ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ ได้สัมภาษณ์พิเศษ คุณสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน )IIG ก่อนประกาศผลประกอบการไตรมาส2/64 พร้อมเปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจไอแอนด์ไอ กรุ๊ป ในครึ่งหลังปี 64 และดาวรุ่ง ดวงใหม่ ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ เชิญติดตามพร้อมๆ กัน.......

Q: อยากให้ช่วยเล่าถึง IIG ว่าประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอะไร

 

คุณสมชาย : เราเป็นธุรกิจในอุตสาหกรรมดิจิตอลเทคโนโลยี เรามีความเชี่ยวชาญในระบบ Enterprise Software ทั้งระบบ PRM ซึ่งเป็นระบบหลังบ้าน หรือระบบ CRM ซึ่งเป็นระบบหน้าบ้านที่จะต้องติดต่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้า การทำการตลาดแบบดิจิตอล รวมถึงการทำ Data Analytics และ AI แบบครบวงจร

 

Q: ครึ่งปีแรกผ่านไปเป็นอย่างไรบ้างในแต่ละกลุ่ม

คุณสมชาย: ต้องบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนครับ On plans ทั้งหมด เราสามารถมีลูกค้าใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ซึ่งตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน เรามีงานจากลูกค้าใหม่ๆ ปิดเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 200 ล้านบาท และเรายังมีรายได้จากงานประจำทุกปี (Recurring Income) อยู่ที่เฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีนี้เราจะเห็นว่าธุรกิจ ERP มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายๆองค์กรภาคธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีสอดคล้องกับการเข้าสู่ยุค New Normal เช่นเดียวกับธุรกิจCRM ที่ยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนสินค้าใหม่ๆของบริษัท เช่น Customer Experience, Digital Marketing, Data Analytic ก็สามารถปิดการขายและหาลูกค้าใหม่ได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

Q: ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศค่อนข้างรุนแรงขึ้น จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น IIG มีการปรับตัวในเรื่องของการทำงานอย่างไรบ้าง

คุณสมชาย: ตรงนี้ต้องเรียนว่า เรามีความพร้อมและรับมือในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่มีการระบาดโควิด-19 ระลอกแรกครับ เนื่องจากการทำงานของ IIG เรามีการทำงานที่ไหนก็ได้ Work From Anywhere มาแต่ไหนแต่ไร ดังจะเห็นได้จากสำนักงานสาขาของเรา ที่ตั้งอยู่ที่จ.เชียงใหม่ จ.ภูเก็ต ซึ่งถือเป็น Develop Center เพื่อพัฒนาระบบซอร์ฟแวร์ต่างๆของบริษัท ซึ่งลักษณะการทำงานเราก็จะประชุมออนไลน์กันทุกวันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการรีวิว หรือการมอบหมายงานต่างๆ เราทำออนไลน์เป็นปกติอยู่แล้ว รวมถึงการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านระบบออนไลน์ก็สามารถทำได้ดี เพราะเรามีความคุ้นชิ้นกับการทำงานผ่านระบบออนไลน์เป็นอย่างดี รวมถึงระบบงานต่างๆของเราก็อยู่บน Cloud ทั้งหมด ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลงานต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราจะสามารถเปิดทำดูหรือเอาข้อมูลไปใช้ทำงานที่ไหนก็ได้ Anytime Anywhere

 

Q:ลูกค้าใหม่ๆที่บริษัทฯ ได้งานเพิ่มส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอกชนหรือภาครัฐ

คุณสมชาย: ลูกค้าของเราทั้งหมดอยู่ในภาคเอกชน100% ก็จะมีลูกค้ารายใหญ่ ของแต่ละอุตสาหกรรมทั้งหมด เช่น กลุ่มสถาบันการเงิน บริหารสินทรัพย์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจประกันต่างๆ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มโรงพยาบาล รวมถึงธุรกิจค่าปลีกด้วยเช่นกัน

 

Q: IIG คาดว่าผลงานในครึ่งปีหลังจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ใช่ไหม

คุณสมชาย: ผมเชื่อว่าจะเป็นไปตามแผนครับ อย่างที่ผมบอกไป ปัจจุบันเรามีรายได้ประจำที่เกิดขึ้นทุกปีกว่า 300 ล้านบาท มีเก็บในกระเป๋าไว้แล้ว เพราะเป็นรายได้ที่รับรู้อยู่แล้วแน่นอน ส่วนงานที่เข้ามาใหม่กว่า200ล้านบาท รวมกับโครงการเก่าที่เรายังดำเนินการอยู่ รวมแล้วIIG มีBacklog อยู่ราว 300 ล้านบาท และยังเหลือเวลาอีกครึ่งปี ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ และตัวบริษัทฯเอง ก็มีเชื่อมั่นว่า ทั้งปีทำได้ตามแผนงานที่วางไว้ สอดคล้องกับทิศทางในปัจจุบันที่หลายอุตสาหกรรมได้รับกระทบ ยกเว้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเชื่อว่าเราเป็น1ในไม่กี่ธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ท่ามกลางวิกฤติในตอนนี้

 

