Today’s NEWS FEED

เวทีความคิด

ตลาดหุ้นหลังมีรบ.ใหม่! ไซด์เวย์ดาวน์ในช่วงสั้น รอดูตั้งครม.มียี้หรือไม่? ติงอย่าพูดค่าเงินรายวัน

2,671

ตลาดหุ้นหลังมีรบ.ใหม่! ไซด์เวย์ดาวน์ในช่วงสั้น รอดูตั้งครม.มียี้หรือไม่? ติงอย่าพูดค่าเงินรายวัน

By : เอกยุทธ อัญชันบัตร

"กูรูหุ้น" ชี้ทิศทางตลาดหุ้นหลังได้รัฐบาลใหม่ ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองยังสำคัญอยู่ ช่วงสั้นยังเป็น "ไซด์เวย์ดาวน์" รอดูการตั้งครม.ว่ามียี้หรือไม่ ติงสารพัดนโยบายที่ทั้งลด-ทั้งแจก สวนทางกับต่างประเทศที่มุ่งรัดเข็มขัด พร้อมติงอย่าพูดเรื่องค่าเงินบาทรายวัน เพราะทำให้เกิดการเก็งกำไรกันได้

วันที่ 11 ก.ค. 2554 นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น ให้ความเห็นถึงทิศทางการลงทุนหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้วว่า การเมืองไทยเห็นภาพชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยจะก้าวเข้ามาบริหารประเทศ และที่หุ้นขึ้นมาแรงเพียงวันเดียว หลังทราบผลการเลือกตั้งก็เพราะเหตุผลทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทยชนะเท่านั้น แต่หลังจากขึ้นมาแล้ว ก็ไม่สามารถไต่ระดับได้

"นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเรื่องนโยบายค่าเงินบาท ก็ส่งผลกระทบอย่างสูง เพราะพูดออกมา 2-3 คนก็พูดไม่ตรงกัน ก็เลยไม่รู้จะฟังใคร เพราะค่าเงินเป็นเรื่องเซนซิทีฟมากๆ นโยบายเรื่องนี้เค้าไม่พูดกันรายวัน การเปลี่ยนแปลงจะไม่มีการพูดล่วงหน้า เพราะจะมีการเก็งกำไรกันได้ อย่างเวลานี้ ฝรั่งก็เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินแล้ว โดยนำเงินไปพักไว้ที่บอนด์ คนก็ดูออกว่าหุ้นจะไปต่อได้หรือไม่"นายเอกยุทธกล่าวและว่า อีกทั้งยังมีเรื่องค่าแรงที่ประกาศว่าจะให้ถึง 300 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท ก็ต้องถามกลับว่า ใครจะเป็นคนจ่าย และถ้าไม่ทำตามนโยบาย จะเป็นอย่างไร จะเห็นว่า หลายนโยบายของพรรคเพื่อไทย ไม่ส่งผลดีต่อบริษัทเอกชนเลย

นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า เวลานี้หลายประเทศทั่วโลกต่างรัดเข็มขัด ตัดงบประมาณการใช้จ่าย เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปได้ อย่างอังกฤษก็เพิ่งประกาศขึ้นราคาก๊าซและไฟฟ้าอีกเกือบ 20% แต่ของไทยเรา มีแต่นโยบายที่ทั้งลด-ทั้งแจก ก็ไม่รู้ว่า ประเทศเราวิเศษกว่าที่อื่นตรงไหน ถึงคิดได้แต่นโยบายแบบนี้

เมื่อถามว่า แต่ใครมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่หรือ นายเอกยุทธ ตอบว่า ถูกต้อง ถ้ากระตุ้นธรรมดาจะไม่เดือดร้อนเลย แต่ที่มาออกนโยบายแบบนี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ พุ่งขึ้น แล้วมันจะช่วยได้อย่างไร ถ้าเอกชนได้กำไรเพิ่มก็อยากจ่าย แต่สภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ ฝรั่งเองก็ถือบอนด์อย่างเดียว ยังมองไม่ออกเลยว่าจะกระตุ้นอย่างไร

เมื่อถามถึงนโยบายที่จะลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ทำให้มีส่วนต่าง เอามาช่วยในเรื่องค่าแรงที่เพิ่มขึ้น นายเอกยุทธ กล่าวว่า "แต่อย่าลืมว่า ประเทศเราโกงภาษีกันส่วนใหญ่ คนจ่ายก็จะบอกว่า ขาดทุน-ไม่ยอม ทั้งที่กำไรมหาศาล เพราะที่จ่ายภาษีจริง ก็ไม่ใช่ตัวเลขจริง"

"เท่าที่ดูสถานการณ์ตลาดหุ้นตอนนี้  ปัจจัยการเมืองยังเป็นปัจจัยหลัก ดูปริมาณการซื้อ-ขาย ยังยืนยันว่า ต่างประเทศยังขาย ดังนั้นจากนี้ไปในช่วงสั้นๆ ยังคงเป็น Sideway down นักลงทุนยังรอดูว่า ตั้งครม.มียี้หรือไม่ มีคนภาพลักษณ์รุนแรงหรือไม่ เพราะภาคเศรษฐกิจจะไม่ตอบรับ ผมยังมองเรื่องปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะเดือนหน้าต้องดูว่า มีการโยกย้ายทหารอย่างไร นี่ยังไม่นับรวมปัจจัยเสี่ยงทางต่างประเทศ อย่างจีนมีเงิน เป็นตลาดใหญ่ แม้จะลดดีกรีความร้อน แต่ยังไปได้ดี เงินที่หมุนเวียนทั่วโลก ก็ไปอยู่ที่เกาหลี-ไต้หวัน-สิงค์โปร์ มาเมืองไทยแค่ลงทุนในบอนด์ เราอย่าไปหวังว่าจะบูม 1,200 จุด แต่อาจได้เห็นในปลายปี แต่ก็คงเหนื่อย ขอย้ำว่า เวลานี้ ปัจจัยเปลี่ยน-ข้อมูลเปลี่ยน ตอนนี้ผมขายอย่างเดียว ขึ้นมาก็ขายอย่างเดียว และกลับมาเล่นตัวที่มีการเก็งกำไร"นายเอกยุทธกล่าว

นายเอกยุทธ กล่าวด้วยว่า หุ้นเบญจภาคีถ้าขึ้นมาก็ต้องขาย โอกาสที่คนจะทำราคาขึ้นมาก็มี แต่ที่ขึ้นมาเมื่อปลายเดือนที่แล้วจนถึงเลือกตั้งเสร็จแล้ว ไม่ใช่ว่า มาแล้วทุกอย่างเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ทุกอย่างต้องใช้เวลา ต้องดูฝีมือของรัฐบาลใหม่

"โอกาสปรับฐานลงมานั้น ใน 2-3 เดือนข้างหน้าต้องปรับลง แต่จะหลุดต่ำกว่าพันจุดหรือไม่ ยังดูยาก เพราะขึ้นมาเยอะ ถ้าหลุดพันจุดจะมากกว่า 10% เพราะถ้ามีกระบวนการใช้อำนาจที่มิชอบ ต่างประเทศก็จะหนี หุ้นก็คงลงอีก ที่กังวลมากสุดคือการเมืองในประเทศ ยังมีความเสี่ยงอยู่ ถ้ามีกำไรก็ควรขายออกไป"นายเอกยุทธกล่าว

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

งบท่องเที่ยว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบๆ ส่วนการเก็งกำไรนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้