สัมภาษณ์พิเศษ: SKY แจกความสดใส

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (30 เมษายน 2562)-------- บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) SKY ภายใต้การบริหารงานของ "สิทธิเดช มัยลาภ" ผู้บริหารหนุ่มหล่อที่รั้งตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ดีกรีไม่ธรรมดา การันตีผลงาน SKY ให้เป็นที่ประจักษ์ ปี2559 กำไร 9.28 ล้านบาท, ปี2560 กำไร 4.92 ล้านบาท ก่อนโตอย่างก้าวกระโดดในปี2561 ด้วยกำไร 108.52 ล้านบาท

 

"สิทธิเดช มัยลาภ" ระบุว่า สำหรับปี 2562 วางเป้าสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แถมส่งซิกเบาๆ ว่าผลงานโค้งแรกโตเข้าเป้า ขณะที่ไตรมาส2/62 พร้อมลุยประมูลงาน 3-4 โครงการ ส่วนภาพรวมทั้งปีนี้ ผู้บริหารหนุ่มมั่นใจเต็มร้อย ยังเป็นปีที่ SKY แจกความสดใส พร้อมแล้วเชิญติดตามบทสัมภาษณ์พิเศษแบบเต็มๆ ...................

 

 

หุ้นอินไซด์: อัพเดตภาพรวมไตรมาสแรกของ SKY เป็นอย่างไรบ้าง

คุณสิทธิเดช: ไตรมาสแรกปีนี้ก็รอรับรองงบ น่าจะประกาศได้ภายในช่วงกลางเดือนหน้า ไตรมาสแรกรายได้เราก็เข้าเป้าตามที่เรากำหนดไว้ ปีที่แล้วเรามีการชนะงานใหญ่ๆอยู่หลายงานรวมไปถึงไปช่วงต้นปีในช่วงมกราคมก็มีการเซ็นสัญญางานใหญ่ๆ งานต่างๆที่ชนะเมื่อปีที่แล้ว เมื่อตอนต้นปีจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ ในช่วงไตรมาสหนึ่งการรับรู้รายได้ไม่ได้เยอะมากก็เป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้ทั้งปีรายได้จะทยอยรับรู้มากขึ้้นในช่วงไตรมาส 2 - 3 และ 4 เป็นหลัก เพราะฉะนั้นไตรมาสแรกก็ต้องรอผลประกอบการที่ชัดเจนในช่วงเดือนหน้า ทุกอย่างทั้งรายได้ทั้งผลกำไรก็เป็นไปตามที่เราวางไว้ตั้งแต่ต้นปี ก็ยังถือว่ามีการเติบโตอยู่

 

 

หุ้นอินไซด์: จากไตรมาสแรกสู่ไตรมาสสองครึ่งปีแรกและปีนี้ คุณสิทธิเดชประเมินอย่างไร

คุณสิทธิเดช: ไตรมาสที่สองเราจะเริ่มมีการเข้าประมูลงานเพิ่มขึ้นสัก 3-4 งาน ก็เป็นงานทางด้าน smart security งานทางด้าน telecommunication งานวิทยุ งาน Network ก็มีอยู่หลากหลายงานที่เราจะเริ่มเข้าไปประมูลงานรวมแล้วมูลค่าก็หลักพันล้านจะเริ่มเข้าประมูลงานในช่วงไตรมาส 2 มีผลของการเข้าประมูลงานที่ได้เรียนไปก็จะทราบอาจจะปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 เราก็จะสามารถที่จะรับรู้รายได้ของโครงการที่เราจะประมูลในช่วงไตรมาส2-3 ก็น่าจะเริ่มสักไตรมาส 4 คงจะมีการรับรู้ได้บางส่วน

 

 

หุ้นอินไซด์: ช่วงนี้ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ หลังเลือกตั้งผ่านไปแล้วจะกระทบต่องานที่บริษัทจะเข้าไปประมูลหรือไม่

