วิกฤติโลกรอบใหม่
By : เทวัญ จงกลรอด บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ นสพ.สยามรัฐรายวัน
เมื่อวานนั่งดูตลาดหุ้น ไหลลงไปกว่า 80 จุด พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย ลงไป 8% กว่า แรงกว่าทุกตลาดในเอเชีย ตลาดที่ตกหนักรองลงมาก็คือ Jakarta Composite ของ อินโดนีเซีย ติดลบไป 4% กว่าๆ
กลายเป็นว่า ประเทศไทย ตื่นตระหนกมากกว่าเพื่อน?
ขณะที่ Shanghai Composite ของจีน ที่ถือเป็นตลาดหุ้นหลักของเอเชีย ลงไปแค่ 1.64%
เมื่อสอบถามดูกลายเป็นว่า "สาเหตุ" ที่ตลาดหุ้นไทยลงแรงก็คือ
1.เจอ "ฟอร์สเซล" กระหน่ำซ้ำอีกแรง ตลาดหุ้นไทย จะมีระบบหนึ่ง เพื่อคุ้มครอง "โบรกเกอร์" ไม่ให้เสียหายมากก็คือ เมื่อหุ้นตกถึงระดับหนึ่ง โบรกเกอร์ จะสามารถเรียก "เงินค้ำประกัน" เพิ่ม ถ้าลูกค้าหาไม่ได้ ก็จะถูก "บังคับขายหุ้น" ออกมา
ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานหุ้นลงไปมากกว่า 15% ก็เลยมีแรงกระหน่ำตลาดออกมา จนเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นไทยตกหนักที่สุดในภูมิภาค
2."ต่างชาติ" กำลังขายหุ้นและเอาเงินออกไปนอกประเทศ ดัชนีที่สะท้อนเหตุการณ์ได้ชัดเจนก็คือ การอ่อนตัวของ "ค่าเงินบาท" ที่สัปดาห์ก่อน อยู่ที่ระดับ 30.30 บาท/ดอลลาร์ เมื่อวานอยู่แถวๆ 31.17 บาท/ดอลลาร์
แสดงให้เห็นว่า มีการ "เทขาย" เงินบาทออกมา และน่าจะมีการนำเงินดอลลาร์ กลับไป สหรัฐ-ยุโรป เพื่อกู้วิกฤติ
3.นักลงทุนไทย "ล้างพอร์ต" เพราะมีประสบการณ์ จาก "วิกฤติ" ที่ผ่านมาหลายครั้ง คือถ้า ระบบสถาบันการเงินของโลกมีปัญหา หรือมีข่าวเกี่ยวกับการ "ล้มละลาย" ของประเทศต่างๆ นักลงทุนไทย จะไหวตัวเร็วมาก เพราะส่วนใหญ่ต่างเข็ดขยาดกับปัญหาเหล่านี้
ยิ่งมีข่าวว่า IMF กับ กองทุนยุโรป ทำท่าว่าจะมีหน้าตักไม่เพียงพอ ที่จะเข้าพยุงฐานะ "กรีซ" ในที่สุดจะต้อง "ลอยแพ" ปล่อยให้หนี้ของ กรีซ กลายเป็น "หนี้เสีย"
ถ้าพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ "ชักดาบ" ปัญหามันอาจจะลามปามกลายเป็น "โดมิโน" ลามไปถึง "สถาบันการเงิน" ที่ถือ "พันธบัตร" ของ กรีซ ให้ล้มระเนระนาด
สรุป "แรงขาย" ที่มีมากเกินไป มาจากหลายสาเหตุประกอบกัน ไม่ได้มาจาก "ปัญหาภายใน" เพราะฐานะของ ประเทศไทย โดยรวมยังอยู่ในขั้นที่จัดว่า "ดี" การส่งออกยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
เอาละครับ เมื่อมองจากหลายปัญหาที่เกิดขึ้น จึงอยากเตือนเพื่อนๆ "นักลงทุน" ทั้งหลายว่า ให้ออกห่างจาก "ตลาดหุ้น" ซักพัก เพราะมองอนาคต ยังไม่ค่อยดี ถ้า "ต่างชาติ" ยังมีพฤติกรรมเทขาย เอาเงินออกนอกประเทศแบบนี้ อยู่เฉยๆ ดีกว่า
เพื่อนผมหลายคน "ขาดทุน" ไปค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ เดินออกตลาดไปกันเกือบหมดแล้ว ไว้รอให้สถานการณ์ต่างๆ กระจ่างชัด ค่อยกลับเข้ามาเล่นใหม่
ปัญหาที่โลกเผชิญอยู่ตอนนี้ เป็นเรื่อง "นอกตำรา" นักวิเคราะห์ยังมองไม่ออกว่า สถานการณ์จะจบในลักษณะใด อะไรที่เราไม่มีความรู้ ก็ไม่ควรเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง....
บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....
รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้