รายงานพิเศษ: เจาะลึก"ศักดิ์สยามลิสซิ่ง" IPO น้องใหม่ ขวัญใจมหาชน
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (2 ธันวาคม 2563) -------บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานภาครัฐ ภายใต้ชื่อ “สินเชื่อศักดิ์สยาม” เป็นอีกหนึ่งบริษัทฯ ที่น่าจับตามอง กับโอกาสครั้งสำคัญในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งดูศักยภาพ IPO น้องใหม่ตัวนี้แล้วไปได้สวย
“ศักดิ์สยามลิสซิ่ง หรือ SAK” ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้การกำกับดูแลจากธนาคารแห่งประเทศไทยภายใต้ชื่อแบรนด์ 'ศักดิ์สยาม' (SAKSIAM) ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 25 ปีเทียบเท่าบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย แบ่งเป็น 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1.สินเชื่อทะเบียนรถ (Vehicle Title Loan) 2.สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) 3.สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (Nano Finance) และ 4.สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อรถแลกเงิน (Hire-Purchase and Car for Cash) ที่เป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง
"ศักดิ์สยามลิสซิ่ง" เป็น IPO น้องใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก การเข้ามาระดมทุนครั้งนี้ "ศักดิ์สยามลิสซิ่ง" มีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินและขีดความสามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อผลักดันเติบโตในทุกมิติ ทั้งจำนวนสาขา ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย หรือจำนวนฐานลูกค้าที่จะขยายเพิ่มเติม
นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง เปิดใจถึงเป้าหมายธุรกิจว่า บริษัทฯ จะนำจุดแข็งการดำเนินธุรกิจที่มีความโปร่งใส เป็นมิตรและเป็นธรรม พนักงานมีคุณภาพและมีความเข้าใจลูกค้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน ด้วยนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่รัดกุมและบริการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพ
โดยตั้งเป้าภายในปี 2566 พอร์ตสินเชื่อจะขยายตัวเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท จากพอร์ตสินเชื่อรวม 6,067 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2563 และจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,119 สาขา จากปัจจุบัน SAK มีสาขารวม 519 สาขา ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตก ครอบคลุม 38 จังหวัด รวมถึงลงทุนอัพเกรดเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และนำพาองค์กรไปสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำสินเชื่อรายย่อยระดับชาติ
ผลการดำเนินงานในปี 2560 - 2562 "ศักดิ์สยามลิสซิ่ง" มีรายได้จากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม-บริการ รวมจำนวน 924 ล้านบาท 1,252 ล้านบาท และ 1,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 35.5 และ 27.8 ในปี 2561 และ 2562 ตามลำดับ และมีรายได้รวมในงวด 6 เดือนแรก ปี 2562 – 2563 จำนวน 739 ล้านบาท และ 816 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อจากฐานลูกค้าเดิมและฐานลูกค้าใหม่ ขณะที่มีกำไรสุทธิในปี 2560-2562 อยู่ที่ 290 ล้านบาท 398 ล้านบาท และ 346 ล้านบาท (476 ล้านบาทภายหลังปรังปรุงรายการพิเศษ) ตามลำดับ
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท โดยมีขนาดพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งสิ้น 6,067 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563) และมีจำนวนสัญญาสินเชื่อรวม 230,273 สัญญา แบ่งเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกัน 88% และลูกหนี้ไม่มีหลักประกัน 12% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
“เรามีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองตามกฎหมายของแต่ละปี โดยอัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่อง ความจำเป็นในการลงทุน เงินทุนหมุนเวียน การลงทุนเพิ่มเติม” นายศิวพงศ์ กล่าว
ผศ.ดร.พูนศักดิ์ บุญสาลี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง กล่าวปิดท้ายว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะผลักดันให้ SAK เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ดังนั้นการก้าวเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ถือเป็นจุดสำคัญในการก้าวไปข้างหน้าให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้และทำให้ SAK สามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษกิจฐานรากของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
By:อณุภา ศิริรวง
แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....
FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68