คุณสิทธิเดช: เชื่อว่าแผนการดำเนินงานของแต่ละองค์กรทางภาครัฐก็ยังต้องเป็นไปตามการดำเนินการของแผนเดิมที่วางไว้เพราะผมก็จะเชื่อว่ามี KPI ของภาครัฐแต่ละองค์กรที่ยังคงต้องบริหารจัดการต่อมันจะทำให้การที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ทำให้ทุกๆอย่างหยุดเพื่อรอ มันคงเป็นไปไม่ได้ขนาดนั้นมันก็ทำให้การชะลอตัวทางภาครัฐเองที่จะส่งผลมายังเศรษฐกิจภายในประเทศช้าลงตามไปด้วย ก็เชื่อว่ายังมีการผลักดันอย่างต่อเนื่องงานไหนที่มีแผนวางไว้แล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้วปีงบประมาณ 2562 ก็คงจะเดินหน้าต่อเนื่อง ส่วน SKY เองเราก็มีแผนงานที่จะดำเนินงานทั้งฝั่งภาครัฐและเอกชนก็ยังอยู่ในแผนงาน

 

 

หุ้นอินไซด์:อยากให้ช่วยอัพเดตความคืบหน้าโครงการ Digital Platform มีความคืบหน้าอย่างไร

คุณสิทธิเดช: Digital Platform เราทำงานร่วมกับทางท่าอากาศยานไทยเป็นการให้บริการ Free Wifi แล้วก็มี Mobile Application ที่ให้บริการ Service ของการท่าทั้งหมดเราก็เริ่มพัฒนาตัว Application รวมไปถึงการดำเนินการเรื่องการติดตั้ง Wifi รวมไปถึงการติดตั้ง Beacon ในการทั้ง 6 ท่าอากาศยาน ก็มีตั้งแต่สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ การติดตั้ง Wifi รวมไปถึง Beacon ก็ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นเกือบทุกท่าน่าจะจบได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้หรือว่าอย่างช้าภายในต้นเดือนหน้าเดือนพฤษภาคม

ส่วนตัวการ Develop Mobile Application ตอนนี้เริ่ม Launchทีละ Feature เรามีหลาย Feature ที่จะ Launch I-Mobile ครั้งนี้ ความพร้อมแต่ละ Feature นี้เชื่อว่าประมาณอยู่ที่ 70 % ที่ยังต้อง Develop ต่อ เพราะฉะนั้นจะพร้อม Launchทั้งหมด 100 % อยู่ช่วงประมาณช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคมเป็นงาน Digital Platform ของทางการท่าที่เราให้บริการอยู่ตามสัญญาที่เราเซ็นต์เมื่อปลายปีที่แล้ว เราก็มีทำการศึกษาเพิ่มเพื่อที่จะให้บริการ Digital Platform ให้กับหน่วยงานภาคอื่นๆด้วย ตอนนี้ก็อยู่ในแผนงานที่เตรียมอยู่ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนก็จะอาจจะเห็นงานด้านนี้ Digital Platform นอกจากทางการท่าอากาศยานไทยเราก็จะยังบริการให้กับที่อื่นด้วย เชื่อว่าในช่วงไตรมาส 3 จะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

 

 

หุ้นอินไซด์: ตัวธุรกิจหลักที่เราจะมุ่งในปีนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Smart security , Digital Platform , Radio ตัวไหนจะเป็นพระเอก ให้กับ SKY ในปีนี้

