Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

วิเคราะห์เบื้องหลัง EARTH ยอมยุติคดี "ฟ้องแบงก์ธนชาต"

9,515


 ส่องเบื้องหลัง บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH ที่เคยยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีธนาคารธนชาต โดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินมากถึง  60,000 ล้านบาท ในข้อหานำข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินอันเป็นความลับไปเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก และน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ EARTH ถูกสถาบันการเงินอีกแห่งหนึ่งร้องต่อศาลขออายัดเงินของ EARTH ที่เปิดบัญชีฝากไว้กับธนาคารธนชาตจำนวนรวม 800 ล้านบาท  เป็นผลให้บริษัทได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ทั้งที่เงินจำนวนดังกล่าวได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งชาติของจีนนั้น ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 กันยายน 2560) EARTH ตัดสินใจยื่นถอนฟ้องต่อศาล ตามคดีหมายเลขดำที่ พ.1552/2560 แล้ว
 
พลันที่มีข่าวปรากฎออกสู่สาธารณชน ปรากฎกระแสเสียงอื้ออึงไปหมดทั้งบวกและลบ แต่กระแสหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ยินคือคำว่า "ปาหี่" ถ้ามองให้ลึกใช้สมองพินิจพิเคราะห์ให้ถ้วนถี่จะเริ่่มคิดได้ว่า การฟ้องร้องไม่ใช่สิ่งที่จะกระทำกันเล่นๆ ทุกอย่างต้องมีการเตรียมพร้อม วิเคราะห์ผลดี-ผลเสีย ในทุกกรณีไว้หมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วในกรณีนี้ "มดที่จะหาญกล้าไปสู้กับช้าง" ต้องมั่นใจในหลักฐานมัดแน่นเพียงพอว่า สามารถที่จะชนะจำเลยได้ ยิ่งจำเลยเป็นสถาบันการเงินใหญ่ระดับประเทศด้วยแล้วยิ่งต้องรัดกุมที่สุด และงานนี้พลาดไม่ได้แม้เพียงก้าวเดียว หากพลาด!!!ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นคืออะไร ร้ายแรงแค่ไหน  ดังนั้นก็ต้องบอกว่า EARTH แน่มากที่กล้าตัดสินใจทำการแถลงข่าว ประกาศเปิดศึกฟ้องธนาคารธาตในวันนั้น
 
นอกเหนือจากหลักฐานที่มัดแน่นที่มีอยู่ในมือแล้ว อีกเหตุผลที่น่าจะเป็นปัจจัยเร่งให้กระทำการดังกล่าว คงเป็นเพราะมันคือทางออกทางเดียวที่จะยับยั้งความเสียหายที่เกิดกับ "บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ" และยังเป็นการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้ง เจ้าหนี้ หน่วยงานกำกับ ผู้ถือหุ้น  แบบกลายๆ ให้รู้ว่า ผู้บริหารของ EARTH กำลังดิ้นรนอย่างเต็มที่เพื่อหาทางรอดให้บริษัทได้เดินหน้าต่อ ไม่ใช่ยินยอมให้ถูกมัดตราสังข์แล้วรอให้เขาจับโยนเข้าเตาเผาโดยไม่ได้ต่อสู้อะไรเลย 
 
หลังจากจบการแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 จากนั้นทุกอย่างก็เงียบกริบ! ไม่มีการออกมาให้ข้อมูลข่าวสารใดๆ จากผู้บริหารทั้งสองฝั่งระหว่าง "บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ-ธนาคารธนชาต" เข้าใจทั้งสองฝ่ายต่างกำลังใจจดจ่ออยู่กับการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทยว่าจะตัดสินเรื่องนี้อย่างไร
 
เป็นที่คาดเดากันได้ว่า คดีที่มีการเดิมพันด้วยวงเงินระดับนี้จะไม่จบกันในศาลเดียวแน่นอน และขั้นตอนต่างๆ ไม่สามารถเร่งรัดได้ตามใจนึก ทั้งโจทย์และจำเลยจะต้องสูญเสียทั้งทุนทรัพย์ และเวลาอีกมาก ฉะนั้นจึงไม่สามารถประเมินได้เลยว่าผู้เสียหายจะได้รับเงินชดเชยเมื่อใด
 