Q: อยากทราบถึงเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้ในปี64นี้

คุณสมชาย: เราคาดว่าทั้งปี2564 จะมีรายได้รวมเติบโต 30% แตะที่ระดับ 700 ล้านบาท ตามที่เราคาดการณ์ไว้ครับ

 

Q: อยากให้คุณสมชาย อัพเดทความคืบหน้าของบริษัท บริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จํากัด

คุณสมชาย: ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ ก็เป็นบริษัทร่วมลงทุนที่ได้ทำการจัดตั้งและจดทะเบียนไปในช่วงเดือนที่แล้ว ตอนนี้เหมือนกับการเริ่มตั้งไข่ ซึ่งการก้าวเข้ามาในธุรกิจนี้เกิดจากการที่ IIG ได้เคยมีการเป็นที่ปรึกษาและออกแบบแพลตฟอร์มธุรกิจประกันในไทยมาเยอะมาก ทำให้มีความเข้าใจและมองเห็นจุดที่ยังบกพร่องในช่องทางบริการบนระบบดิจิตอลของธุรกิจนี้ อีกทั้งยังมองเห็นเทรนด์ของธุรกิจประกันอยู่ในช่วงขาขึ้น จึงมีความต้องการ สร้าง ดิจิตอลอินชัวรันส์ เพื่อยกระดับแพลตฟอร์มของประกันให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งเราตั้งเป้าหมายว่าบริษัทจะสามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาด ในดิจิตัลอินชัวรันส์ อยู่ที่ 10-20% ของทั้งหมดที่มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ระดับมากกว่าพันล้านบาท

ซึ่งปัจจุบัน เราก็อยู่ระหว่างการทำแผนงานที่เป็น โปรดักส์ Roadmap ออกมาพิจารณาก่อนซึ่งคาดว่าจะสามารถพัฒนาให้แล้วเสร็จได้ภายในปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มเห็นรายได้จาก
แพลตฟอร์มดังกล่าวในปีหน้าภายหลังการเปิดตัวโปรดักส์

 

Q: ตอนนี้จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลกระทบต่อ IIG อย่างไรบ้าง

คุณสมชาย: ก็ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเล็กน้อย เนื่องจากระบบซอร์ฟแวร์ โดยเฉพาะ Salesforce แพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ซึ่งเป็นสินค้าที่บริษัทซื้อนำเข้ามาจัดจำหน่ายนั้น บริษัทยังมีการจ่ายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทสูงขึ้นเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม เราได้มีการบันทึกป้องกันความเสี่ยงของความผันผวนค่าเงินไว้แล้วเรียบร้อย

 

Q: IIG มองแนวโน้มอุตสาหกรรมจะเป็นอย่างไรต่อไป

คุณสมชาย: อย่างที่เห็นในตอนนี้ว่าหลายๆอุตสาหกรรมก็ได้รับผลกระทบแต่Sectorเดียวที่ยังเติบโตที่โดนเด่น ได้ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้นก็คือกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นMega Trend ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย ขณะที่ตอนนี้ประเทศไทยมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอยู่น้อย ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะมีหลายๆบริษัทในกลุ่มนี้ก้าวเข้ามาในตลาดหุ้นอีกหลายตัว เป็นMega trend ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เท่านั้น ที่ผลักดันให้หลายๆกลุ่มเข้าสู่การทำงานในรูปแบบดิจิตอล แต่ภายหลังการจบโควิด-19 ก็เช่นเดียวกัน เพราะทุกภาคธุรกิจจะต้องเร่งฟื้นตัวให้ได้เร็วเพือเข้าสู่สภาวะปกติ ในการฟื้นตัวนี้ โลกก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว พฤติกรรมของคนก็เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นธุรกิจต่างๆจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยน Business Model นำแต่ละเทคโนโลยีมาใช้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่กันครั้งใหญ่ ซึ่งจะทำให้กลุ่มธุรกิจเราได้รับการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ปี

 

Q: เหตุใดIIG จึงมีการใช้เกณฑ์การจ่ายเงินปันผลจากงบการเงินรวม จากเดิมเป็นงบการเงินเฉพาะ

คุณสมชาย: จากการที่บริษัทฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวม จากเดิมที่ปันผลจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯในแต่ละปีนั้น เนื่องจากในงบการเงินรวมจะเป็นการรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยต่างๆที่เป็นบริษัทลูกของ IIG ทั้งหมดเข้ามาด้วย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้มากขึ้น

 

Q: สุดท้ายนี้อยากให้คุณสมชาย ฝากอะไรถึงนักลงทุนและผู้ถือหุ้น

คุณสมชาย: ผมเชื่อว่าในเวลานี้ ด้วยสภาวะของตลาดที่ไม่ค่อยดี นักลงทุนก็จะระมัดระวังในการเข้าลงทุนในกลุ่มต่างๆ ซึ่ง IIG เอง เรามีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นและต่อเนื่องมาตลอด และปีนี้เรามั่นใจว่าจะสามารถเติบโต 30% ได้แน่นอน ทั้งในส่วนของTop Line และกำไรสุทธิ ซึ่งหวังว่าหุ้นของ IIG จะเป็นหุ้นที่น่าลงทุน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้

 

 

///////////////////////////

BY : สิริวัฒนา กลางประพันธ์