คุณสิทธิเดช:จริงๆเป็นพระเอก ทั้ง 3 ประเภทงานในแต่ละด้านตอนนี้หนังเรื่องหนึ่งอาจจะไม่มีพระเอก นางเอก แค่คู่เดียว มีพระเอกแตกต่างกันไปในแต่ละ Sectors อย่างเรื่อง Smart security จะเป็นพระเอกในระยะยาวของ SKY ซึ่ง SKY จะนำธุรกิจ Smart security จากที่เรามีประสบการณ์ทางภาครัฐค่อนข้างสูงมีความเชี่ยวชาญสูงในงานประเภทนี้เราก็จะนำ Expertise ความเชี่ยวชาญของเราออกมายังภาคเอกชน ปีนี้จะเริ่มเห็นงาน Smart security ของ SKY ก้าวเข้าสู่ตลาดเอกชนมากขึ้น ตลาดเอกชนที่เรามองเป็นกลุ่มเป้าหมายมีหลากหลายมากและเชื่อว่าเป็นตลาดที่ยังมี Demand อย่างสูงมาก เป็นทั้งตลาดเรียลแอสเสท , ตลาด Shopping Center ,โรงแรม ,โรงพยาบาล หรือจะเป็นพวกโรงงานอุตสาหกรรม , Office building ตลาดต่างๆเหล่านี้มีความต้องการการให้บริการ Smart security อย่างมาก แล้วภายในช่วงไตรมาส 3 จะเริ่มเห็นผลงานในด้าน Smart security ของภาคเอกชนที่ SKY เริ่มเข้าไปวางเเผน ดำเนินงานแล้วออกดอกออกผลมากขึ้นอันนั้นก็คือ Smart security ในส่วนของ Digital Platform อย่างที่เรียนตอนแรกก็คือเราจะเริ่ม Launch Platform ของทางท่าอากาศไทยก็ในช่วงไตรมาสที่คาบเกี่ยวไตรมาส 2 -3 จะ Launch อย่างเต็มศักยภาพ

ในช่วงไตรมาส 3 เพราะฉะนั้นช่วงไตรมาส 4 จะมีรายได้เริ่มรายได้ทยอยเข้ามาให้กับธุรกิจ Digital Platform รวมไปถึงการวาง Infrastructure ให้กับลูกค้าท่านอื่นๆด้วยก็จะนำรายได้ให้กับบริษัทอย่างแน่นอน ในส่วนงานประเภทที่ 3 ทั้ง Radio เป็นงานที่มีความสำคัญ เป็นงานที่เอื้อให้เจ้าหน้าที่ให้ภาครัฐเราได้ใช้อุปกรณ์วิทยุสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้เขาได้ทำงานในด้านการรักษาความปลอดภัยได้ดีขึ้น เม็ดงานจะเป็นงานที่มีมูลค่าของโครงการค่อนข้างสูงเพราะจะมีการลงทุนทั้งเรื่อง เบด สเตชั่น ทั้งเรื่องตัว Device ก็คือเครื่องวิทยุโทรศัพท์เพราะฉะนั้นเม็ดเงินของมูลค่าของโครงการนี้ค่อนข้างสูงแต่มันก็จะมาแล้วก็ไปโปรเจคเบส แล้วก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการรายได้ของ SKY ที่จะได้รับมาเป็นลักษณะโปรเจคเบสเป็นVolume ที่ใหญ่มีโครงการต่อเนื่อง ก็จะเป็นคนละลักษณะการได้มาซึ่งรายได้ของ SKY เพราะฉะนั้นทั้ง 3 ธุรกิจของ SKY เราโฟกัสอย่างเท่าเทียมกัน ก็จะเป็นธุรกิจหลักทั้ง 3 ที่นำรายได้ให้กับ SKY ในแต่ละรูปแบบที่แตกต่างกันก็จะสร้างความมั่นคงให้กับ SKYได้อย่างครบวงจร

 

 

หุ้นอินไซด์: ปีนี้ SKY ยังคงก้าวกระโดดต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไรหรือไม่

