Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

6 โบรกวิเคราะห์หุ้น IPO CPANEL แนวโน้มเติบโตดี ด้วยเทคโนโลยี Precast Concrete ทดแทนแรงงาน ลดต้นทุนก่อสร้าง ราคาเป้าหมาย 8-9 บาท

8,849

 

IPO ยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจอยู่ในปีนี้ แม้สภาวะเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย และสถานการณ์โควิด-19 ยังตึงเครียด แต่หุ้น IPO ในครึ่งปีแรก 2564 เปิดตัวเหนือราคาจองเกือบทุกราย และครึ่งปีหลังนี้ยังมี IPO จ่อคิวเทรดอีกกว่า 10 ราย โดยเร็วๆนี้ มีบริษัทที่อยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่แม้ว่าภาพรวมจะชะลอตัว แต่รายนี้ไม่ชะลอ

 

บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL)  ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast)  ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้รับเหมา ในการนำ Precast Concrete ไปใช้สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ทั้งแนวราบ แนวสูง ส่งผลให้การใช้ Precast Concrete มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต

 

CPANEL ได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และเริ่มนับหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 64 โดยเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 39.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท ทุนจดทะเบียนจำนวน 150 ล้านบาท และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 110.50 ล้านบาท

 

อีกไม่นานเกินรอคงจะได้เห็นราคา IPO CPANEL ระหว่างนี้มาดูกันว่า บริษัทหลักทรัพย์ 6 แห่ง วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตและให้ราคาเป้าหมายระหว่าง 8-9 บาท อย่างไรบ้าง

 

 

 

FSS ให้ราคาสูงสุดที่ 9 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์  ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองว่าจุดเด่น ของ CPANEL คือการต่อยอดสินค้าให้เป็น High Value โดยใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหารในแวดวงปูนซีเมนต์และงานคอนกรีต ซึ่งในประเทศยังไม่มีผู้เล่นรายใดที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเหมือนกับ CPANEL

 

ประกอบกับ อุตสาหกรรมอสังหาฯแนวราบที่มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องหนุนความต้องการใช้ Precast Concrete จากจุดแข็งเรื่องเวลาและต้นทุน รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ทวีความรุนแรงในปัจจุบันผลักดันภาคการก่อสร้างใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างทดแทนการใช้แรงงานมากขึ้น

 

โดยคาดว่าผลประกอบการ CPANEL ปี 2564 โตโดดเด่น 174% เทียบกับปีก่อน เร่งขึ้นสูง +98% ในปี 2565 และดีต่อเนื่อง +11% ในปี 2566 ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากรายได้ดีดตัวจากฐานต่ำในปี 2563 ขณะที่ทิศทางอัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นต่อเนื่องในปี 2564-2566 เป็น 37.3% 38.5% และ 39.5% ตามลำดับ อีกทั้งต้นทุนทางการเงินสุทธิจะลดลงจากการปรับโครงสร้างเงินทุนหลังได้รับเงินจากการ IPO โดยนำเงินระดมทุนที่เหลือจากส่วนที่นำไปก่อสร้างโรงงานที่ 2 ไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน ทำให้ภาระหนี้สิน และต้นทุนทางการเงินลดลง

 

ดังนั้น เราจึงเลือกประเมินหุ้น CPANEL โดยอิง P/E ที่ 19 เท่า และคาดการณ์ EPS ปี 2565 ที่ 0.48 บาท/หุ้น จึงคำนวณได้มูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 2565 ที่ 9.00 บาทต่อหุ้น โดยระดับ Target P/E ดังกล่าวเทียบกับคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิของ CPANEL ที่เฉลี่ย 55.0% ในปี  2565-2566 จะคิดเป็น PEG เพียง 0.35 เท่า

 

 

ASL ประเมินมูลค่า 8.70 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (มหาชน) ประมาณการกำไรสุทธิในช่วงปี 2564F – 2566F เท่ากับ 44.26 ล้านบาท 80.75 ล้านบาท และ 84.00 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องมาจากประมาณการรายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเท่ากับ  352.13 ล้านบาท 444.69 ล้านบาท และ 484.97 ล้านบาท ตามลำดับ จากแนวโน้มปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น เท่ากับ 38% 40% และ 41% ตามลำดับ เนื่องจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิด economy of scale

 

บริษัทจึงประเมินมูลค่าเชิงปัจจัยพื้นฐานกลางปี 2565 เท่ากับ 8.70 บาท ด้วยวิธี P/E ซึ่งอิง P/E ที่ 19 เท่า ใกล้เคียงกับระดับ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ธุรกิจที่คล้ายกัน

 

 

PST ให้ราคา 8.60 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) มองว่าการก่อสร้างโดยใช้ผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสําเร็จรูป (Precast Concrete) ได้รับการยอมรับมากขึ้นทำให้ลดระยะเวลาก่อสร้าง ลดต้นทุน และการใช้เทคโนโลยีผลิตให้ได้งานคุณภาพดีเหมาะสมกับภาวะตลาดอสังหาฯ ที่แข่งขันสูง โดย CPANEL เป็นหนึ่งในผู้ผลิต Precast Concrete ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 เป็นที่รู้จักของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยบริษัทมีคําสั่งซื้อที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ 30 มิถุนายน 2564 อยู่ที่ 1,150 ล้านบาท มีกําหนดส่งมอบยาวไปถึงปี 2566 สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน

 