ปรากฎการณ์ที่ทำให้มีการไกล่เกลี่ยเกิดขึ้นระหว่าง "เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ-ธนาคารธนชาต" น่าจะเรียกว่าเป็นการ "สมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย" น่าจะถูกต้องกว่าคำว่า "ปาหี่" 
 
จุดตัดสินใจของ EARTH น่าจะเกิดขึ้นหลังจากศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งลงวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่อายัดเงินฝากของบริษัทฯ ในบัญชีของสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง โดยศาลได้อนุญาตให้ EARTH สามารถชำระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นหลังจากยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเพื่อให้การดำเนินการค้าตามปกติสามารถดำเนินต่อไปได้ในระหว่างการพิจารณาคดีขอฟื้นฟูกิจการ 
 
 เมื่อแสงสว่างปลายอุโมงค์อุบัติ ถ้ามีเงินทุนหมุนเวียนเข้ามาโดยรวดเร็ว โอกาสทางธุรกิจที่เสียไปแล้วยังพอจะสามารถกอบกู้บางส่วนคืนมาได้ นี่ถือเป็นประเด็นสำคัญที่เปิดโอกาสให้  EARTH กลับมาทำมาหากินได้อีกครั้ง เงินค่าชดเชยความเสียหายที่จะได้จากการฟ้องร้องจึงแทบไม่มีความจำเป็น เพราะไม่รู้ว่าถ้ายังฝืนฟ้องร้องกันต่อไป ต้องสู้กันยาวนานแค่ไหน
 
EARTH ในวันนี้มีทั้งผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้มากมายที่ต้องรับผิดชอบทุกผลประโยชน์และความเสียหายที่จะเกิดตามมา ย่อมจำเป็นต้องตัดใจเลือกทางออกที่ปลอดภัยที่สุด เลือกที่จะกลับมายืนด้วยขาของตนเอง ไม่ได้เลือกกระทำสิ่งต่างๆ ตามความพอใจเฉพาะหน้าแต่อย่างใด ดังนั้นการตัดสินใจครั้งนี้คือทางออกที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงกับบริษัท
 
ในมุมของธนาคารธนชาตเองก็บอกว่ายินดีที่เรื่องนี้ยุติลงด้วยความเข้าใจอันดีทั้งสองฝ่าย ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจน่าจะเป็นเรื่องที่ว่าไม่ต้องไปต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งหากในทางตรงกันข้ามเหตุการณ์ไม่ได้ยุติแบบแฮปปี้เอนดิ้งอย่างเช่นในวันนี้ แต่มีความยืดเยื้อต่ออีกยาวนาน ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับภาพลักษณ์ของธนาคารบ้าง เป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาจริงๆ
 
 ส่วนความคืบหน้าเรื่องขอฟื้นฟูกิจการของ EARTH ศาลล้มละลายได้นัดไต่สวนคำร้องครั้งแรกวันที่ 18 กันยายน 2560 โดยหากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งตั้ง EARTH เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการตามคำร้องขอ อำนาจและหน้าที่ในการบริหารจัดการกิจการและทรัพย์สินจะอยู่ที่ EARTH ซึ่งผู้บริหารเชื่อมั่นว่ามีความรู้ความสามารถในธุรกิจถ่านหินมากพอจะพลิกฟื้นอาณาจักรให้กลับมาแข็งแรงดังเดิมได้อีกครั้ง 
 
 วิกฤตของ "บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ"ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านพ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างน้อยวันนี้สถาณการณ์ก็ทุเลาขึ้นตามลำดับ ยังคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าในวันข้างหน้าปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วในวันนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างไร หากต่างฝ่ายต่างดึงดันที่จะเอาชนะเพียงอย่างเดียว ผลสุดท้ายคือ "แพ้กันหมด"  สู้หันหน้ามาเจรจาเพื่อร่วมกันหาทางออก น่าจะเป็นแนวทางที่เกิดประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย..แบบนี้จะดีกว่าหรือไม่?
 
โดย..กระทิงเปลี่ยว
 



 

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้