คุณสิทธิเดช: แน่นอน อันนี้ผมตอบในแง่วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ปีที่แล้ว SKY ได้รับรู้รายได้ 966 ล้านบาท ผลกำไรอยู่ที่ 107 ล้านบาทปีนี้ด้วย Backlog ที่เราเซ็นชนะงานปีที่แล้วรวมถึงที่เราชนะงานเมื่อตอนไตรมาส 1 ปีนี้ เชื่อว่า Backlog ที่จะรับรู้รายได้ตามงวดงาน ตามเป้าหมายที่เราวางไว้ต้องมีไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นรายได้ปีที่แล้ว 966 ล้านบาท ปีนี้รายได้เราตาม Backlog ซึ่งจะรับรู้รายได้จริง ในขณะที่เราไม่ต้องหางานเพิ่มเลย ก็อยู่ที่ประมาณเกือบ 3,000 ล้านบาทเพราะฉะนั้นเอาแค่นี้ ถ้าไม่รับงานใหม่เลย จาก 966 ล้านบาท เพิ่มมาเป็น 3,000 ล้านบาท ในปีนี้ในเรื่องรายได้ก็โตขึ้นมากว่า 300 % ถ้าเราได้งานเพิ่มจากโครงการที่เราวางแผนอยู่ทั้งไตรมาส 2 , 3 ,4 ก็จะสามารถรับรู้รายได้ได้บางส่วน ก็จะทำให้เป้าหมายของรายได้ 3,000 ล้านบาท ตาม Backlog เดิมที่จะรับรู้รายได้ก็จะเพิ่มขึ้้นไปอีกเพราะฉะนั้นการเติบโตของ SKY ก็ยังตอบคำเดิมว่าก้าวกระโดด ก็ไม่ต่ำกว่า 300%

ในส่วนผลกำไรเราก็มีการบริหารจัดการที่รัดกุมขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็จะทำให้ GP คือ Gross Profit นั้นสูงขึ้น แล้วมีการทำเรื่อง manage resourceของเราที่ดีขึ้น ก็จะผลไปยัง Net profit คือกำไรสุทธิของเราในเปอร์เซ็นที่เราตั้งเป้าไว้ก็คือ 7 - 8 % ถ้าเกิดคิดคำนวณกันเร็วๆไปได้อย่างที่เรียนตามBacklog ขั้นต่ำ ก็มีไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท แล้วก็บวกผลกำไรที่เรามองว่าจะต้องคงกำไรสุทธิให้ได้ไม่ต่ำกว่า 70-80 % ก็คูณมาเป็นผลกำไรในปีนี้ซึ่งเทียบกับปีที่แล้วก็ยังถือว่าเติบโตก้าวกระโดด

 

 

หุ้นอินไซด์:มีอะไรไปฝากถึงผู้ถือหุ้นแล้วก็นักลงทุน

คุณสิทธิเดช: ก็ต้องฝากท่านผู้ถือหุ้นของ SKY เอง รวมไปถึงนักลงทุนทั่วไปที่กำลังมองหาหุ้นหรือบริษัทที่ต้องการจะเข้าไปลงทุนเพื่อผลกำไรในอนาคต ก่อนที่จะไปลงทุนในบริษัทไหนๆ ก็ควรที่จะต้องศึกษาธุรกิจบริษัทของบริษัทนั้นๆ รวมไปถึงต้องดูธุรกิจของบริษัทนั้นๆ อยู่ในอุตสาหกรรมไหน เป็นอุตสาหกรรมที่เข้าข่าย Descriptive business หรือไม่ เพราะปัจจุบันก็จะเห็นว่ามันมีการ Describe ของธุรกิจในหลากหลายประเภทและหลากหลายธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยเมื่อธูรกิจได้รับผลกระทบก็จะส่งผลมายังผลประกอบการของธุรกิจทั้งรายได้และกำไร ก็ขอให้พิจารณาการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ถูกDescribe จาก Technology ให้ดีที่สุดให้ไปดูธุรกิจที่ Sunrise ธุรกิจ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมีการให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องทั้ง Global ทั้งภายในประเทศด้วยแล้วก็เลือกที่จะลงทุนในธุรกิจในบริษัทที่อยู่ใน Sector นั้นๆ ที่กำลังเติบโต การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงก็ขอให้ทุกท่านพิจารณาให้ดีก่อนลงทุน

 

---จบ---
By:สุกัญญา ศิริรวง