บริษัทจึงประเมินราคาพื้นฐานปี 2565 อยู่ที่ 8.60 บาท โดยใช้วิธี P/E ในการประเมินมูลค่าพื้นฐาน CPANEL เปรียบเทียบกับ STC ที่น่าจะพอเทียบเคียงได้เพราะอยู่ในตลาด mai  ทําธุรกิจใกล้เคียงกับCPANEL และมีรายได้เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับหนึ่ง รวมถึงขนาดสินทรัพย์ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ROE ของ CPANEL ดีกว่า ทำให้มองว่า P/E เหมาะสมของ CPANEL น่าจะมี Premium จึงกําหนด P/E เหมาะสมที่ 18 เท่า และประเมินราคาพื้นฐานที่ 8.60 บาท อิงกำไรต่อหุ้นปี 2565

 

 

 

KTZ ประเมินมูลค่าเหมาะสม 8.50 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด มองว่า ผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปของ CPNAEL เป็นที่ต้องการของตลาดผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยมากขึ้น ด้วยมูลค่างานในมือ และการได้งานใหม่เพิ่มจากลูกค้าที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปมากขึ้น จึงคาดว่า CPANEL จะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 90% ในปี 2566 จึงคาดว่า CPANEL จะมีกำไรสุทธิเติบโตในอัตราเฉลี่ย 81% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ จาก 13 ล้านบาท ในปี 2563 เป็น 78 ล้านบาท ในปี 2566 (โดยคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นเติบโตเฉลี่ย 64% ต่อปี)

 

บริษัทจึงประเมินมูลค่าเหมาะสมของ CPANEL ไว้ที่ 8.50 บาท/หุ้น อิงกับ P/E 18 เท่า ของประมาณการกำไรต่อหุ้นในปี 2565 คิดเป็น PEG ประมาณ 0.28 เท่า ของอัตราเติบโตของกำไรต่อหุ้นในระยะ 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ยที่ 64% ต่อปี เทียบกับค่า P/E ของกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตใน SET ที่ 20 เท่า

 

 

 

LHSEC แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐานที่ 8.45 บ.

 

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า แนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ CPANEL แข็งแกร่งตาม New Normal Behavior จากผลกระทบ COVID-19 มองว่ายังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากสำหรับ CPANEL ในตลาด Precast Concrete ทั้งในด้านการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดผ่านการขยายฐานลูกค้าใหม่และตลาดที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามความนิยมใช้ Precast Concrete ที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ด้วยการขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตในครึ่งปีแรก 64 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 70% ประกอบกับ CPANEL เห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ Precast Concrete จึงมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ด้วยการก่อสร้างโรงงานใหม่ กำลังการผลิต 720,000 ตร.ม.ต่อปี บนที่ดินโรงงานเดิม ด้วยงบลงทุนไม่เกิน 500 ล้านบาท และคาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายใน ไตรมาส 1/67  ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มฐานรายได้ให้สูงขึ้นในระยะยาวแล้ว ยังคาดว่าอัตรากำไรจะสูงขึ้นด้วยตาม economy of scale เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารบางส่วนคงที่ และการเพิ่มจำนวนบุคลากรใหม่เพื่อรองรับไม่มากนัก

 

บริษัทประเมินราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 8.45 บ. โดยเป็นค่า P/E เฉลี่ยย้อนหลังของหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันทั้งใน SET และ mai  และมองว่า CPANEL มีความน่าสนใจจากการอยู่ในอุตสาหกรรม Precast Concrete ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และการทำ IPO จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้สูงขึ้น

 

 

KTBST ประเมินราคาเหมาะสมที่ 8.00 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ว่า CPANEL เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) เพียง 5 รายในประเทศที่ใช้ระบบ Fully Automated ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความแม่นยำของชิ้นงานและความรวดเร็วในการผลิต โดยคาดว่าบริษัทจะได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ Precast Concrete ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยปัจจัยหนุนจากข้อได้เปรียบด้านเวลาในการก่อสร้างและต้นทุนการผลิต ซึ่งบริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงงานใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง คาดเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาส 2/65 เพื่อรองรับโอกาสการขยายตัวในอนาคต

 

ประเมินกำไรสุทธิปี 2564 จะโตขึ้น +143% YoY และปี 2565 จะโตต่อเนื่อง +108% YoY ตามการรับรู้ Backlog และ GPM ที่จะยังทรงตัวในระดับสูงที่ประมาณ 37-38% ปัจจัยสนับสนุนจาก Economies of scale และการจัดการต้นทุนที่ดีด้วยข้อได้เปรียบในการใช้กรรมวิธีผลิตระบบ Fully Automated

 

บริษัทจึงประเมินราคาเหมาะสมปี 2565 ของ CPANEL ที่ 8.00 บาท อ้างอิง P/E ของกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ประเมินมูลค่าหุ้นตามลักษณะการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป และวัสดุก่อสร้างที่ผลิตจากคอนกรีตสำเร็จรูป โดยทำการเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ควบคู่การวิเคราะห์ ROE  อัตราการเติบโตในระยะยาว และความสามารถในการทำกำไร ทั้งนี้ เราประเมิน 2-Yr ROE ของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ 10.7% สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มวัสดุก่อสร้างเล็กน้อยที่ 10.3% อย่างไรก็ตาม เราประเมินกำไรสุทธิในช่วง 2 ปี จะเติบโตในระดับสูงถึง +125% (CAGR 2563-2565) นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีจุดเด่นที่มาร์จิ้นสูง ด้วยข้อได้เปรียบจากการใช้การผลิตระบบ Fully Automated ซึ่ง GPM อยู่ในระดับ 37% สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมที่ 22% จึงมองว่า CPANEL ควรจะเทรดที่ระดับ P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ได้เวลาซื้อหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นตก หุ้นร่วง ณ จุด นี้ ด้วยข่าวอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน.. ขอมองต่าง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้