล้ว ตลาดหุ้นคงไปยาก การผลิตจะลดลง คนที่เดือดร้อนก็ต้องการสิ่งต่างๆ เพื่อการยังชีพ มากกว่าจะไปมุ่งหวังจากนโยบายบ้านหลังแรก-รถคันแรก โดยคาดว่าหุ้นที่จะได้รับผลกระทบคือพวกที่มีโรงงานแถวอยุธยาที่เจอน้ำท่วม ซึ่งจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวอย่างน้อย 3-6 เดือน ก็เป็นโอกาสของนักลงทุน ถ้าหุ้นตกแรงๆ อย่างแย่สุดคือ ระดับ 680-740 จุด แต่จุดที่น่าจะรับได้เบื้องต้นคือ 820 จุด ถ้าไม่ต่ำไปกว่าระดับนี้ เพราะภาวะหนี้ของกรีซไม่มีปัญหา มีการช่วยเหลือและผ่อนคลาย ขณะที่บ้านเราตอบรับข่าวน้ำท่วมที่เบาบางได้แล้ว ระดับนี้ก็น่าสะสมได้ แต่หากสถานการณ์ต่างๆ นี้ไม่ดีขึ้น เชื่อว่าตลาดหุ้นคงไปเล่นระดับต่ำกว่า 800 จุดแน่นอน

สำหรับหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์คือ หุ้นค้าปลีก-ขายอาหาร และพวกกิจการยาง เพราะต่างประเทศมีราคากระโดดขึ้นมาสูง พวกนี้จะได้รับผลบวกชัดเจน รวมถึงกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโรงงานที่โดนน้ำท่วม เพราะหลังน้ำลดจะใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้มาก ขณะที่กลุ่มก่อสร้างก็จะได้รับงบประมาณการซ่อมแซม ทำนุบำรุง โดยหุ้นเหล่านี้ ควรเลือกเพียง 5-10 ตัว แล้วคัดมาซื้อจริงๆ แค่ 5 ตัวก็พอ นี่คือทิปในการเล่นหุ้นช่วงจากนี้ หลังหมดภาวะน้ำท่วม

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน-อาหาร-ธนาคาร ก็อยากให้นักลงทุน ลองหาตัวเลขมาดู เพราะหลายบริษัทมีราคาหุ้นลงมามากกว่าครึ่งของการขึ้นไปรอบที่แล้ว โดยลองดูว่า หุ้นดีๆ ที่มีอนาคตหลายตัว ตัวไหนมีราคาลงมามากกว่าครึ่ง แต่พื้นฐานยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม และไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก็น่าเข้าไปสะสม และในระยะ 2-5 ปี จะได้กำไรมากกว่าเท่าตัว โดยต้องซื้อในจังหวะที่ตลาดกำลังแย่

"อย่าลืมว่า ให้เลือกคัดสรรตัวเล่นตามที่บอก และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ประสบภัยธรรมชาติน้ำท่วม แต่ให้ซื้อกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบคือ อาหาร-ค้าปลีก-วัสดุก่อสร้าง"นายเอกยุทธกล่าว

ส่วนราคาทองคำ ยังไม่แนะนำเหมือนเดิม แม้อาจจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะมีความพยายามผลักดันให้ถึง 1,800-2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์อีก แต่ราคาทองคำที่จะขึ้นในระดับนี้ได้ ต้องเกิดภาวะเศรษฐกิจแย่จริงๆ และเงินไม่มีที่ไป แต่ช่วงนี้กระแส Flow ของเงิน มีให้เลือกเยอะ ความเป็นไปได้ที่จะขึ้นสูงจริง ก็อาจมีบ้าง แต่ไม่เยอะ จึงไม่น่าจะลงทุน

ทางด้านค่าเงินบาทไทยนั้น จะเห็นว่า ยุคสมัยทักษิณอยู่ ค่าเงินจะปั่นป่วนทุกครั้ง อ่อนค่าลงไปเยอะ และกลับมาแข็งในช่วงที่รัฐบาลแข็งแกร่ง ใครรู้ล่วงหน้า ก็สามารถสร้างกำไรมหาศาล มารอบนี้ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แค่เพียง 2 เดือนจากระดับ 29 บาท ขึ้นมาถึง 31-32 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ ขึ้นมา 10% ถ้าคนรู้ล่วงหน้า กำหนดนโยบายได้ ก็รวยมหาศาลแบบไม่มีต้นทุนเลย

บทความล่าสุด

HotNews: RJH ทุ่ม 420 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน

บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68

หนาแน่น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้